Friday, April 14, 2017

THE BOSS’S DAUGHTER (2015, Olivier Loustau, France, A+25)

THE BOSS’S DAUGHTER (2015, Olivier Loustau, France, A+25)

--ดูแล้วนึกถึง เทพธิดาโรงงาน” (1982, Euthana Mukdasanit, A+30) มากๆ เพราะมันเป็นเรื่องของความรักต่างชนชั้นระหว่างชนชั้นแรงงานกับชนชั้นนายจ้างเหมือนกัน และหนังเป็นทั้งส่วนผสมระหว่างหนังรักโรแมนติกกับหนังสะท้อนสังคมเกี่ยวกับการกดขี่คนงานในโรงงานเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่เพศ เพราะเทพธิดาโรงงานเป็นเรื่องของสาวโรงงานกับหนุ่มนายจ้าง ส่วน THE BOSS’S DAUGHTER เป็นเรื่องระหว่างหนุ่มโรงงานกับสาวชนชั้นนายจ้าง

--แต่สิ่งที่เราสนใจมากๆในหนังเรื่องนี้ก็คือว่า นอกจาก THE BOSS’S DAUGHTER จะมีทั้งส่วนที่เป็นเรื่องโรแมนติก กับส่วนที่เป็นการสะท้อนปัญหาสังคมแล้ว หนังยังให้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของเรื่องไปกับการแข่งขันรักบี้ของหนุ่มคนงานด้วย

คือเราว่าเนื้อหาส่วนที่เป็นการแข่งขันรักบี้นั้น จริงๆแล้วมันไม่ได้ serve ทั้งความโรแมนติก และไม่ได้สะท้อนปัญหาสังคมแต่อย่างใด เราก็เลยชอบมากๆที่หนังเรื่องนี้ให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากกว่าหนังสะท้อนสังคมของฝรั่งเศสเรื่องอื่นๆที่เราเคยดูมา มันเหมือนกับว่าจริงๆแล้วการเล่นกีฬามันอาจจะมีความสำคัญอย่างมากต่อชีวิตคนงานโรงงานบางคนจริงๆก็ได้ แต่การเล่นกีฬามันไม่ได้ตอบสนองจุดประสงค์ในการสร้างหนังทั่วๆไปน่ะ เพราะหนังโรแมนติกก็คงไม่ได้ให้ความสำคัญกับจุดนี้ และหนังสะท้อนสังคมโรงงานอย่าง TWO DAYS, ONE NIGHT (2014, Jean-Pierre Dardenne, Luc Dardenne), NIGHTSHIFT (2001, Philippe Le Guay) และ DERNIER MARQUIS (2008, Rabah Ameur-Zaïmeche) ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะการเล่นกีฬามันไม่ได้สะท้อนปัญหาสังคมแต่อย่างใด ชีวิตส่วนนี้ของคนงานโรงงานก็เลยถูกตัดทิ้งออกไปจากหนังทั่วๆไป ทั้งที่มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนงานโรงงาน และมันอาจจะมีความสำคัญต่อชีวิตของคนงานโรงงานบางคนก็ได้ 

เราก็เลยชอบมากๆที่ THE BOSS’S DAUGHTER ให้ความสำคัญกับการแข่งขันรักบี้ แทนที่จะตัด ชีวิตส่วนนี้ทิ้งไปจากหนัง เพียงเพราะมันไม่ได้สะท้อนปัญหาสังคม

--ดีใจมากๆที่ Stephane Rideau ยังมีหนังดีๆเล่นอยู่ จำได้ว่าเราเคยอยากได้เขามากๆตอนเขาเล่นหนังอย่าง WILD REEDS (1994, André Téchiné), FULL SPEED (1996, Gaël Morel) และ SITCOM (1998, François Ozon)

No comments: