YOU & ME & ME (2023, Wanweaw
Hongvivatana, Weawwan Hongvivatana, A+30)
1.งดงามที่สุด สิ่งที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้
ก็คือการที่ส่วนหนึ่งของหนังมันเหมือนสะท้อนสายตาที่ “ผู้หญิงมองผู้ชาย”
ได้ในแบบที่ทาบทับกับสายตาของเราเวลามองผู้ชายได้ตรงมาก ๆ คือเหมือน desire
ของตัวละครหลักของหนังมันตรงกับ desire ของเราในระดับที่สูงมาก
ๆ
เพราะฉะนั้นในฉากที่ตัวละครพยายามจะจ้องตาหนุ่มหล่อให้ได้
8 วินาที แล้วกล้องมันแทนสายตาของตัวละครหญิง หนังก็เลยเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ “จ้องตาหนุ่มหล่อเป็นเวลานานหลายวินาที”
ไปพร้อมๆ กับตัวละครหญิงด้วย ผลก็คือดิฉันตายคาโรงด้วยอาการน้ำลายฟูมปากในฉากนั้นไปด้วยเลยค่ะ
การได้จ้องตาหนุ่มหล่อเป็นเวลานานหลายวินาทีในฉากนั้นไปพร้อม ๆ กับตัวละครหญิง
มันเป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ซึ่งนี่แหละมันคือสิ่งที่ดิฉันเคยเขียนถึงมาแล้วหลายครั้งว่า
มันคือ “หนึ่งในคุณค่าสูงสุดของภาพยนตร์” สำหรับดิฉัน
เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น การที่เกย์/กะเทยอย่างดิฉัน
จะไปจ้องหน้าหนุ่มหล่อเป็นเวลานานหลายวินาทีตามท้องถนน มันก็เสี่ยงกับการที่จะต้อง
“โดนต่อย” กลับมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดิฉันทำได้อย่างปลอดภัย ก็คือการได้จ้องผู้ชายหล่อ
ๆ ผ่านทางจอภาพยนตร์เท่านั้นแหละ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีมาก ๆ
2.ซึ่งจริง ๆ แล้วในยุคปัจจุบัน หนังที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้จ้องมองหนุ่มหล่ออย่างเต็มที่
มันมีเยอะมาก เหมือนหนังตั้งแต่ทศวรรษ 2000 เป็นต้นมา มันอาจจะเต็มไปด้วยหนัง female gaze, gay gaze, etc. และไม่ได้ถูก dominate
ด้วย male gaze เหมือนหนังก่อนปี 2000 แต่สิ่งที่พิเศษในหนังเรื่องนี้
ก็คือว่ามันทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครนำหญิงทั้งสองตัวมาก ๆ น่ะ คือเหมือนเวลาเรามองพระเอกในหนังเรื่องนี้
เราไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นเกย์วัย 50 ปีกำลังมองหนุ่มหล่อเหมือนเวลาที่เราดูหนังเรื่องอื่น
ๆ แต่เรารู้สึกว่าเรากำลังเป็นเด็กสาวที่กำลังมองดูหนุ่มหล่อจริง ๆ
คือเหมือนเวลาที่เรากำลังจ้องตาพระเอกในหนังเรื่องนี้ เรารู้สึกจริง ๆ ว่า
“Like a virgin
Touched for the very first time
Like a virgin
When your heart beats next to mine
Gonna
give you all my love, boy
”
คือรู้สึกแบบนี้จริง ๆ ค่ะ การดูหนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็น virgin อีกครั้ง 555555
3.เหมือนเราดูแล้วรู้สึกเข้าใจตัวละครนำหญิงทั้งสองตัวมาก
ๆ เลย คือเราอาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจของยูกับมีในบางครั้ง
แต่ก็รู้สึกเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกการกระทำและการตัดสินใจของยูกับมีในเกือบทุกฉากเลย
คืออาจจะไม่ได้เห็นด้วย แต่ก็รู้สึกเข้าใจมาก ๆ
4.ความดีงามทางภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้
เราคงปล่อยให้คนอื่น ๆ เป็นฝ่ายเขียนถึงแล้วกัน เพราะเราไม่ถนัด แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมาก
ๆ ในหนังเรื่องนี้ ก็คือการที่หนังมันทำให้นึกถึงยุคปี 1999 จริง ๆ โดยเฉพาะ
4.1 การถอนเงินออกจากธนาคาร
เพราะตอนนั้นกูก็ทำ แต่ตอนนั้นกูมีเงินในบัญชีทั้งหมดแค่ราว 2 หมื่นบาทเองมั้ง
เพราะฉะนั้นการที่เราถอนเงินที่มีอยู่เพียงน้อยนิดออกมาจนหมด ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเสียดายดอกเบี้ยที่ควรจะได้รับแต่อย่างใด
4.2 ความรู้สึกว่า “civilization” เข้ามาเยือนกรุงเทพแล้ว
เมื่อเริ่มเปิดเดินรถไฟฟ้าในช่วงปลายปี 1999
4.3 นิตยสาร “เธอกับฉัน”
ที่เราขอยอมรับว่ามีอิทธิพลต่อความเงี่ยนของเราอย่างรุนแรงมาก แต่เป็นในช่วงทศวรรษ
1980 เพราะตอนที่เราเป็นวัยรุ่นในทศวรรษ 1980 นั้น เราก็เคยซื้อนิตยสาร “เธอกับฉัน”
หลายฉบับ และหนึ่งใน “ผู้ชายในฝัน” ของเราในยุคนั้น ก็คือนายแบบที่ชื่อ “มาร์ค
มาร์โลว์” ที่ถ่ายแบบลงนิตยสาร “เธอกับฉัน” อยู่ 2-3 ครั้งมั้ง ซึ่งนายแบบคนนั้นก็มีส่วนคล้ายพระเอกหนังเรื่องนี้ในบางจุดเหมือนกัน
และถ้าหากเราจำไม่ผิด เขาก็เป็นลูกครึ่งฝรั่ง/ไทย เหมือนกัน
แต่น่าเสียดายที่เขาหายสาบสูญไปเลยหลังจากนั้น
คือเหมือนเขาถ่ายแบบลง “เธอกับฉัน” แค่ไม่กี่ครั้ง แล้วก็หายสาบสูญไปจากวงการ เราเคยซื้อเล่มที่เขาถ่ายแบบขึ้นหน้าปก
น่าจะประมาณปี 1987 แต่เราไม่มีนิตยสารเล่มนั้นเก็บไว้แล้ว เพราะปลวกกินนิตยสารเธอกับฉันที่เราเคยซื้อไว้ในยุคนั้นไปหมดแล้ว
ก็เลยรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้
บันทึกยุคสมัยเอาไว้ได้ดีทีเดียวค่ะ 555
5.ชอบที่หนังเรื่องนี้สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของคู่แฝดออกมาได้อย่างละเอียดอ่อนมาก
ๆ ด้วย
คือเหมือนพอนึก ๆ ดูแล้ว
หนัง/ละครเกี่ยวกับแฝดส่วนใหญ่ที่เราชอบ มักจะไม่ได้ออกมาในแนว “สมจริง” แบบนี้นะ
55555 โดยคู่แฝดแบบ fiction ที่เราชอบมาก ๆ ก็มีเช่น
5.1 โอบเดือน - เอื้อมดาว ใน “บ้านสอยดาว”
ที่เป็นสองแฝดหญิงที่ incest กันเอง ถ้าจำไม่ผิด
5.2 Eve กับ Alexandra ใน MASTER
OF THE GAME (1984, 6HOURS 53MINS, miniseries, จากบทประพันธ์ของ Sidney
Sheldon) ซึ่งเราขอยกให้ Eve ในมินิซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในตัวละครหญิงที่เราชื่นชอบมากที่สุดในชีวิต
เพราะเธอหนักมากจริง ๆ ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป
แต่พวกตัวละครแฝดหญิงเหล่านี้ก็ไม่ได้มาแนว
“สมจริง” น่ะ เราก็เลยชอบมากที่หนังเรื่องนี้เหมือนพาเราไปสำรวจความรู้สึกนึกคิดของคู่แฝดได้ในแบบที่ละเอียดอ่อนมาก
ๆ
No comments:
Post a Comment