Sunday, January 23, 2005

MY STEP-BROTHER FRANKENSTEIN (A+)

หนังที่ได้ดูในวันนี้
1.MYSTERIOUS SKIN (2004, GREGG ARAKI) A+
2.MY STEP-BROTHER FRANKENSTEIN (2004, VALERY TODOROVSKY) A+
http://www.kinokultura.com/reviews/R104frankenstein.html
3.BEING JULIA (2004, ISTVAN SZABO) A
4.MODIGLIANI (2004, MICK DAVIS) B

DESIRABLE ACTOR
1.BILL SAGE—MYSTERIOUS SKIN
http://www.imdb.com/name/nm0756083/
2.TOM STURRIDGE—BEING JULIA (+ VANITY FAIR)
3.SHAUN EVANS (เกิดปี 1980)—BEING JULIA

FAVORITE ACTOR
1.DANIIL SPIVAKOVSKII—MY STEP-BROTHER FRANKENSTEIN
2.JOSEPH GORDON-LEVITT—MYSTERIOUS SKIN
3.BRADY CORBET (BRIAN LACKEY)—MYSTERIOUS SKIN

FAVORITE ACTRESS
1.YELENA YAKOVLEVA—MY STEP-BROTHER FRANKENSTEIN

FAVORITE SUPPORTING ACTRESS
1.ELISABETH SHUE—MYSTERIOUS SKIN
2.MARY LYNN RAJSKUB—MYSTERIOUS SKIN
http://www.imdb.com/name/nm0707476/
3.LUCY PUNCH—BEING JULIA
4.MIRIAM MARGOLYES—BEING JULIA + MODIGLIANI

FAVORITE MUSIC
MYSTERIOUS SKIN—HAROLD BUDD + ROBIN GUTHRIE (อดีตสมาชิกวง cocteau twins)

MYSTERIOUS SKIN เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกโรแมนติกมากๆ ทั้งที่เนื้อหาในหนังไม่ได้โรแมนติกเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกโรแมนติกกับหนังเรื่องนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะหนังเรื่องนี้พูดถึงหนุ่มเหงา บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าหนังเรื่องนี้มีดนตรีประกอบที่โดนใจและให้บรรยากาศเหงาหวานอย่างมากๆ เพลงประกอบส่วนใหญ่ในหนังเรื่องนี้เป็นของวง SLOWDIVE แถมมีเพลง CRUSHED ของวง COCTEAU TWINS อยู่ในเรื่องนี้ด้วย

ดู MYSTERIOUS SKIN แล้ว รู้สึกว่า GREGG ARAKI น่าจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งของ GUS VAN SANT กับ TODD HAYNES สองเจ้าแม่ผู้กำกับเกย์แห่งสหรัฐได้สบาย เพียงแต่ว่า ARAKI คงไม่เลือกที่จะสร้างหนังกระแสหลักเอง MYSTERIOUS SKIN เป็นหนังที่ใช้ฉากหลังเป็นทศวรรษ 1980 กับต้น 90 ดูแล้วก็เลยนึกถึงหนังบางเรื่องของ GUS VAN SANT อย่างไรก็ดี สไตล์ภาพและการใช้สีบางช่วงที่ปรากฏในหนัง กลับไม่ทำให้นึกถึงหนังฮอลลีวู้ดในยุค 80 แต่ทำให้นึกถึงหนังในยุค 50-60 มากกว่า ก็เลยทำให้นึกถึง TODD HAYNES ด้วยเหมือนกัน

ตัวละครหลักของ MYSTERIOUS SKIN คือชายหนุ่มสองคนที่มีความผูกพันกัน แต่ทั้งสองแทบจะไม่ได้พบกันเลย และทั้งสองก็ไม่ใช่คนรักกันด้วย จุดนี้ก็เลยทำให้ดิฉันรู้สึกโรแมนติกมากๆ ทั้งๆที่เนื้อหาจริงๆของมันไม่ได้โรแมนติก

MYSTERIOUS SKIN มีเนื้อหาบางช่วงพูดถึงการ SEXUALLY ABUSE เด็ก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นประเด็นที่ซ้ำซากมาก แต่การนำเสนอประเด็นนี้ในหนังเรื่องนี้ กลับไม่ทำให้ดิฉันรู้สึกว่ามันน่าเบื่อหรือซ้ำซากเลย มันดูแตกต่างไปจาก THE BUTTERFLY EFFECT (2004, ERIC BRESS, J. MACKYE GRUBER, A-), CLASS TRIP (CLAUDE MILLER, A+) และ THE CELEBRATION (THOMAS VINTERBERG, A+) ดิฉันรู้สึกว่าหนังทั้งสี่เรื่องนี้นำเสนอเนื้อหาตรงจุดนี้ได้อย่างน่าสนใจมากในแนวทางที่แตกต่างกันไป

เนื้อหาบางช่วงของ MYSTERIOUS SKIN พูดถึงชีวิตเกย์ในนิวยอร์คในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ด้วย ก็เลยรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เหมือนกับเป็นภาค 2 ของหนังไตรภาคที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นก็คือหนังไตรภาคที่พูดถึงเกย์นิวยอร์คในยุคต่างๆ โดยภาคแรกคือ A HOME AT THE END OF THE WORLD (2004, MICHAEL MAYER, A+) ที่พูดถึงเกย์นิวยอร์คยุค 1980, ต่อด้วย MYSTERIOUS SKIN ซึ่งเป็นภาคสอง ส่วนภาคสามคือ PARTY MONSTER (2003, FENTON BAILEY, RANDY BARBATO, A) ที่พูดถึงเกย์นิวยอร์คในยุค 80-90

ฉากหนึ่งที่ชอบมากในหนังเรื่องนี้คือฉากจานบินตอนต้นเรื่อง แต่ MRS. LACKEY (LISA LONG) กลับบอกว่ามันเป็นบอลลูนตรวจอากาศ

ชอบฉากที่ MRS.LACKEY ใส่ชุดลูกหมีด้วยเหมือนกัน

ฉากรูปภาพ VERMEER ก็ซึ้งมาก ไม่แน่ใจว่าดาราที่เล่นในฉากนี้ชื่อ billy drago หรือเปล่า

ชอบการแสดงของทุกคนในหนังเรื่องนี้มาก มันไม่ได้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนอย่าง A HOME AT THE END OF THE WORLD แต่มันเป็นการแสดงในสไตล์ที่ดิฉันชอบ

ไม่รู้มีใครได้ดูดีวีดี TOTALLY F***ED UP ของ GREGG ARAKI แล้วยัง เห็นมีขายในกรุงเทพมานานราว 1-2 เดือนแล้ว

พูดถึง TODD HAYNES ตอนนี้ดีวีดีที่น่าดูมากๆคือ DOTTIE GETS SPANKED ของ TODD HAYNES ที่พูดถึงเกย์วัย 7 ขวบ ดูรายละเอียดการสั่งซื้อดีวีดีหนังเรื่องนี้ได้ที่
http://www.zeitgeistfilms.com/videocatalog/product_info.php?products_id=89


--ชอบการถ่ายภาพของ MODIGLIANI ในระดับ A+ ชอบการกำกับหนังเรื่องนี้ในระดับ C- สรุปว่าก็เลยชอบหนังเรื่องนี้ในระดับประมาณ B

--เห็น ELSA ZYLBERSTEIN ใน MODIGLIANI แล้วรู้สึกสงสารเธอมากๆ ดิฉันชอบเธอในหนังของ RAOUL RUIZ แต่รู้สึกว่าเธอควรจะเลิกเล่นหนังเกี่ยวกับจิตรกรเมื่อราว 100 ปีก่อนได้แล้ว เธอเคยรับบทเป็นโสเภณีขาประจำของวินเซนต์ แวน โก๊ะใน VAN GOGH (1991, MAURICE PIALAT, A++++) ซึ่งเธอก็ดูดี หลังจากนั้นเธอก็มารับบทเป็นนางเอกในหนังเรื่อง LAUTREC (1998, ROGER PLANCHON, B+) แล้วนี่เธอยังจะมาเล่นเป็นคนรักของ MODIGLIANI อีก เธอไม่เบื่อกับบทแบบนี้บ้างหรืออย่างไรนะ

--พูดถึง TOUCH THE SOUND แล้วนึกขึ้นมาได้ว่า สมัยก่อนนู้น เมื่อครั้งยังไปเที่ยวเธค บางทีก็เจอกลุ่มคนหูหนวกเข้าไปเที่ยวเธคด้วยเหมือนกัน แถมคนกลุ่มนี้ยังเต้นตามจังหวะได้อีกด้วย คงเป็นเพราะเสียงเพลงในเธคมันสั่นสะเทือนมากๆ คนกลุ่มนี้ก็เลยสัมผัสจังหวะตึ๊งๆๆๆที่พื้นได้สบาย และเต้นตามจังหวะเพลงแดนซ์ได้ตรงสเต็ปทั้งๆที่หูไม่ได้ยินเสียง

--วันนี้ตอนดู BEING JULIA ที่แกรนด์อีจีวี สยามดิสคัฟเวอรี ทางโรงหนังก็ไม่ยอมเปิดเพลงตอนจบให้ทั้งๆที่ไม่มี Q&A ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มาก เดาว่าเพลงตอนจบหนังเรื่องนี้อาจเป็นเพลง SMOKE GETS IN YOUR EYES ที่เพราะมากๆด้วย

--ตอนดู MODIGLIANI ที่โรงเดียวกันในรอบต่อมา ทางโรงหนังก็ไม่ยอมเปิดเพลง ending credit ให้ในช่วงแรก แต่เดาว่าคงมีคนไปด่า เพราะพอเวลาผ่านไปราว 3-4 นาที เพลงตอนจบหนังถึงดังขึ้นมาอีกครั้งนึง

--ยังดีที่ตอนจบ MYSTERIOUS SKIN ไม่มีปัญหาอะไร ทางโรงแกรนด์อีจีวีเปิดเพลงให้ตามปกติ

No comments: