Wednesday, August 20, 2025

APICHATPONG VS. ACHITAPHON

 

APICHATPONG VS. ACHITAPHON

 

มีเพื่อนใน Facebook ถามว่า หนังของ Achitaphon Piansukprasert เป็นงานแบบทางเดียวกับงานพี่เจ้ยหรือเปล่า เราก็เลยตอบไปตามข้างล่างนี้ และก็เลย copy paste คำตอบของเราเอง มาแปะแยกเป็นอีกโพสท์หนึ่งดีกว่า เพื่อความสะดวกของตนเองเวลาค้นหาข้อมูลในภายหลัง

++++++

 

ผมดูแล้วไม่คิดว่างานของ Achitaphon เหมือนงานพี่เจ้ยครับ ผมคิดว่างานของ Achitaphon unique มาก ๆ แทบไม่เหมือนงานของผู้กำกับท่านอื่น ๆ ที่ผมเคยดูมาเลย จุดนี้ก็เลยเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ผมชอบหนังของ Achitaphon อย่างสุด ๆ ครับ

 

แต่ผมก็จัดให้หนังของเขาเป็น limitless cinema เหมือนหนังของเจ้ยครับ เพราะทั้งหนังของเจ้ยและหนังของ Achitaphon ช่วย "ผลักขอบเขตความเป็นไปได้ทางภาพยนตร์" ออกไปมาก ๆ สำหรับผมครับ ดูหนังของสองคนนี้แล้วทำให้ผมรู้สึกว่า ภาพยนตร์มีความเป็นไปได้ต่าง ๆ มากกว่าที่ผมเคยคิดไว้ในตอนแรก

 

จุดแตกต่างที่สำคัญก็คือว่า หนังของเจ้ยส่วนใหญ่ที่ผมดู มันจะมี “พลังทางบรรยากาศจากสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำ” อยู่ด้วยครับ อย่างเช่น เวลาไปถ่ายป่า, บ้านคนในชนบท หรือสถานที่ใด ๆ ก็ตาม เจ้ยจะสามารถดึงพลังงานบางอย่างจากสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำออกมาได้อย่างรุนแรงครับ โดยเฉพาะหนังเรื่อง WINDOWS (1999) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหนังที่ผมชอบมากที่สุดของเจ้ย คือแค่เจ้ยถ่าย “หน้าต่าง” เจ้ยก็สามารถดึงพลังงานบางอย่างออกมาจากหน้าต่างที่ถ่ายได้อย่างรุนแรงที่สุดในความเห็นของผม

 

ส่วนหนังหลาย ๆ เรื่องของคุณ Achitaphon เป็นหนังที่เหมือนอยู่ใน “โลกของภาพกราฟิก” หรือ “โลกของละครเวที” ไม่ได้มีการใช้ “สถานที่จริง” ครับ เพราะฉะนั้นพลังในหนังของคุณ Achitaphon กับหนังของเจ้ยก็เลยดูเหมือนแตกต่างกันมากในความรู้สึกของผม โลกในหนังของ Achitaphon หลาย ๆ เรื่องมันเป็นโลกที่ดู artificial มาก ๆ ห่างไกลจากวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริงมาก ๆ

 

แต่ที่เขียนมาข้างต้น ก็ไม่ได้หมายรวมถึงหนังทุกเรื่องของทั้งสองคนนี้นะครับ เพราะว่า A CONVERSATION WITH THE SUN ของเจ้ย ก็เหมือนอยู่ในโลกของ “ภาพกราฟิก” เหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมก็เลยรู้สึกว่า A CONVERSATION WITH THE SUN ถือเป็นหนังของ Apichatpong ที่ทำให้ผมนึกถึง Achitaphon Piansukprasert มากที่สุด

 

ในอีกทางหนึ่ง หนังเรื่อง MERMAID’S COMB หวีนางเงือก (2017, Achitaphon Piansukprasert, 7.01min, A+30) ก็ถือเป็นหนังของ Achitaphon ที่ทำให้ผมนึกถึง Apichatpong มากที่สุด ซึ่งก็อธิบายได้ยากเหมือนกันว่าทำไม บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า MERMAID’S COMB พูดถึงโลกลี้ลับบางอย่างที่อยู่ร่วมกับ “ชีวิตในชนบทไทย” อะไรทำนองนี้ครับ ซึ่งสิ่งนี้มักจะทำให้ผมนึกถึงหนังของเจ้ย

 

ผมว่า หนังเรื่อง SPIRIT วิญญาณ (2018, Achitaphon Piansukprasert, 14.54min, A+30) และ CONCRETE ROOTS รากพราย (2018, Achitaphon Piansukprasert, 90 minute, A+30) ก็ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการ “ดึงพลังงานลี้ลับบางอย่างออกมาจากวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง” เหมือนกัน แต่ผมชอบหนังแนว “โลกของภาพกราฟิก” และ “โลกที่ใช้ฉากแบบละครเวที” ของ Achitaphon มากกว่าครับ เพราะผมว่าจุดนี้มันทำให้เขาแตกต่างจากผู้กำกับหนังไทยคนอื่น ๆ

 

ภาพบนมาจาก BLOOD RAIN ฝนเลือด (2023, Achitaphon Piansukprasert, 73 minute, A+30) ส่วนภาพล่างมาจาก A CONVERSATION WITH THE SUN (Apichatpong Weerasethakul)

+++++

 

Peter Magyar ผู้นำฝ่ายค้านของ Hungary

 

หลังจากดูหนังของ Bela Tarr ก็เลยทำให้สนใจประเทศ Hungary มากขึ้นค่ะ 55555

++++

 

อยากดู PALESTINE 36 (2025, Annemarie Jacir) และอยากให้มีคนจัดงาน retrospective ของ Annemarie Jacir มาก ๆ เราเคยดูหนังของเธอแค่เรื่องเดียว ซึ่งก็คือ A FEW CRUMBS FOR THE BIRDS (2005, Jordan) ที่เคยเข้ามาฉายในกรุงเทพ โดย A FEW CRUMBS FOR THE BIRDS ติดอันดับ 13 ในลิสท์หนังสุดโปรดที่เราได้ดูในปี 2014

 

ก่อนหน้านี้ Palestine ก็เคยส่งหนังที่กำกับโดย Annemarie Jacir เข้าชิงออสการ์มาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งได้แก่ SALT OF THIS SEA (2009), WHEN I SAW YOU (2013) และ WAJIB (2018)

 

PALESTINE 36 นำแสดงโดยดาราหญิงคนโปรดของเรา Hiam Abbass (SYRIAN BRIDE, PARADISE NOW, LEMON TREE) และมี Jeremy Irons ร่วมแสดงด้วย

 

++++

 

รอบฉายภาพยนตร์ของ Domenico Singha Pedroli + Thaweechok Pasom เหลือที่นั่งอีกไม่มากนะคะ ใครอยากดูต้องรีบจับจองค่ะ

++++++

เพิ่งรู้จาก IMDB ว่า หนังเรื่อง 4 KINGS (2021) มีคนเขียนบทถึง 3 คน ซึ่งได้แก่

 

1. Put Puttipong Nakthong

2. Puttipong Nakthong

3. Putthipong Naktong

 

55555  

 

จริง ๆ แล้ว เราว่าการแปลงชื่อภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ มันไม่มีกฎตายตัว ก็เลยสะกดได้หลายแบบ อย่าง ธิ ก็สะกดเป็น ti หรือ thi ก็ได้ หรือ ทอง ก็สะกดเป็น tong หรือ thong ก็ได้ มันก็เลยมีส่วนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น

++++

 

เพิ่งรู้ว่า “แท้ ประกาศวุฒิสาร” กับ “ไพรัช กสิวัฒน์” เคยเดินทางไปงานเทศกาลภาพยนตร์ Tashkent ในสหภาพโซเวียตในปี 1958 ด้วย รุนแรงมาก ๆ เราไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย โดยในตอนนั้นเทศกาลภาพยนตร์ดังกล่าวใช้ชื่อว่า ASIAN AND AFRICAN FILM FESTIVAL และในเวลาต่อมา Tashkent ก็ได้กลายเป็นเมืองหลวงของประเทศ Uzbekistan

 

หนังสือ “ชีวิตที่โลดเต้นของ แท้ ประกาศวุฒิสาร” บอกว่า เนื่องจากปัญหาเรื่องพลาดเที่ยวบิน แท้กับไพรัชก็เลยไปไม่ทันงานประกวดในเทศกาลภาพยนตร์ Tashkent แต่เจ้าหน้าที่กองการประกวดได้ให้การต้อนรับทั้งสองเป็นอย่างดี ทั้งสองได้เดินทางต่อไปที่ Moscow และได้พูดปราศรัยและร้องเพลงชาติไทยออกทางโทรทัศน์ของสหภาพโซเวียตด้วย

 

เราได้หนังสือ “ชีวิตที่โลดเต้นไปของ แท้ ประกาศวุฒิสาร” มา ตอนที่มีการแจกหนังสือเล่มนี้ฟรี ในงานฉายภาพยนตร์อะไรสักเรื่องที่หอภาพยนตร์มั้ง ไม่แน่ใจว่าเป็นตอนที่มีการฉายหนังเรื่อง “เจ้าหญิง” (1969, Puhkam) ที่อำนวยการสร้างโดยแท้ ประกาศวุฒิสารหรือเปล่า

 

ส่วน ไพรัช กสิวัฒน์ ที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น เขาเคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง “ล่า” (1977, A+30) ที่เราชอบมาก ๆ เรื่อง “ล่า” ของทมยันตีนี้เคยสร้างเป็นละครทีวีที่ทุกคนรู้จักกันดี นอกจากนี้ ไพรัชยังเคยกำกับหนังเรื่อง “สันกำแพง” (1968), ดิน น้ำ ลม ไฟ (1969), ดรรชนีไฉไล (1974), etc. ด้วย

 

พออ่านประวัติเรื่องการเดินทางของคุณแท้และคุณไพรัชในเทศกาลภาพยนตร์ Tashkent ในปี 1958 แล้ว เราก็เลยอยากรู้ว่า ในยุคนั้นมี “หนังไทยเรื่องไหนบ้างที่เคยได้ไปในฉายในสหภาพโซเวียต” โดยที่เรารู้ตอนนี้ก็มีอย่างน้อย 3 เรื่อง ซึ่งก็คือ

 

1. TWO BROTHERS สองพี่น้อง (1958, Prince Bhanubandhu Yugala)

หนังสือเล่มนี้เล่าว่า หนังเรื่องนี้ได้ฉายที่ Tashkent ตอนที่คุณแท้กับคุณไพรัชไปเยือนเทศกาล (หลังเทศกาลจบลงแล้ว)

 

2. SANTI-VINA (1954, Marut, A+30)

เห็นใน Wikipedia บอกว่า สถานทูตรัสเซียเคยซื้อหนังเรื่องนี้ไปฉายในสหภาพโซเวียต

 

3. SECONDHAND WOMAN ผู้หญิงมือสอง (1979, Apichat Phopairot)

 

หนังเรื่องนี้เคยได้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ที่มอสโคว์ในปี 1979 เราอยากดูหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงที่สุด เพราะเราเคยดูหนังอีก 2 เรื่องของ Apichat Phopairot แล้วเราชอบมาก ๆ

 

เห็นเว็บไซต์ NANGDEE บอกว่า หนังเรื่อง “ผู้หญิงมือสอง” ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเทศกาลภาพยนตร์ Tashkent ด้วย แต่เราหาหลักฐานอื่น ๆ มายืนยันเรื่องนี้ไม่ได้ เราก็เลยไม่แน่ใจว่าหนังเรื่องนี้เคยได้รางวัลที่ Tashkent จริงหรือเปล่า

 

มีใครมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็บอกมาได้นะคะ

 

No comments: