Thursday, August 03, 2023

RIP Sophie Fillieres (1964-2023)

 

RIP Sophie Fillieres (1964-2023)

 

เราเคยดูหนังที่เธอกำกับแค่เรื่องเดียว ซึ่งก็คือ WHEN MARGAUX MEETS MARGAUX (2018) แต่เราชอบหนังเรื่องนั้นอย่างสุดขีดมาก ๆ เป็นหนังที่ดูแล้วนึกถึงตัวเองมาก ๆ

 

WHEN MARGAUX MEETS MARGAUX เล่าเรื่องของ Margaux (Sandrine Kiberlain ซึ่งถือเป็น one of my most favorite actresses of all time) หญิงวัย 45 ปีที่ได้พบกับ Margaux (Agathe Bonitzer ซึ่งเป็นลูกสาวของ Sophie Fillieres ในชีวิตจริง) หญิงสาววัย 20 ปีที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายกับมาร์โกซ์วัยกลางคนมาก ๆ  จนทั้งคนดูและตัวมาร์โกซ์วัยกลางคนก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับว่ามาร์โกซ์วัยกลางคนได้ time travel ไปเจอกับตัวเองในอดีต และสามารถแก้ไขประวัติชีวิตตัวเองใหม่ได้ สามารถแก้ไขทางเดินต่าง ๆ ที่เคยผิดพลาดในอดีตได้

 

เหมือนหนังเรื่องนี้ตรงใจเรามาก ๆ ในสองจุด จุดแรกก็คือมันตรงใจเรามาก ๆ ในแง่ที่ว่า เราเองก็หมกมุ่นกับอดีตและทางเดินชีวิตที่ผิดพลาดของตัวเองในอดีต ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่หนังแบบ PEGGY SUE GOT MARRIED รักนั้น...หากเลือกได้ (1986, Francis Ford Coppola) และหนังแนว time travel หรือ multiverse หลาย ๆ เรื่องเคยพูดถึงเหมือนกัน เพราะเราเองก็ชอบคิดว่า “ถ้าหากคุณย้อนเวลากลับไปเจอตัวเองในอดีตได้ คุณจะให้คำแนะนำต่อตัวเองในอดีตยังไง เพื่อที่ตัวคุณเองในอดีตจะได้ไม่ทำผิดพลาดร้ายแรงใด ๆ อีก”

 

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือว่า WHEN MARGAUX MEETS MARGAUX ตอบสนองเราอีกจุดนึงด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไปไกลกว่าหนังแนว time travel เรื่องอื่นๆ เพราะเราว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงนิสัยของตัวเองเมื่อราว 20 กว่าปีก่อนด้วย (ซึ่งเป็นสิ่งที่หนังอาจจะไม่ได้ตั้งใจ) นั่นก็คือนิสัยที่ว่า “เรามักจะต้องการให้ใครสักคนหรือหลาย ๆ คน มาเป็นทายาททางอุดมการณ์ของเรา” 55555

 

คือเราไม่รู้ว่ามนุษย์คนอื่น ๆ มีนิสัยอะไรแบบนี้เหมือนกับเราหรือเปล่า คือเราว่ามนุษย์หลายคนอาจจะอยาก “ย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองในอดีตไม่ให้ทำผิดพลาดนู่นนั่นนี่” แต่เนื่องจากไม่มีมนุษย์คนใดสามารถย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองในอดีตได้ มนุษย์หลาย ๆ คนก็เลยนำ “บทเรียนชีวิต” ไปถ่ายทอดให้แก่ “รุ่นน้อง” แทน ซึ่งเราว่า WHEN MARGAUX MEETS MARGAUX มันสะท้อนนิสัยมนุษย์ตรงจุดนี้ได้ดีสุด ๆ

 

คือเราว่าเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน คือเราอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนที่จะถ่ายทอดให้แก่ “คนที่อายุน้อยกว่าเรา” แต่เราก็เหมือนกับว่า “อยากถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตในการดูภาพยนตร์” ให้แก่ “คนที่อายุน้อยกว่าเรา” น่ะ 55555 เหมือนเราอยากจะปลูกฝังความเป็น cinephile หรืออะไรทำนองนี้ให้แก่ “รุ่นน้อง” หรือ “เด็กรุ่นใหม่ ๆ” ให้มารักการดูหนังเหมือนกับเรา

 

ซึ่งเราว่า WHEN MARGAUX MEETS MARGAUX มันสะท้อนธรรมชาติมนุษย์ตรงจุดนี้ได้ดีสุดๆ และเหมือนมันทำให้เห็นถึง “อันตราย” หรือ “ข้อควรระวัง” ของนิสัยมนุษย์ตรงจุดนี้ด้วย เพราะถึงแม้ “ความอยากถ่ายทอดบทเรียนชีวิตให้แก่รุ่นน้อง” มันจะเกิดจาก “ความปรารถนาดี” แต่ในบางครั้งมันก็อาจจะกลายเป็น “การเจ้ากี้เจ้าการ” หรือ “การเข้าไปเสือกชีวิตคนอื่นมากเกินไป” โดยเฉพาะถ้าหากรุ่นพี่มองข้ามความจริงที่ว่า “ไม่มีรุ่นน้องคนไหน หรือมนุษย์คนไหน ที่จะเหมือนกับเราไปซะทั้งหมด” มนุษย์คนอื่น ๆ ก็ย่อมจะต้องมีสิ่งที่แตกต่างจากเรา มีรสนิยมบางอย่างแตกต่างจากเรา สิ่งที่สร้างความทุกข์ให้เราอาจจะเป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้แก่อีกคนก็ได้, etc.

 

เพราะฉะนั้นพอเราดู WHEN MARGAUX MEETS MARGAUX เราก็เลยหวีดสุดขีด เพราะเรารู้สึกว่าหนังมันสะท้อนธรรมชาติหรือลักษณะนิสัยบางอย่างของมนุษย์ตรงจุดที่ทำให้เรานึกถึงตัวเองมาก ๆ โดยเฉพาะตัวเราเองเมื่อ 20 ปีก่อนที่อาจจะมีลักษณะ “ร้อนวิชา” หรืออยากถ่ายทอดอะไรต่าง ๆ มากเกินไป 55555

 

 

No comments: