Saturday, April 11, 2020

RIP BRUCE BAILLIE AND NOBUHIKO OBAYASHI



RIP Bruce Baillie

เคยดูหนังของเขาครั้งแรกในงาน retrospective ของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ BANGKOK EXPERIMENTAL FILM FESTIVAL ในปี 1999 ตอนนั้นจำได้ว่า พอดูหนังของเขาครั้งแรกแล้วรู้สึกเฉยๆ แต่พอได้ดูรอบสองในอีกไม่กี่วันต่อมา แล้วอยู่ดีๆก็รู้สึกจูนติดอย่างรุนแรงที่สุด และรู้สึกว่าหนังของเขามันให้ความรู้สึกที่งดงามมากๆ

มันเหมือนเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นประสบการณ์สำคัญครั้งนึงในชีวิต เหมือนอยู่ดีๆประสาทสัมผัสของเราก็รับรู้ได้ถึงความงามอย่างยิ่งยวดในหนังเหล่านี้ ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเรายังสัมผัสมันไม่ได้

ตอนนั้นหนังของ Bruce Baillie ฉายที่ Alliance Francaise ถนนสาทร มีฉายเรื่อง

1.MASS FOR THE DAKOTA SIOUX (1963-1964)
2.TUNG (1966)
3.CASTRO STREET (1966)
4.ALL MY LIFE (1966)
5.VALENTIN DE LAS SIERRAS (1967)
6.ROSLYN ROMANCE (IS IT REALLY TRUE?) (1974)
7.QUICK BILLY (1974, 60MIN)
8.THE P-38 PILOT (early 90s)
9.SALUTE (1999)

รูปจากสูจิบัตร THE 2ND BANGKOK EXPERIMENTAL FILM FESTIVAL

RIP NOBUHIKO OBAYASHI

รักหนังของเขามากๆ จำได้ว่าดูหนังของเขาเรื่องแรก ก็คือเรื่อง HOUSE (1977) ตอนมันมาฉายทางช่อง 7 น่าจะประมาณปี 1994 ดูแล้วก็ตายไปเลย ไม่นึกว่าจะมีหนังแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย

น่าเสียดายที่เราได้ดูหนังของเขาแค่ไม่กี่เรื่อง เรื่องที่เราได้ดูก็มีแค่

1.HOUSE (1977)
2.I ARE YOU, YOU AM ME (1982)
3.THE GIRL WHO LEAPT THROUGH TIME (1983)
4.LONELYHEART (1985)
5.BEIJING WATERMELON (1989)
6.GOODBYE FOR TOMORROW (1995)

ชอบหนังของเขาอย่างสุดๆ เพราะหนังของเขามันมักจะมี “อภินิหาร” มีแฟนตาซี มีความ magical อะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนหนังของคนอื่นๆ จะว่ามันเป็น magical realism มันก็ไม่ใช่ แต่มันเป็นสไตล์ magical เฉพาะตัว โลกในหนังของเขามันมีความเหนือจริงอะไรบางอย่างในแบบที่เราชอบมากๆ

ถ้าจำไม่ผิด เหมือนเราเคยดู GOODBYE FOR TOMORROW ไปแล้ว 2-3 รอบตอนมันมาฉายที่ JAPAN FOUNDATION ถนนอโศก

คิดถึง GOODBYE FOR TOMORROW ทีไรก็อยากจะร้องไห้ เราว่าหนังมันซึ้งมากๆ มันเล่าเรื่องของเรือลำนึงที่จมลง แล้วผู้โดยสารทุกคนบนเรือก็ตายหมด แต่อยู่ดีๆในเวลาอีก 3 เดือนต่อมา ญาติมิตรของผู้เสียชีวิตแต่ละคนก็ได้รับสาส์นลึกลับให้ไปที่เกาะแห่งนึงตอนเที่ยงคืน เพราะเรือจะผุดขึ้นมาจากน้ำในเวลานั้น พร้อมกับดวงวิญญาณของผู้ตาย

ฉากที่เราดูแล้วร้องไห้ คือฉากที่หญิงสาวคนนึงบนเรือไม่มีใครมาหาเธอเลย เธอตายไปโดยที่ไม่มีญาติมิตรเพื่อนฝูงอะไรมาร่ำลาเธอเลย ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ตายคนอื่นๆบนเรือที่มีญาติๆมากล่าวคำอำลา

แต่ปรากฏว่าหญิงสาวคนนี้กลับเป็นดวงวิญญาณที่มีความสุขที่สุดบนเรือ ถ้าเราจำไม่ผิด เธอร้องเพลงอย่างมีความสุข แล้วเพราะอะไรเธอถึงเป็นดวงวิญญาณที่มีความสุขบนเรือน่ะเหรอ ก็เพราะเธอ “หมดห่วง” จากทุกอย่างในโลกของคนเป็นแล้วอย่างไรล่ะ การที่เธอไม่มีญาติมิตรเพื่อนฝูงมาร่ำลา นั่นก็เพราะเธอ “หมดห่วง” แล้ว เธอมีความสุขที่จะอยู่ในโลกของวิญญาณมากกว่าดวงวิญญาณคนตายคนอื่นๆบนเรือ เธอตัดขาดจากโลกของคนเป็นได้อย่างมีความสุข ไม่มีภาระ ไม่มีห่วงใดๆ

คิดถึงทีไร เราก็ร้องไห้ให้กับฉากนี้

GOODBYE FOR TOMORROW นะ NOBUHIKO OBAYASHI

No comments: