Sunday, August 15, 2021

TROPICAL PLANT (2021, Tanakit Kitsanayunyong, 17min, A+30)

TROPICAL PLANT (2021, Tanakit Kitsanayunyong, 17min, A+30)

สวนพฤกษาในฝันเขตร้อน

 

1.หนังงดงามมาก ๆ อันนี้เป็นเวอร์ชั่นเต็มของหนังสั้น 5 นาทีที่เคยฉายในเทศกาลภาพยนตร์โควิดเมื่อต้นปีก่อน เราอาจจะแบ่งองค์ประกอบในหนังออกได้เป็นสององค์ประกอบใหญ่ ๆ ซึ่งก็คือ ภาพและเสียง

 

1.1 ภาพในหนังงดงามอย่างสุด ๆ มันเป็นภาพขาวดำที่หลายครั้งเป็นการ superimposition เอาภาพมาซ้อนกัน และส่วนใหญ่แล้วเป็นภาพพฤกษาแมกไม้ใบหญ้าต่าง ๆ โดยให้บรรยากาศล่องลอย ตรงตามชื่อของหนังที่เป็น “สวนพฤกษาในฝันเขตร้อน” เพราะภาพในหนังเป็นพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป ราวกับอยู่ในความฝัน

 

1.2 เสียง ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเสียงสัมภาษณ์ผู้หญิงคนนึง เธอเป็นแม่ที่มีลูกอย่างน้อยสองคน ลูกชายคนนึงของเธอดูเหมือนจะมีปัญหาทางจิต สามีของเธอก็มีปัญหากับลูกชาย เธอเองก็มีปัญหาการเงิน มีหนี้สิน เธอรู้สึกเหนื่อยหน่ายเหลือเกินกับการมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เธอก็อยากได้ทีวีจอใหญ่ ๆ และเธอกับลูกชายก็ฝันเห็น “อาม่า” ที่เสียชีวิตไปแล้ว

 

นอกจากเสียงสัมภาษณ์แล้ว หนังเรื่องนี้ก็มีการใช้เสียงดนตรีประกอบเล็กน้อย และมีการใช้เสียงแปลก ๆ ที่เราไม่แน่ใจว่าเป็น “เสียงลมหายใจ” หรือเปล่า ในช่วงท้าย ๆ ของหนังด้วย

 

2.จริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าภาพและเสียงในหนังเรื่องนี้มันสัมพันธ์กันยังไงนะ 55555 แต่มันก็ดูเข้ากันได้ดีในระดับนึง เป็นความเข้ากันโดยไม่มีเหตุผลแบบที่เรามักพบได้ “หนังทดลอง”

 

ประทับใจกับงานด้านภาพมากๆ ด้วยแหละ รู้สึกว่า Tanakit เก่งมาก ๆ ในการทำภาพให้ออกมาดูงดงามสุด ๆ ได้แบบนี้

 

ถ้าเอาเฉพาะงานด้านภาพอย่างเดียว เราว่าหนังเรื่องนี้สามารถปะทะได้กับหนังของ Etant Donnés (the Hurtado Brothers) อย่าง AURORE (1989), ROYAUME (1991) และ BLEU (1994) ได้เลย และเหมาะฉายควบกับ “ฐานของแสงเท่ากับรังสีของแสง” (2012, Wachara Kanha, 22min) ด้วย

https://www.etant-donnes.com/wonderland/

https://www.youtube.com/watch?v=hlsgzOZNkho&t=841s

 

3.การเลือกใช้บทสัมภาษณ์ในหนังก็ประหลาดดี เราจะไม่รู้แน่ชัดถึงประวัติชีวิตของผู้ให้สัมภาษณ์ และมันมีความ “สะเปะสะปะที่ดี” อยู่ในการเลือกเสียงสัมภาษณ์ เพราะนอกจากผู้ให้สัมภาษณ์จะพูดถึงปัญหาชีวิตของตัวเองแล้ว เธอยังพูดถึงวิธีการหุงข้าวเหนียวผสมกับน้ำกะทิ, พูดถึงการซื้อหวย, พูดถึงค่าเช่าห้องของป้า, พูดถึงความอยากได้ทีวีจอยักษ์ และพูดถึงโลกของวิญญาณด้วย

 

เราชอบความสะเปะสะปะแบบนี้นะ เพราะเราชอบหนังที่ focus ไปที่จุดเล็ก ๆ ในชีวิตธรรมดาของมนุษย์แบบนี้น่ะ แทนที่จะเน้นพูดถึง conflict ใหญ่เพียงอันเดียวในชีวิตตัวละคร และมองข้าม “แง่มุมอีกหลายร้อยแง่มุม” ในชีวิตตัวละครไป (แบบที่หนัง narrative ที่เล่าเรื่องแบบ linear ชอบทำกัน) เพราะฉะนั้นการที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ focus ไปที่ “ปัญหาใหญ่เพียงอันเดียว” ในชีวิต subject แต่นำเสนอจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมายในชีวิตคน มันก็เลยเข้าทางเราพอสมควร ถึงแม้ว่า “ความกระจัดกระจาย” ของมันอาจจะทำให้พลังทางอารมณ์ลดลงไปบ้างก็ตาม

 

4.จุดที่เราชอบที่สุดเป็นการส่วนตัว อาจจะเป็นจุดที่พูดถึงความอยากได้ทีวีจอยักษ์มั้ง 5555 เพราะจุดนั้นเป็นจุดที่ “คนนอกครอบครัว” สามารถเข้าใจได้ดี ในขณะที่จุดที่พูดถึงปัญหาชีวิตรุนแรงในครอบครัวตัวเองถือเป็นจุดที่ให้อารมณ์รุนแรงที่สุด แต่พอเราอยู่นอกครอบครัวนั้น เราก็เลยอาจจะมีระยะห่างนิดนึงจากประเด็นที่ subject พูดถึง

 

จุดที่น่าสนใจที่สุดก็คือการพูดถึงวิญญาณของอาม่าที่ไปเข้าฝันคนต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องเล่าที่พิศวงมาก ๆ ชอบมาก ๆ

 

5.ประทับใจกับการคิดภาพออกมาได้อย่างงดงามสุด ๆ และนำมาประกอบกับเสียงสัมภาษณ์นะ เพราะถ้าหากเราดูที่ตัวเนื้อหาของหนัง โดยไม่ได้คำนึงถึงภาพแล้ว เราจะนึกถึงหนังของ Supakit Seksuwan น่ะ ที่เป็นการนำเสนอกิจวัตรเล็ก ๆ น้อย ๆ ของญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวตัวเอง อย่างหนังเรื่อง HERE COMES THE SUN (2008, 7min) และ THE LOVE (2007, 8min) แต่หนังสองเรื่องนี้จะนำเสนอภาพที่ตรงไปตรงมาน่ะ อย่าง THE LOVE ก็ถ่ายตัวผู้ให้สัมภาษณ์ไปเลย ในขณะที่ TROPICAL PLANT จะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นมาอีกหนึ่งขั้น คือแทนที่จะถ่ายตัวผู้ให้สัมภาษณ์ หนังเรื่องนี้ก็นำเอาภาพที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเสียงสัมภาษณ์มาใช้ประกอบกันไปด้วย ซึ่งเราว่าการประกอบสร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมามันยากพอสมควร

 

6.พอดูหนังเรื่องนี้แล้วก็คิดได้ว่า ในช่วง COVID ระบาดแบบนี้ เราอยากสนับสนุนให้คนทำหนังทดลองออกมาเยอะ ๆ นะ 55555 เพราะหนังทดลองแบบนี้มันไม่ต้องให้ “นักแสดง” มาเจอหน้ากันแล้วเสี่ยงต่อการติดโควิดน่ะ หนังทดลองมันสามารถทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบมากมาย โดยที่ตัวผู้สร้างหนังและทีมงานไม่ต้องเสี่ยงกับการติด COVID แต่อย่างใด เราสามารถสัมภาษณ์คนจากทางไกลก็ได้ และสามารถนำภาพที่ไม่เกี่ยวกับเสียงสัมภาษณ์มาประกอบกันก็ได้ แล้วมันก็สามารถกลายเป็นหนังที่งดงามสุด ๆ ได้เช่นกัน

 

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่

https://www.youtube.com/watch?v=H_SmRpqVddw


No comments: