ตอนนี้ได้ดูแค่ LENINGRAD COWBOYS GO AMERICA (B+) ค่ะ ยังไม่ได้ดูภาค MOSES
พูดถึง LENINGRAD COWBOYS GO AMERICA ก็นึกถึงหนังสารคดีเรื่องนึงค่ะ นั่นก็คือ COOL AND CRAZY (2001, KNUT ERIK JENSEN, A-) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายชรากลุ่มหนึ่งที่เป็นคณะนักร้องประสานเสียงในนอรเวย์ หนังถ่ายทอดชีวิตของชายชรากลุ่มนี้ออกมาได้อย่างน่ารักและเพลินๆดี และเนื้อหาส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับการทัวร์ของชายชรากลุ่มนี้ จำไม่ได้ว่าเขาไปทัวร์ที่เอสโตเนียหรือว่าที่รัสเซีย แต่รู้สึกว่าดินแดนที่เขาไปทัวร์จะมีสภาพเศรษฐกิจแร้นแค้นกว่านอรเวย์
แต่ที่ชอบ COOL AND CRAZY แค่ A- เป็นเพราะว่าไปๆมาๆ กลับประทับใจกับทิวทัศน์ในเรื่องมากกว่า “ชีวิตของชายชรา” หรือ “เสียงร้องของชายชรา” ซะอีกค่ะ ฉากที่ทำให้ดิฉันรู้สึกอินอย่างสุดๆในเรื่องนี้ คือฉากของทิวทัศน์เวิ้งว้างที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ และเสียงที่ดิฉันชอบที่สุดในเรื่องนี้ กลับเป็นเสียงคลื่นของท้องทะเลมากกว่าเสียงร้องเพลงประสานเสียง ถ้าหาก COOL AND CRAZY เปลี่ยนจุดโฟกัสของเรื่องใหม่ มาเป็นทิวทัศน์ที่เวิ้งว้างว่างเปล่า และเสียงคลื่นกับเสียงลม แทนที่จะพูดถึงชีวิตชายชราและเสียงเพลงของชายชราเหล่านี้ หนังเรื่องนี้อาจจะโดนใจดิฉันมากๆถึงขั้น A+ ก็เป็นได้ (เคยมีหนังอิตาลีเรื่องนึงชื่อว่า “I PREFER THE SOUND OF THE SEA” ซึ่งชื่อหนังอิตาลีเรื่องนี้ตรงกับความรู้สึกของดิฉันมากๆค่ะ)
อย่างไรก็ดี ที่กล่าวมานี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าชายชราในเรื่องนี้น่ารังเกียจแต่อย่างใดนะคะ แต่เป็นเพียงเพราะว่าดิฉันไม่ค่อยอินกับชีวิตของพวกเขาเท่าไหร่ค่ะ และดิฉันก็ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับแนวดนตรีของชายชราเหล่านี้ด้วย
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้ที่ http://www.imdb.com/title/tt0276189/
หนังเรื่องนี้ได้รับการผลิตขายเป็นดีวีดีที่เมืองนอกแล้ว รู้สึกว่า NOI ALBINOI (2003, DAGUR KARI, A+), ZERO KELVIN (1995, HANS PETTER MOLAND, A-) และหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เหมาะมากสำหรับการดูในหน้าร้อนในประเทศไทย ดูแล้วจะได้คลายร้อนขึ้นมาได้บ้าง
ตอนนี้ได้ดูหนังของไมเคิล พาวเวลไปแค่ 2 เรื่องเองค่ะ ซึ่งก็คือ PEEPING TOM (A+/A) กับ BLACK NARCISSUS (1947, A+/A) รู้สึกประทับใจกับสีสันของหนังสองเรื่องนี้มากๆค่ะ รู้สึกว่าเขาเลือกใช้สีได้กระทบใจดี
อย่าจำชื่อหนัง BLACK NARCISSUS สลับกับหนังดังต่อไปนี้
1.BLACK ORPHEUS (1959, MARCEL CAMUS) http://www.imdb.com/title/tt0053146/
2.PINK NARCUSSUS (1971, JAMES BIDGOOD, A-) http://www.imdb.com/title/tt0067580/
3.PINK FLAMINGOS (1972, JOHN WATERS, A+)
4.BLACK FLAMINGOS (1998, HOUCHANG ALLAHYARI) ผู้กำกับหนังเรื่องนี้เป็นชาวอิหร่านที่อพยพไปสร้างหนังในออสเตรีย หนังของเขาเคยเข้ามาเปิดฉายในกรุงเทพแล้ว 3 เรื่อง ซึ่งได้แก่ I LOVE VIENNA (1991, B+), FEAR OF HEIGHTS (1994, A+) และ BORN IN ABSURDISTAN (1999, A-/B+)
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมถ้ำมอง ทำให้นึกถึงหนังอีก 4 เรื่องค่ะ ซึ่งก็คือ
1.KIKA (1993, PEDRO ALMODOVAR, A+)
2.THE CRY OF THE OWL (1987, CLAUDE CHABROL, A) http://www.imdb.com/title/tt0092797/
3.LADY BEWARE (1987, KAREN ARTHUR, B+) http://www.imdb.com/title/tt0093379/
4.SLIVER (1993, PHILLIP NOYCE, B-) http://www.imdb.com/title/tt0108162/ ชอบเพลง CARLY’S SONG ของ ENIGMA ที่ใช้ประกอบหนังเรื่องนี้มาก
ANNA MASSEY ที่เล่นใน PEEPING TOM ยังคงมีผลงานการแสดงดีๆออกมาอยู่เรื่อยๆค่ะ ถึงแม้เธอจะอายุมากแล้ว เธอมักได้เล่นแค่บทประกอบในช่วงนี้ แต่เธอก็ขโมยซีนมากๆ
ANNA MASSEY เล่นหนังเรื่อง
1.DEJA VU (1997, HENRY JAGLOM, A+) เธอปะทะกับวาเนสซา เรดเกรฟในเรื่องนี้
2.BELONGING (2004, CHRISTOPHER MENAUL) เธอปะทะกับเบรนดา เบลธิน (Secrets and Lies) และโรสแมรี แฮร์ริส (Spider-Man) ในเรื่องนี้ http://www.imdb.com/title/tt0412046/
3.THE MACHINIST (2004, BRAD ANDERSON)
4.THE SLEEPER (2000, STUART ORME) http://www.imdb.com/title/tt0296855/ ถ้าเข้าใจไม่ผิด หนังเรื่องนี้เคยมาฉายทางเคเบิลทีวีเมื่อไม่นานมานี้ นำแสดงโดยไอลีน แอทคินส์ในบทของนางมารร้าย!!!!!
CARL BOEHM พระเอกของ PEEPING TOM เคยเล่นหนังให้ไรเนอร์ แวร์เนอร์ ฟาสบินเดอร์ 4 เรื่อง ซึ่งได้แก่
1.MOTHER KUSTERS GOES TO HEAVEN (1975, A)
2.FOX AND HIS FRIENDS (1975, A)
3.EFFI BRIEST (1974)
4.MARTHA (1974)
มีการประกาศรายชื่อหนัง 32 เรื่องที่จะมาฉายในเทศกาลหนังยุโรปปีนี้แล้วค่ะ ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=16981
รู้สึกว่าหนังที่จะฉายในปีนี้ เพิ่งเข้ามาเปิดฉายในกรุงเทพเมื่อไม่นานมานี้ 4 เรื่อง ซึ่งได้แก่
1.SOME SECRETS (2002, ALICE NELLIS, A+) อ่านความเห็นของดิฉันที่มีต่อหนังเรื่องนี้ได้ที่ http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=8047
2.FRENCHMEN หรือ LE COEUR DES HOMMES (2003, MARC ESPOSITO, A-) อ่านความเห็นของดิฉันที่มีต่อหนังเรื่องนี้ได้ที่ http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=9033
3.NYNKE (2002, PIETER VERHOEFF, B/B-) ถ้าจำไม่ผิด หนังเรื่องนี้ฉายที่สยามดิสคัฟเวอรีประมาณเดือนม.ค.ปี 2003 เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตผู้หญิงต้องสู้ที่ดิฉันไม่ค่อยรู้สึกอินด้วยสักเท่าไหร่
4.ONE WAY TICKET TO MOMBASA (2002, HANNU TUOMAINEN, B-) ดิฉันไม่ค่อยอินกับหนังวัยรุ่นน่ารักๆเรื่องนี้เหมือนกัน แต่อาจจะเหมาะกับคนที่รู้สึกอินกับ THE LETTER และ CRYING OUT FOR LOVE, IN THE CENTER OF THE WORLD ที่พูดถึงความผูกพันต่อคนที่กำลังจะตายจากไปเหมือนกัน
ส่วน TSATSIKI FRIENDS FOREVER (2002, EDDIE THOMAS PETERSEN) ที่จะมาฉายในงานนี้นั้น ดิฉันเข้าใจว่าเป็นภาคต่อของหนังเรื่อง TSATSIKI, MUM AND THE POLICEMAN (1999, ELLA LEMHAGEN, A) ที่เคยมาฉายที่ศาลาเฉลิมกรุงในช่วงต้นปี 2002 เพราะหนังสองเรื่องนี้นำแสดงโดย SAMUEL HAUS ในบทของเด็กน้อย TSATSIKI เหมือนกัน
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ดิฉันจะชอบ TSATSIKI, MUM AND THE POLICEMAN อย่างมากๆ แต่ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะชอบ TSATSIKI FRIENDS FOREVER มากนัก เพราะปัจจัยที่ทำให้ดิฉันชอบ TSATSIKI, MUM AND THE POLICEMAN อย่างรุนแรง ไม่ใช่ตัวเด็กน้อยซาซิกิ และไม่ใช่คุณแม่ของเขา แต่เป็นคุณตำรวจหนุ่ม JACOB ERICKSSON ที่น่ารักมากๆๆๆ ปกติดิฉันไม่ค่อยชอบหนังเด็ก แต่ถ้าหากเป็นหนังที่พูดถึงความสัมพันธ์อันน่ารักระหว่างเด็กชายกับว่าที่พ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อแบบหนังเรื่องนี้ ดิฉันก็สามารถอินกับตัวละครเด็กชายได้ในทันที (อยากมีว่าที่พ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อแบบนี้บ้างจังเลย)
http://www.kinoweb.de/film2000/TsatsikiMorsanOchPolisen/pix/ts13.jpg http://www.stadsteatern.stockholm.se/medverkande/erickssonjacob.asp
อย่างไรก็ดี ใน TSATSIKI FRIENDS FOREVER นี้ JACOB ERICKSSON สุดที่รักของดิฉันไม่ได้มาแสดงด้วย ดิฉันก็เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองจะชอบภาคสองมากน้อยสักแค่ไหน
Tuesday, April 26, 2005
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment