ผลพลอยได้อย่างไม่ได้ตั้งใจจากการดูหนังเรื่อง
PAST LIVES (2023, Celine Song, A+30) ก็คือหนังเรื่องนี้ทำให้เรารำลึกขึ้นมาได้ว่า
หนึ่งในนิยายที่เราชอบสุดขีดตอนเด็ก ๆ แต่เราได้อ่านนิยายเรื่องนี้ไม่จบ
ก็คือนิยายเรื่อง THE DIABOLIST ที่เราจำไม่ได้ว่าใครแต่ง
คือนิยายเรื่องนี้เคยได้รับการแปลเป็นภาษาไทย แล้วลงเป็นตอน ๆ ในนิตยสาร “แพรว”
ในช่วงทศวรรษ 1980 แล้วเราได้อ่านนิยายเรื่องนี้แค่บางตอนเท่านั้น แต่ก็ชอบนิยายเรื่องนี้อย่างสุดขีดคลั่งมาก
ๆ แต่เหมือนเราไม่เคยเห็นนิยายเรื่องนี้วางขายเป็นเล่มในภาษาไทยเลย มันก็เลยเป็นนิยายที่เราชอบมาก
แต่คาใจเรามานาน 40 ปีแล้ว เพราะเราได้อ่านไม่จบ
คือใน PAST LIVES นั้น มันมีฉากที่ผัวนางเอกซึ่งเป็นคนอเมริกัน
บอกนางเอกว่า นางเอกนอนละเมอเป็นภาษาเกาหลี เขาก็เลยไม่เข้าใจว่านางเอกละเมอว่าอะไร
และสิ่งนี้มันก็เลยสะท้อนให้เห็นว่า ถึงนางเอกจะใช้ชีวิตอยู่ในแคนาดาและอเมริกามานานราว
20 กว่าปีแล้ว ภาษาเกาหลีมันก็ยังคงฝังอยู่ในมโนสำนึกของเธออยู่ และผุดโผล่ขึ้นมาขณะที่เธอนอนหลับ
ฉากนี้มันก็เลยทำให้เรารำลึกถึง ความใฝ่ฝันในวัยเด็กของเราที่ว่า
เราอยากได้ “ผัวที่ละเมอเป็นภาษาลาติน” แบบนางเอกของนิยายเรื่อง THE DIABOLIST บ้าง 55555 เพราะถ้าหากเราจำไม่ผิด
นางเอกของ THE DIABOLIST ซึ่งเป็น “คนธรรมดา”
และใช้ชีวิตอยู่กับผัวของเธอ อยู่ดี ๆ ก็เริ่มหวาดระแวงในตัวผัวของเธอขึ้นมา เพราะเธอพบว่า
ผัวของเธอ “ละเมอเป็นภาษาลาติน”
และเธอก็เลยเริ่มสงสัยว่าเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “กลุ่มแม่มด”
หรืออะไรทำนองนี้
จำได้ว่าตอนที่เราอ่านนิยายเรื่องนี้บางตอนในนิตยสาร
“แพรว” เรารู้สึกว่ามันสนุกตื่นเต้นสุดขีด และทำให้เราใฝ่ฝันว่า เราอยากได้ “ผัวที่ละเมอเป็นภาษาลาติน”
แบบนางเอกใน THE DIABOLIST บ้าง
คงเป็นอะไรที่เพิ่มความเร้าใจสนุกระทึกให้ชีวิตได้ดีมาก ๆ
แต่สรุปว่าผ่านมานาน 40 ปีแล้ว อย่าว่าแต่จะหา
“ผัวที่ละเมอเป็นภาษาลาติน” เลยค่ะ คือแค่จะหาผัวสักคน กูก็ยังหาไม่ได้เลยค่ะ 55555
แต่เราจำไม่ได้นะว่า
ใครเป็นคนแต่งนิยายเรื่อง THE DIABOLIST พอเราลองเอาชื่อนิยายนี้ไป google ดู เราก็พบว่ามีนิยายหลายเรื่องที่ใช้ชื่อว่า
THE DIABOLIST เหมือนๆ กัน
แต่เราได้อ่านนิยายเรื่องนี้ในนิตยสาร “แพรว” ในทศวรรษ 1980 เราก็เลยเดาเอาเองว่า
นิยายเรื่อง THE DIABOLIST ที่เราได้อ่าน น่าจะเป็นของ Paul
W. Fairman เพราะนิยายเรื่องนี้ของเขาออกขายในปี 1972
พูดถึงเรื่อง “ละเมอ”
เราก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนเราอยู่ประมาณม.4 ราว ๆ ปี 1988 แม่ของเราเคยบอกเราว่า เคยเห็นเรานอนละเมอพูดว่า
“ผีมา ผีมา ผีมา” หลายครั้งมาก ๆ
แต่เราไม่ได้บอกแม่ของเราหรอกว่า
เราว่าตอนนั้นเราต้องละเมอว่า “พี่มาร์ค” แน่ ๆ เลย เพราะตอนนั้นเราคลั่งไคล้ “นายแบบของนิตยสาร
เธอกับฉัน” ที่ชื่อว่า Mark Marlowe อย่างรุนแรงมาก ๆ เหมือนพอเราเห็น Mark Marlowe เราก็รู้สึกว่าเขานี่แหละคือเนื้อคู่ของเรา
555 ช่วงนั้นเราก็คงจะละเมอตอนนอนหลับว่า “พี่มาร์ค พี่มาร์ค พี่มาร์ค” แต่แม่ของเราคงไม่รู้ว่าเราอยากได้
Mark Marlowe เป็นผัว แม่ของเราก็เลยนึกว่าเรานอนละเมอว่า “ผีมา
ผีมา ผีมา”
No comments:
Post a Comment