MY TEMPO น้องพี่ ดนตรี+เพื่อน
(2022, Natthaphong Aroonnet, C- )
SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
1.ชอบครึ่งแรกของหนังในระดับ
A+ และชอบครึ่งหลังของหนังในระดับ F ค่าเฉลี่ยโดยรวมของหนังก็เลยออกมาประมาณ
C-
2.ระดับความหล่อของนักแสดงมวลรวมของหนัง
= A+30 เพราะหนังมีนักแสดงหล่อ
ๆ เยอะมาก ชอบอาทิตย์ที่เป็นพี่ชายของตัวละครหลักมากที่สุด ไม่รู้ว่าใครคือนักแสดงที่เล่นเป็นคนนี้
กับชอบเด็กในร้านของพี่อาทิตย์ เห็นหน้าเด็กในร้านแล้วนึกถึงพระเอกหนังเรื่อง BLOCK
(2016, รัตนวรรณ งามวงษ์, A+30) ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า
https://www.youtube.com/watch?v=36KX9hFupe4
3.ช่วงครึ่งแรกนี่โอเคกับหนังมาก ๆ เลย เพราะเรากรี๊ดกร๊าดกับความหล่อของนักแสดงมากมาย
และเราชอบที่หนังพาไปสำรวจทั้งการเล่นกีตาร์ 4 hands ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีสิ่งนี้บนโลกด้วย, การเล่นซึง, การเล่นแบบ improvisation
และการแรป คือการที่หนังพาไปสำรวจแนวดนตรีต่าง ๆ อันหลากหลายนี่ดีมาก
ๆ
4.แต่รำคาญตัวละคร “ตะวัน” มากพอสมควรในช่วงครึ่งแรก เพราะเราไม่ชอบคนที่
“ขาดความรับผิดชอบ” แบบนี้
5.ส่วนครี่งหลังนี่พังพินาศชิบหายวินาศสันตะโรมากที่สุด
และความอดทนของเราก็ถึงขีดสุดเมื่อ “ตะวัน” กับ “แทคุณ” กลายเป็นผู้ชนะในงานประกวด
โดยหนังไม่ได้อธิบายอะไรว่าทำไมถึงชนะ คือให้ F กับครึ่งหลังก็เพราะสาเหตุนี้แหละ
6.คือถ้าหากหนังจบลงตั้งแต่ครึ่งเรื่องแรก ด้วยการให้
6.1 ตะวันยอมรับความจริงว่าตัวเองมีขีดจำกัด เขาเอาชนะ stage fright ไม่ได้ เขาลาออกจากโรงเรียน แต่เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ “มีความรับผิดชอบในการทำงาน”
6.2 หรือไม่หนังก็เล่าเรื่องต่อไป โดยให้ตะวันเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ
เพื่อที่จะเอาชนะ stage fright โดยไม่ต้องพึ่งพา HOPE เขากับ HOPE รักกัน แต่ทั้งสองต่างเรียนรู้ที่จะไม่พึ่งพากัน
เรียนรู้ที่จะยืนหยัดอยู่ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร โดยหนังเล่าเรื่องในส่วนนี้ออกมาอย่าง
“น่าเชื่อถือ”
คือถ้าหากเส้นเรื่องของหนังมันเป็นแบบ 6.1 หรือ 6.2 เราก็คงชอบหนังในระดับ
A+30 ไปแล้ว
No comments:
Post a Comment