SOKAPHIWAT (2025, Nuttachai Jiraanont, A+30)
โศกาภิวัฒน์
1. กรี๊ดมาก ดูแล้วชอบสุดขีด ถึงแม้จริงๆ
แล้วอาจจะมีหลายอย่างในหนังที่ไม่เข้าทางเราซะทีเดียว
แต่โดยภาพรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังที่เราชอบสุดขีดอยู่ดี 55555
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีดก็คือว่า
เหมือนหนังเรื่องนี้มันตอบสนองความกะเทยในตัวเราอย่างมาก ๆ คือดูแล้วรู้สึกว่า
ถ้าหากตัวเองยังคงเป็นเด็กมัธยม ตัวเองคงต้องขอให้เพื่อนตัดชุดเลียนแบบคลาวเดีย
แล้วก็เอาชุดนั้นมาใส่เดินกรุยกรายไปตามทางเดินในโรงเรียน
พร้อมกับทำท่าทำทางเลียนแบบคลาวเดียไปเรื่อย ๆ คือดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอยาก role
play บทคลาวเดียอย่างรุนแรงมาก มากยิ่งกว่าตัวละครแนว “เจ้าแม่”
ในหนัง horror คล้าย ๆ กัน อย่างเช่น ตัวละคร “หม่อมสลักจิต”
(อัญชลี สายสุนทร) ใน “หม่อม” THE ELITE OF DEVILS (2024, อาทิตย์ อาริยวงศ์ษา, ธีรคหะ
อาริยวงศ์ษา), ตัวละครของเพ็ญพักตร์ ศิริกุล ใน HOME
FOR RENT บ้านเช่า บูชายัญ (2023, Sophon Sakdaphisit, A+30),
ตัวละครของอำภา ภูษิต ใน THE TENANT ผู้เช่า (2024,
อนันต์ รัศมี) และตัวละครของดวงใจ หิรัญศรีใน RIDER (2024,
Nitivat Cholvanichsiri)
ซึ่งอันนี้ไม่เกี่ยวกับว่านักแสดงคนไหนเล่นดีกว่าคนไหนนะ
แต่เกี่ยวกับ “การออกแบบลีลาท่าทางของตัวละคร”
และเราว่าตัวละครของคลาวเดียในหนังเรื่องนี้เป็นตัวละครที่ทำให้เราอยาก
role play มากกว่าตัวละครอื่น ๆ ในกลุ่มข้างต้น เพราะว่า “ลีลาท่าทาง”
ของตัวละครตัวนี้นี่มันเข้าทางดิฉันจริง ๆ
2. พอพูดถึง HOME FOR RENT แล้วเราก็ขอเสริมนิดนึงว่า คือจริง ๆ แล้วเราว่า HOME FOR RENT เป็นหนังที่ “ดี” กว่า SOKAPHIWAT นะ แต่เราอาจจะ
“ชอบ” SOKAPHIWAT มากกว่า HOME FOR RENT เพราะเรารู้สึกว่า HOME FOR RENT เป็นหนังที่ “polished” มาอย่างดี มีการตรวจสอบคุณภาพที่ดีมาก แทบไม่มีจุดไหนขาดตกบกพร่อง
มีความสมเหตุสมผลมากกว่า “บทภาพยนตร์แน่นหนารัดกุมมาก” เหมาะกับ “ผู้ชมในวงกว้าง”
มากกว่า
แต่เรารู้สึกว่า SOKAPHIWAT เป็นหนังที่ “เฮี้ยน” กว่าน่ะ มันอาจจะมีความไม่สมเหตุสมผล มีความขาด ๆ
เกิน ๆ แต่มันเหมือนมี “ความเฮี้ยน” บางอย่างในหนังเรื่องนี้ที่เข้าทางเรามาก ๆ
ราวกับว่าผู้สร้างหนังเรื่องนี้ต้องการสนอง need บางอย่างในใจตนเอง
และเขาก็ให้ความสำคัญกับ need ในใจตนเอง
มากกว่าการคำนึงถึงผู้ชมในวงกว้าง ซึ่งก็เลยทำให้หนังที่ออกมา “เข้าทางเรา”
เพราะมันก็ตอบสนอง need บางอย่างที่ไร้เหตุผลในใจเรา
มากกว่าหนังทั่ว ๆ ไปที่ polished มาอย่างดีเพื่อผู้ชมในวงกว้าง
55555
คือเหมือน HOME FOR RENT และ
“หนังสยองขวัญชั้นดีของ GDH” และอาจจะรวมไปถึงหนังยุคหลังของ
Taweewat Wantha เป็นหนังดี+สนุกที่ made for mass
audience ซึ่งเราก็ชอบหนังเหล่านี้มาก ๆ แต่เรารู้สึกว่า ผู้กำกับหนังไทยบางคน
อย่างเช่น Nuttachai Jiraanont, Oompon Kitikamara, Sarawut Intaraprom สร้างหนังสำหรับ niche audience น่ะ
และเราก็ถือเป็นหนึ่งในผู้ชมกลุ่ม niche นั้น
เราก็เลยชอบหนังของ Nuttachai, Oompon และ Sarawut มาก ๆ ถึงแม้หนังของพวกเขาอาจจะไม่ได้ “ดี” มากนักในสายตาของคนอื่น ๆ
ก็ตาม มันเหมือนหนังของผู้กำกับเหล่านี้มีอะไรบางอย่างที่ตอบสนอง need ในตัวผู้สร้างหนัง และสิ่งนี้มันทำงานกับเราอย่างรุนแรงมาก
แต่อาจจะไม่ทำงานกับผู้ชมคนอื่น ๆ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่รู้ว่าเราจะเรียก Nuttachai, Oompon และ Sarawut ว่า ผู้กำกับหนัง cult ได้หรือเปล่านะ มันเหมือนหนังของผู้กำกับ 3
คนนี้มีความเฮี้ยนบางอย่างที่เลยพ้นจากขอบเขตของ
“หนังบันเทิงสำหรับผู้ชมในวงกว้าง”
และเราชอบความเฮี้ยนในหนังของผู้กำกับทั้งสามคนนี้มาก ๆ
3. กราบคลาวเดีย จักรพันธุ์ รู้สึกว่าเธอคือ
“เดอะ แบก” ของหนังเรื่องนี้ ชอบการแสดงของเธอในหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงที่สุด
เพราะเรารู้สึกว่า “ความเฮี้ยน” และ “ความขลัง” ของหนังเรื่องนี้ 90% มาจากการแสดงของคลาวเดีย คือถ้าหากคลาวเดียแสดงได้ไม่เฮี้ยนเท่านี้
หนังเรื่องนี้ก็จะล้มเหลวไปเลย
4. ส่วนสิ่งที่ “ไม่เข้าทางเรา” ในหนังเรื่องนี้
ก็คือ production design อะไรทำนองนี้น่ะ
เพราะเรารู้สึกว่าตัวคฤหาสน์ และบรรยากาศโดยรวมของหนัง ดูไม่ขลังเลย
ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ
4.1
ผู้กำกับตั้งใจอยู่แล้วให้มันออกมาเป็นแบบนั้น
4.2
งบการสร้างหนังไม่มากพอที่จะเนรมิตคฤหาสน์ให้ออกมาขลังกว่านี้ได้
คือใจจริงแล้ว เราอยากให้บรรยากาศของหนังออกมา
“ขลัง” แบบ NOSFERATU (2024, Robert Eggers, A+30)
และอยากให้ production design ออกมาเฮี้ยนแบบหนังสยองขวัญยุโรปยุคทศวรรษ
1970 พวกหนังของ Dario Argento, Jean Rollin, Jesus Franco, etc. อะไรทำนองนี้ 5555
5. อีกสิ่งที่ชอบสุดขีดเป็นการส่วนตัวในหนังเรื่องนี้
ก็คือ “จังหวะการเดินแบบ” ของหนัง คือหนังเรื่องนี้อาจจะดู “ช้าเกินไป”
สำหรับผู้ชมบางคน โดยเฉพาะผู้ที่คาดหวังว่าจะได้ชม
“หนังสยองขวัญตื่นเต้นลุ้นระทึก”
แต่ปรากฏว่าเราชอบจังหวะของหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงที่สุด
มันเหมือนสิ่งที่สำคัญสำหรับเราในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ “ความตื่นเต้นลุ้นระทึก”
แต่เป็น “จังหวะการเยื้องกรายของคลาวเดีย” มันเหมือนหนังเรื่องนี้เป็น
“จังหวะดนตรีช้า ๆ” บางอย่าง ที่ไม่เข้ากับรสนิยมของคนดูหลาย ๆ คน แต่ “จังหวะช้า
ๆ” ในหนังเรื่องนี้กลับทำงานกับเราอย่างรุนแรงมาก มันเหมือนจังหวะช้า ๆ
นี้มันสร้างภวังค์ดึงดูดสำหรับเราคล้าย ๆ กับเวลาที่เราฟังดนตรีเปียโนในหนังเรื่อง
INDIA SONG (1975, Marguerite Duras) แล้วเห็น Delphine
Seyrig เดินเยื้องกรายช้า ๆ ไปมา
6. อยากให้มีคนจัดงาน retrospective ของคุณ “ดวงใจ หิรัญศรี” เพราะรู้สึกว่าเธอคือ “เจ้าแม่หนังเฮี้ยน” หรือ “เจ้าแม่ตัวละครเฮี้ยน”
อะไรทำนองนี้ 5555 โดยเฉพาะในภาพยนตร์เรื่อง BY THE RIVER (2006, Sathit
Sattarasart) (ถ้าเราจำไม่ผิดนะ เราจำได้ว่า คุณดวงใจเคยรับบทเฮี้ยน
ๆ ในหนังของคุณ Sathit) และ MIDNIGHT RAINBOW (2008, ปัฎฐา ทองปาน, A+30) ที่คุณดวงใจรับบทเป็นฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าคนตายจำนวนมาก
ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกตอ่ไป
7. ชอบตัวพล็อตที่เป็นเรื่องของ “หนุ่มหล่อ 8 คน”
แต่เสียดายที่หนุ่มหล่อ 8 คนในหนังเรื่องนี้ใส่เสื้อผ้ามิดชิดตลอดเวลา 55555
อยากได้ทั้ง 8 คน แต่ถ้าเลือกได้แค่ 2 คน เราก็ขอเลือก
“บอส ธนบัตร งามกมลชัย” กับ “ตัส ทศวรรษ สิงอุปโป” ค่ะ
ว่าแต่ใครรับบทเป็น “สามีของคลาวเดีย”
ในหนังเรื่องนี้คะ เพราะคนนี้ก็หล่อเหมือนกัน
8. ก่อนหน้านี้เราเคยดูหนังอีก 3
เรื่องที่กำกับโดยคุณ Nuttachai แล้วพอเราไปอ่านสิ่งที่เราเคย
post เกี่ยวกับหนังเหล่านั้น เราก็พบว่า
หนังของเขามีความเป็น auteur และมีลายเซ็นชัดเจนมาก
เพราะหลายๆ ประโยคที่เราเคยเขียนถึงหนังเรื่องอื่น ๆ ของเขา เราก็สามารถ quote
มาใช้ในหนังเรื่องนี้ได้เช่นกัน 55555
8.1
บางส่วนจากที่เราเคยเขียนถึง SHOKUNIN ซูชิเนื้อคน (2014,
Nuttachai Jiraanont, A+30)
“เราไม่คิดว่าหนังเรื่อง SHOKUNIN เป็น thriller หรือ horror อย่างเต็มตัวนะ
เพราะมันไม่ได้มีความลุ้นระทึก สนุก ตื่นเต้น แบบหนัง thriller หรือ horror ทั่วๆไปน่ะ และมันก็ไม่ได้เป็น psychological
study อะไรด้วย มันดูเป็นหนัง revenge แบบ stylish
มากกว่า
เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเราในหนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่ความสนุก, ตื่นเต้น หรือเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม หรือสัญลักษณ์อะไรก็ตามที่อาจจะมี
(แต่เราไม่ได้สนใจมัน) แต่กลับเป็น style ของมัน
เราว่าถ้าใครชอบ style ของหนังเรื่องนี้
ก็อาจจะชอบหนังเรื่องนี้มากๆก็ได้”
“การที่เราชอบ “บุคลิก” ของตัวละครหญิงสองตัวใน SHOKUNIN
มากๆ ทำให้เรานึกถึงทฤษฎีที่เราเคยได้ยินมา
นั่นก็คือผู้ชมภาพยนตร์บางคน โดยเฉพาะผู้ชมภาพยนตร์ที่เป็นเกย์หรือกะเทย
จะหลงใหลภาพยนตร์บางเรื่องมากๆ แต่ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องของมัน แต่เป็นเพราะ
“การโพสท่าของตัวละครหญิง” ในหนังเรื่องนั้น และเราว่าเราชอบหนังเรื่องนี้มากๆ
เพราะสาเหตุนี้นี่แหละ
เราชอบอากัปกิริยาและบุคลิกของตัวละครหญิงสองตัวในหนังเรื่องนี้
อีกสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจดี ก็คือหนังเรื่อง SHOKUNIN
ทำให้เรานึกถึง “การ hybrid กันของหนังสยองขวัญกับหนังอาร์ท”
น่ะ คือมันทำให้เรานึกถึงหนังประเภทหนังในยุค 1970 พวกที่กำกับโดย
Jesus Franco, Jean Rollin อะไรพวกนี้
คือหนังพวกนี้มันมีเนื้อเรื่องเหมือนหนังสยองขวัญ มีตัวละครแวมไพร์ดูดเลือด
แต่มันไม่มีความสยองขวัญน่ากลัวอะไรเลย
สิ่งที่สำคัญในหนังประเภทนี้คือความสง่างามของตัวแวมไพร์, การตัดภาพแมงป่องเข้ามาเป็นระยะๆโดยไม่รู้ว่าสื่อถึงอะไร,
การตัดภาพให้เข้ากับจังหวะเพลงไซคีดีลิก, การโพสท่าของตัวละคร
ฯลฯ”
8.2
บางส่วนจากที่เราเคยเขียนถึง BE-LOVED (2014, Nuttachai Jiraanont,
A+25)
“อันนี้ก็ชอบมากๆ
โดยที่ไม่เข้าใจหนังแต่อย่างใดเหมือนกัน
แต่เราดูแล้วจะนึกถึงความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดระหว่างคนในครอบครัวเดียวกันน่ะ
คนที่ต้องทนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน
ทั้งที่จริงๆแล้วอยากฆ่ากัน แต่ในบางขณะก็รักกัน”
“ดู BE-LOVED
แล้วนึกถึงเสน่ห์ของหนังแนว magical realism ด้วยนะ
เพราะตัวละครประเภทที่ดูเหมือนตายไปแล้ว แต่กลับมาหลอกหลอน
และใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์ปกติ ทั้งที่ดูเหมือนตายไปแล้ว อะไรพวกนี้
เราอาจจะพบได้ในหนังแนว magical realism หลายๆเรื่องน่ะ
โดยที่ปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติพวกนี้ มันจะไม่มีคำอธิบายแต่อย่างใด
คือถ้าหากเป็นหนัง “ลึกลับ” แบบปกติ มันจะมีคำอธิบายว่า
เพราะเหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์ผิดธรรมชาติแบบนี้ขึ้น
(อย่างเช่นแม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำวิเศษที่ชุบชีวิตคนตายได้) แต่ถ้าหากเป็นหนังแนว magical
realism มันจะไม่มีคำอธิบาย”
(อย่างไรก็ดี ถึงแม้ BE-LOVED จะมีบางจุดที่คล้ายกับหนัง magical realism เราว่า SOKAPHIWAT
ไม่ได้มีอะไรแบบนั้นนะ เราว่า SOKAPHIWAT ดูเป็น
FANTASY อย่างเต็มรูปแบบ เพียงแต่ว่าทั้ง SOKAPHIWAT กับ BE-LOVED เป็นหนังที่ไม่ค่อยให้คำอธิบายชัดเจนเหมือน
ๆ กัน 55555)
8.3 บางส่วนจากที่เราเคยเขียนถึง ANTI-HUMAN
ภูมิแพ้มนุษย์ (2015, Nuttachai Jiraanont, A+30) ในปี 2015 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
“ดู ANTI-HUMAN
แล้วนึกถึง SHOKUNIN และ BE-LOVED
(2014, A+25) หนังสองเรื่องก่อนหน้านี้ของ Nuttachai
Jiraanont ด้วย เพราะ ANTI-HUMAN มันมีทั้งประเด็นการกินเนื้อมนุษย์,
การฟื้นคืนชีพ และปัญหาในครอบครัวเหมือนๆกัน
ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Nuttachai Jiraanont จะกลายเป็น auteur อีกคนนึงของไทยในอนาคตได้หรือไม่
แต่เราว่าเขาทำหนังเข้าทางเรามากๆนะ
และเราว่าเขามีศักยภาพที่จะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับหนังสยองขวัญของไทยได้
คือเราว่าหนังอย่าง BE-LOVED และ ANTI-HUMAN
มันช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับหนังสยองขวัญของไทยได้ดีน่ะ
เราว่าไทยมีผู้กำกับหนังสยองขวัญที่สุดยอดมากๆอย่าง Monthon Arayangkoon และ Alwa Ritsila แล้วก็จริง
แต่ไทยยังขาดผู้กำกับหนังสยองขวัญอย่าง David Cronenberg, Kiyoshi
Kurosawa, David Lynch, Bruce La Bruce, Stefan Popescu, Jörg Buttgereit, etc. อยู่น่ะ เพราะฉะนั้นการที่มีผู้กำกับอย่าง Nuttachai ขึ้นมา มันก็เลยทำให้เราแฮปปี้มากๆ”
SHOKUNIN (2014, Nuttachai Jiraanont, A+30)
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10204622020653814&set=a.10204350827754161
BE-LOVED (2014, Nuttachai Jiraanont, A+25)
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10205862145856169&set=a.10205329383057432
ANTI-HUMAN (2015, Nuttachai Jiraanont, A+30)
ภูมิแพ้มนุษย์
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10207017004486913&set=a.10206578208077277
รายละเอียดนักแสดงใน
SOKAPHIWAT
https://entertainment.trueid.net/detail/3wZP4mXemBm5
พอดู SOKAPHIWAT โศกาภิวัฒน์
(2025, Nuttachai Jiraanont, A+30) แล้วก็อยาก role
play เป็นคลาวเดีย จักรพันธุ์ในหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงที่สุด อยากใส่ชุดแบบในหนังเรื่องนี้แล้ว
“เยื้องกราย” ไปมาแบบในหนังเรื่องนี้มาก ๆ มากพอ ๆ กับการเยื้องกรายของ Delphine
Seyrig ใน INDIA SONG (1975, Marguerite Duras)
อยากให้มีคนจัดฉาย “โศกาภิวัฒน์” ควบกับ THE
SHIVER OF THE VAMPIRES (1971, Jean Rollin) ด้วย เพราะหนังทั้งสองเรื่องเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่า
มัน “สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก” มากนัก แต่หนังทั้งสองเรื่องเป็นหนังที่เราชอบสุดขีด
เพราะเราชอบ “ลีลาการโพสท่า” ของตัวละคร
https://web.facebook.com/jit.phokaew/videos/2241900866252400
กราบการแสดงของคุณ Claudia ในหนังเรื่องนี้มาก ๆ ครับ มัน "เกินคำบรรยาย" สำหรับผมมาก ๆ
ครับ มันทั้งสง่างาม, เฮี้ยน, ขลัง
และมีความซับซ้อนหลาย layers อยู่ในเวลาเดียวกัน กราบมาก ๆ
ครับ
No comments:
Post a Comment