Sunday, October 23, 2022

MY TEMPO

 

MY TEMPO น้องพี่ ดนตรี+เพื่อน (2022, Natthaphong Aroonnet, C- )

 

SPOILERS ALERT

--

--

--

--

--

1.ชอบครึ่งแรกของหนังในระดับ A+ และชอบครึ่งหลังของหนังในระดับ F ค่าเฉลี่ยโดยรวมของหนังก็เลยออกมาประมาณ C-

 

2.ระดับความหล่อของนักแสดงมวลรวมของหนัง = A+30  เพราะหนังมีนักแสดงหล่อ ๆ เยอะมาก ชอบอาทิตย์ที่เป็นพี่ชายของตัวละครหลักมากที่สุด ไม่รู้ว่าใครคือนักแสดงที่เล่นเป็นคนนี้ กับชอบเด็กในร้านของพี่อาทิตย์ เห็นหน้าเด็กในร้านแล้วนึกถึงพระเอกหนังเรื่อง BLOCK (2016, รัตนวรรณ งามวงษ์, A+30) ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า
https://www.youtube.com/watch?v=36KX9hFupe4

 

3.ช่วงครึ่งแรกนี่โอเคกับหนังมาก ๆ เลย เพราะเรากรี๊ดกร๊าดกับความหล่อของนักแสดงมากมาย และเราชอบที่หนังพาไปสำรวจทั้งการเล่นกีตาร์ 4 hands ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีสิ่งนี้บนโลกด้วย, การเล่นซึง, การเล่นแบบ improvisation และการแรป คือการที่หนังพาไปสำรวจแนวดนตรีต่าง ๆ อันหลากหลายนี่ดีมาก ๆ

 

4.แต่รำคาญตัวละคร “ตะวัน” มากพอสมควรในช่วงครึ่งแรก เพราะเราไม่ชอบคนที่ “ขาดความรับผิดชอบ” แบบนี้

 

5.ส่วนครี่งหลังนี่พังพินาศชิบหายวินาศสันตะโรมากที่สุด และความอดทนของเราก็ถึงขีดสุดเมื่อ “ตะวัน” กับ “แทคุณ” กลายเป็นผู้ชนะในงานประกวด โดยหนังไม่ได้อธิบายอะไรว่าทำไมถึงชนะ คือให้ F กับครึ่งหลังก็เพราะสาเหตุนี้แหละ

 

6.คือถ้าหากหนังจบลงตั้งแต่ครึ่งเรื่องแรก ด้วยการให้

 

6.1 ตะวันยอมรับความจริงว่าตัวเองมีขีดจำกัด เขาเอาชนะ stage fright ไม่ได้ เขาลาออกจากโรงเรียน แต่เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ “มีความรับผิดชอบในการทำงาน”

 

6.2 หรือไม่หนังก็เล่าเรื่องต่อไป โดยให้ตะวันเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะเอาชนะ stage fright โดยไม่ต้องพึ่งพา HOPE เขากับ HOPE รักกัน แต่ทั้งสองต่างเรียนรู้ที่จะไม่พึ่งพากัน เรียนรู้ที่จะยืนหยัดอยู่ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร โดยหนังเล่าเรื่องในส่วนนี้ออกมาอย่าง “น่าเชื่อถือ”

 

คือถ้าหากเส้นเรื่องของหนังมันเป็นแบบ 6.1 หรือ 6.2 เราก็คงชอบหนังในระดับ A+30 ไปแล้ว

No comments: