Tuesday, September 15, 2020

THE INVISIBLE WALL

 

TIME RIDE คู่หูบ้า ข้ามเวลา (2020, Warot Wiriyathammakul, 22min, A+25)

1. ชอบการเอาพล็อตไซไฟ มาผสมกับหนัง comedy หรือ romantic comedy และหนังทำออกมาได้บันเทิงมากๆ แต่เราอาจจะไม่ได้ชอบหนังแบบสุดๆ เพราะเราไม่ค่อยอินกับหนังตลกโดยทั่วไป

2.ตอนช่วงแรกๆของหนัง นึกว่าแย่แล้ว 555 เพราะช่วง 3-4 นาทีแรกของหนัง มันเหมือนกับหนังไทยอีกหลายร้อยเรื่องที่เราเคยดูมา ที่พระเอก/นางเอกมีปัญหากับแฟน แต่พระเอก/นางเอกมี "เพื่อนสนิท"เพศตรงข้ามที่หน้าตาแอบน่ารัก และนิสัยดี คือหนังไทยอีกหลายร้อยเรื่องที่เปิดเรื่องด้วยปมปัญหาแบบนี้ มันลงเอยด้วยการที่พระเอก/นางเอกหันไปรักกับเพื่อนสนิทในตอนจบด้วยกันทั้งนั้น 555

เราก็เหมือนเดาตอนจบได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มเรื่อง เราก็เลยกลัวว่าหนังมันจะออกมา cliche แต่พอหนังพลิกไปเป็นหนังไซไฟเดินทางข้ามเวลา มันก็เลยเป็นการผสม genre ที่น่าสนใจดี และช่วยให้หนังไม่ซ้ำซาก และหนังก็ออกมาบันเทืงมากๆได้

THE INVISIBLE WALL กำแพงล่องหน (2020, Rasita Udomsilp, 30min, A+30)

1. ชอบหนังสั้นไทยกลุ่มนี้มากๆ ซึ่งก็คือหนังกลุ่มที่นำเสนอปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างพ่อแม่ลูก โดยเฉพาะ บังเกิดเกล้า (2011, Kamontorn Eakwattanakij), BERMUDA (2016,  ภาวิณี ศตวรรษสกุล), HOME (2017, Kanokporn Boonrugchart), SEISHUN JIDAI (2018, Siraya Lertsmithwong), THE THING THAT STRUCK ME เทวทัณฑ์ (2018, Ratchanirat Promprasit), พญาวัน (2019, Supamart Boonnil) แล้วก็หนังเรื่องนี้

คือถึงแม้ว่าหนังแต่ละเรื่องในกลุ่มนี้มันจะมีความใกล้เคียงกันในบางแง่มุม แต่ถ้ามันทำออกมาดีๆ เราก็จะไม่รู้สึกว่ามันซ้ำซากนะ เหมือนถ้าแต่ละเรื่องมันสามารถลงลึกไปถึงปัญหาความสัมพันธ์และปัญหาในใจของแต่ละตัวละครได้ , ทำให้ตัวละครเป็นมนุษย์จริงๆได้ และผู้สร้างหนังรู้จักจับสังเกตแง่มุมเล็กๆน้อยๆของมนุษย์ ตัวละครมันก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปเอง ถึงแม้ว่าตัวละครเอกทุกตัวในหนังกลุ่มนี้มีปัญหากับพ่อแม่คล้ายๆกัน

เราอาจจะเทียบหนังสั้นไทยกลุ่มนี้ได้กับหนังฝรั่งเศสแนว "ผัวเมียละเหี่ยใจ" นะ 555 เพราะผู้กำกับหนังฝรั่งเศสอย่าง Francois Truffaut, Claude Chabrol, Claude Sautet, Philippe Garrel, Jacques Doillon, Jean Eustache, Maurice Pialat, etc. ทำหนังแนว "ผัวเมียละเหี่ยใจ" ออกมาเยอะมาก แต่เกือบทุกเรื่องถือเป็น masterpiece เพราะถึงแม้ตัวละครในหนังจะมีปัญหาผัวๆเมียๆคล้ายกัน แต่พอตัวละครแต่ละตัวมันทำออกมาได้เป็นมนุษย์จริงๆ มีความซับซ้อนของปัญหา, ของชีวิต, ของความปรารถนาที่แตกต่างกันออกไป รายละเอียดของแต่ละตัวละครก็จะแตกต่างกัน และหนังออกมาดูไม่ซ้ำซาก และดูซาบซึ้งสะเทือนใจสุดๆได้ทุกเรื่อง

และเรารู้สึกว่า ทั้งหนังกลุ่มผัวเมียละเหี่ยใจของฝรั่งเศส กับหนังกลุ่ม "พ่อแม่ไม่เข้าใจฉัน" ของไทย ในหลายๆเรื่องมันแอบมีความเป็น autobiography ของตัวผู้กำกับสอดแทรกเข้ามาด้วย หนังมันก็เลยออกมาดูจริงมากๆ

2.สิ่งที่ชอบที่สุดใน "กำแพงล่องหน" คือ dialogue ของแม่กับลูกสาวน่ะ เพราะมันดูจริงมากๆสำหรับเรา ตัวละครแม่ในหนังเรื่องนี้ก็คงรักลูกมากๆน่ะแหละ แต่แต่ละประโยคที่เธอพูดออกมา มันแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เข้าใจลูกเลย และมันทำให้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแม่แบบนี้เต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจและความทุกข์

3.ชอบที่หนังเรื่องนี้พลิกมุมมองไปจากหนังเรื่องอื่นๆด้วย เพราะก่อนหน้านี้เราเคยดูหนังสั้นไทยอย่าง THE INGRATITUDE  อกตัญญู (2006, Setthawit Punpeng) ที่เล่าเรื่องของแม่ที่บังคับให้ลูกชายเรียนหมอ จนลูกชายฆ่าตัวตาย

เราก็เลยชอบที่กำแพงล่องหนพลิกไปเล่าเรื่องของ "น้องสาวของคนที่ฆ่าตัวตาย" แทนที่จะเล่าเรื่องของคนที่ฆ่าตัวตายโดยตรง เราว่ามันเป็นการเปลี่ยนมุมมองให้แตกต่างไปจากหนังเรื่องอื่นๆ และทำออกมาได้ดีมาก

No comments: