หัวเราะให้กับความโง่ของตัวเอง ตั้งใจจะซื้อ dumbbell อันเดียว
ขนาด 15 กก. แต่ลองสั่งซื้อจาก lazada ดู ปรากฏว่าพอของส่งมาแล้วมันเป็น
dumbbell 2 อัน อันละ 7 กก. 55555 ไม่เป็นไร
เนื่องจากเราโง่เอง เราก็เลยให้อภัยตัวเองได้ ง่ายจัง (ร้านเขาไม่ได้ผิดนะ
เราดูรายละเอียดสินค้าแล้วเราเข้าใจผิดไปเอง)
--------------
TREES IN SUMMER (2020, Suyu Lee, South Korea, 40min, A+30)
#signesdenuit2021
STORIES KEEP ME AWAKE AT NIGHT (2020, Jérémy Van Der Haegen,
Belgium, 31min, A+30)
เราดูหนังเรื่องนี้โดยไม่ได้อ่านเรื่องย่อมาก่อน
ก็เลยชอบหนังอย่างสุดขีด เพราะตอนที่เราดูหนังเรื่องนี้เราไม่รู้ว่าหนังมันจะออกมาแนวไหน
เรารู้แค่ชื่อเรื่อง เราก็เลยนึกว่าหนังมันจะออกมาเป็น thriller หรือ horror
5555555 แต่จริง ๆ แล้วเนื้อหาของหนังมันเป็น slice of life และพอดูเสร็จแล้ว อ่านเรื่องย่อ
ถึงรู้ว่าหนังมันต้องการจะถ่ายทอดชีวิตธรรมดา
ๆ
คือตอนดูหนังเรื่องนี้ จินตนาการกูไปไกลมากค่ะ
คือหนังมันเล่าเรื่องของครอบครัวนึงในชนบท มีพ่อแม่, ลูกสาวที่เหมือนต้องการจะแอบออกนอกบ้านไปตอนกลางคืนเพื่อไปหาผัว
และลูกชายที่เป็นเด็กวัยประถมที่ต้องการแต่งตัวเป็นผู้หญิง
แต่บ้านของครอบครัวนี้อยู่ในชนบทที่เหมือนมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหมาป่าหรืออะไรสักอย่าง
และมีการล่าหมาป่าในตอนกลางคืน มีเสียงยิงปืนดังอยู่นอกบ้านในตอนกลางคืน
ไม่รู้ว่าผู้กำกับจงใจมากน้อยแค่ไหน แต่ตอนดูหนังเรื่องนี้
เราจินตนาการว่า
1.มันต้องมีมนุษย์หมาป่า อาจจะเป็นใครในครอบครัวนี้ก็ได้
หรืออาจจะเป็นใครในหมู่บ้านก็ได้
2.อาจจะมีตัวละครถูกยิงตายโดยไม่ได้ตั้งใจ
เพราะเขาออกนอกบ้านไปในป่าในตอนกลางคืน ก็เลยถูกพวกล่าหมาป่ายิงตาย
3.อาจจะมีความลับดำมืดซ่อนอยู่ในหมู่บ้านนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนจริง ๆ
แล้วอาจจะไม่ใช่การล่าหมาป่า
4.สมาชิกครอบครัวอาจจะปะทะกันอย่างรุนแรง อาจจะมีการฆ่ากัน
แต่ในที่สุดสิ่งที่เราจินตนาการไว้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเลย
เหมือนมันเป็นหนึ่งวันของครอบครัวนี้เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรรุนแรง ฆ่ากันตาย
อาถรรพณ์ร้ายอะไรเกิดขึ้น 55555
ก็เลยชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุด ๆ
ไม่ว่าผู้กำกับจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เพราะเราชอบหนังที่ทำให้เรื่องธรรมดากลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นน่ะ
นึกว่าต้องฉายควบกับ STAYING VERTICAL (2016, Alain Guiraudie) เพราะมันมีความ queer และมี “หมาป่า” เหมือนกัน
55555
#signesdenuit2021
INVISIBLES (2020, Gracia Querejeta, Spain, A+30)
1.เพิ่งดูหนังในเทศกาลหนังภาษาสเปนไปได้แค่ 6 เรื่อง ชอบสุด ๆ
ทุกเรื่องที่ได้ดู แต่ตอนนี้อินกับเรื่องนี้มากที่สุด เรื่องของสามสาววัย 50
ปีที่เดินคุยกันตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง (พวกเธอมาเจอกันสัปดาห์ละครั้ง
และเดินคุยกันไปเรื่อย ๆ ในแต่ละสัปดาห์) ชอบมากๆ ที่มีคนทำหนังแบบนี้ออกมา
คือไม่ต้องลงทุนด้านเงินอะไรมาก แค่ให้ตัวละครเดินคุยกันตั้งแต่ต้นจนจบ แต่หนังสะท้อนความละเอียดลออในการพยายามทำความเข้าใจลักษณะนิสัยของมนุษย์แต่ละคน
2.อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่หนังที่ “อ่อนโยน” แบบหนังของ Eric Rohmer หรือ HAPPY
HOUR (2015, Ryusuke Hamaguchi) นะ เพราะหนังเรื่องนี้มีความเมโลดราม่าหนักมาก
ๆ เหมือนหนังอยู่กึ่งกลางระหว่าง SEX AND THE CITY กับ HAPPY
HOUR และเอาจริง ๆ แล้วหนังก็ไม่ได้ถึงขั้น “เยี่ยมยอด” หรืออะไร
แต่เหมือนเราชอบ “ไอเดีย” ที่ให้ตัวละครเดินคุยกันตั้งแต่ต้นจนจบ
มากกว่าตัวผลลัพธ์ของหนังที่ออกมา
คือเรารู้สึกว่าไอเดียของหนังมันใกล้เคียงกับหนังแบบที่เราอยากเห็นหรือแบบที่เราอยากสร้างน่ะ
อยากให้มีคนทำหนังแนวนี้ออกมาอีก
3.สาเหตุที่อินกับหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรง เพราะดูแล้วนึกถึงอดีตของเราเองมาก
ๆ เพราะตอนที่เราเรียนมหาลัยในปี 1991-1994 เราก็เคยนัดเจอกับเพื่อน ๆ
มัธยมสัปดาห์ละ 1 วัน เหมือน ๆ กัน เรามักจะไปเจอเพื่อน ๆ ที่ประสานมิตรหรือไม่ก็ม.เกษตร
และบางทีเรากับเพื่อน ๆ มัธยมก็เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ จากมศว.ประสานมิตรมาจนถึงห้างมาบุญครอง
ไม่รู้ยุคนั้นเดินกันไปได้ยังไง ไม่รู้เดินกันกี่กิโลเมตร
แต่เป็นการเดินที่มีความสุขที่สุดในชีวิต เพราะฉะนั้นพฤติกรรมที่ตัวละครในหนังเรื่องนี้ทำ
มันก็เลยทำให้นึกถึงสิ่งที่เราเคยทำในอดีตมาก ๆ
หนังเรื่องนี้ฉายฟรีออนไลน์นะ เปิดฉายถึงเวลา 15.00
น.ของวันพฤหัสบดีนี้
https://www.pelikula.es/en/pelicula/613b60208e90294a3afd497a
No comments:
Post a Comment