Thursday, February 11, 2021

TAMPOPO

 YOUR EYES TELL (2020, Takahiro Miki, Japan, A+15) 


ชอบช่วง 2/3 แรกของหนังมาก ๆ แต่ไม่ค่อยอินกับช่วงท้ายของหนัง 


DEMON SLAYER THE MOVIE: MUGEN TRAIN (2020, Haruo Sotozaki, Japan, animation, A+30) 


1.ชอบการฆ่าตัวตายในความฝันซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากๆ 


2. แต่เหมือนหนังมันมีความ macho เกินไปจนทำให้เราไม่รู้สึกอินน่ะ หรือหนังภาคนี้มันไม่มีตัวละครที่ทำให้เราอินมั้ง เราก็เลยชอบหนังเรื่องนี้น้อยกว่า Japanese animation อีกหลายเรื่อง ทั้ง MY HERO ACADEMIA: HEROES RISING (2019, Kenji Nagasaki), FATE/ STAY NIGHT, DIGIMON ADVENTURE: LAST EVOLUTION KIZUNA (2020, Tomohisa Taguchi), BUNGO STRAY DOGS: DEAD APPLE (2018, Takuya Igarashi) อะไรพวกนี้ ไม่รู้เป็นเพราะว่า กลุ่มตัวละครเอกในหนังญี่ปุ่นกลุ่มหลัง มันดูไม่ค่อยมาโชมากนักหรือเปล่า เราเลยค่อนข้างรับได้ แต่กลุ่มตัวละครเอกใน DEMON SLAYER มันดูเหมือนมาเพื่อ "ปลุกเลือดบูชิโดให้เดือดพล่าน" มาก ๆ เราก็เลยถอยห่างออกมาหน่อย 



MONSTER HUNTER (2020, Paul W.S. Anderson, A+20) 


พอดูหนังเรื่องนี้ต่อจาก WONDER WOMAN 1984 แล้วก็อยากให้หนังทั้งสองเรื่องรวมเข้าด้วยกัน 555 เพราะ MONSTER HUNTER สู้กันจริงจังมาก แต่ตัวละครแห้งมาก ๆ ตามสไตล์หนังที่สร้างจาก videogame ส่วน WONDER WOMAN ตัวละครดูมีน้ำมีเนื้อมาก แต่ฉากสู้กันดูกร่อยไปหน่อย 


TAMPOPO (1985, Juzo Itami, Japan, A+30) 


1.คลาสสิคที่สุด จริง ๆ แล้วเราเคยดูช่วงต้นของหนังเรื่องนี้เมื่อราว 25 ปีก่อนจากวิดีโอผี แต่เหมือนช่วงนั้นเครื่องเล่นวิดีโอเทปของเรามีปัญหา เราก็เลยไม่ได้ดูต่อจนจบ แล้วก็ไม่ได้หาหนังเรื่องนี้มาดูอีก จนกระทั่ง bkksr เอามาฉาย 


เหมือนหนังเรื่องนี้เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่ออาหารไปเลยตั้งแต่เมื่อ 25 ปีก่อน เพราะเรานึกไม่ถึงว่าการทำอาหารมันจะละเอียดลออ ต้องใส่ใจทุกขั้นตอนขนาดนี้ 5555 ทั้งระดับความด่างของน้ำที่ใช้ลวกเส้น, ระดับความแรงของไฟที่ใช้ต้มน้ำซุป, ระดับความหนาบางของการหั่นชิ้นเนื้อหมู, etc. นึกไม่ถึงว่าการทำอาหารที่ดูเผินๆเหมือนง่ายๆอย่าง ramen จริงๆ แล้วมันหนักมากๆ 


2.ชอบที่หนังเหมือนทั้งชื่มชมและล้อเลียนความเป็นญี่ปุ่นในขณะเดียวกัน คือดูแล้วขื่นชมความเป็นญี่ปุ่นมากๆในแง่ความตั้งใจจริงในการทำงาน ความพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด แต่หนังก็ไม่ได้เชิดชูมันแบบหนังชาตินิยม แต่ผลักมันไปให้สุดทางจนมันกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน โดยไม่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นการดูถูกเหยียดหยาม 


3.ชอบบทภาพยนตร์แบบนี้มากๆ ตรงที่มันไม่ได้เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง แต่เฉไฉออกจากเส้นเรื่องหลักเป็นระยะ ๆ นึกว่าได้รับแรงบันดาลใจจาก THE DISCREET CHARM OF THE BOURGEOISIE (Luis Bunuel) 


4.พวกฉากแทรกนี่เราว่าคลาสสิคเกือบทุกฉาก ทั้งฉาก 


4.1 ดูดหอยนางรม

4.2 แม่ที่ตายไม่ได้ ต้องฟื้นคืนขีพขึ้นมาทำอาหารเย็นให้ครอบครัวกินก่อน

4.3 พนักงานต๊อกต๋อยที่เชี่ยวชาญอาหารฝรั่งเศส 


5.ฉาก ending credit ก็คลาสสิคมาก ดูแล้วอยากมีน้ำนมให้ตุ๊กตาหมีดูดบ้าง 


IDEAL HOME (2018, Andrew Fleming, A+10) 


1.กราบ Steve Coogan กับ Paul Rudd เหมือนการแสดงของสองคนนี้ช่วยพยุงหนังไว้ไม่ให้ล่มสลายได้ 55555 


2. รู้สึกว่าถ้าหนังตั้งเป้าจะเป็นหนังตลก ดูเพลิน ๆ ห้ามคิดมาก และเน้นความ "พาฝัน"  มันก็พอไปไหวนะ แต่ถ้าหนังเรื่องนี้มันตั้งเป้าจะส่งสารทางสังคมว่า เกย์ก็เลี้ยงเด็กได้ เราว่ามันไม่ใช่นะ 555 


เพราะคู่เกย์ในหนังมันดูรวยมากน่ะ รวยจนน่าจะใช้ในการ "พาฝัน" สำหรับผู้ชมเกย์ที่ยากจนอย่างเราได้ แต่รวยจนไม่น่าจะมาใช้เป็น argument ว่า "คู่เกย์ทั่วไป" ก็เลี้ยงเด็กได้

No comments: