A CHIP OFF THE OLD BLOCK (2023,
Nontawat Numbenchapol + Kridpuj Dhansandors, video installation, 88min, A+30)
วิดีโอสัมภาษณ์คุณแม่ของคุณสยาม
ธีรวุฒิ, พี่สาวของคุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และบุตรชายของคุณสหายภูชนะ ดูแล้วรู้สึกว่ามัน
monumental มาก ๆ สำหรับเรา
และมีความสำคัญมากเท่ากับภาพยนตร์ของ Patricio Guzman และ Rithy
Panh
เหมือนเป็นครั้งแรกที่เราได้ดูการสัมภาษณ์บุตรชายของคุณสหายภูชนะด้วยแหละ
ในขณะที่พี่สาวของคุณวันเฉลิมนั้นเหมือนเราเคยเห็นในสื่อมาบ้างแล้ว และคุณแม่ของคุณสยามก็เหมือนเคยปรากฏตัวในหนังสั้นบางเรื่องมาบ้างแล้ว
ชอบมาก ๆ ที่นำทั้ง 3 คนนี้มารวมกัน
และเป็นการสัมภาษณ์ยาว ๆ ไปเลย มันจะได้เห็น “ภาพรวม” ได้ชัดขึ้น
ชอบมาก ๆ ที่มันโยงไปถึงตั้งแต่เรื่องของ
“หะยีสุหลง” และ “บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ” ด้วย
และถ้าเอาวิดีโอนี้มารวมกับภาพยนตร์อย่าง
“ไกลบ้าน” (2019, Teeraphan Ngowjeenanan), “หมายเลขคดีแดง”, PLANET KRYPTON (2019, Prontip Mankhong, Pisitakun
Kuantalaeng), SASIWIMOL (2017, Rewadee Ngamloon), บันทึกสุดท้าย
ดา ตอร์ปิโด (2020, นัชชา ตันติวิทยาพิทักษ์, มุทิตา
เชื้อชั่ง) และหนังสั้นไทยเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เราก็จะยิ่งเห็นภาพรวมที่ชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก
Edit เพิ่ม: ฝันบอกเหตุของลูกชายคุณสหายภูชนะ หนักมาก ๆ
DRIFTERS (2022, Kay Walkowiak,
Austria, video installation, 7min, A+30)
นึกว่า “สูงสุดคืนสู่สามัญ” 5555
วิดีโอมีแค่ภาพใบไม้ที่คล้าย ๆ กับใบกล้วยแกว่งไกวไปมาท่ามกลางแรงลม
โดยที่ตรงใบกล้วยมีรอยเปื้อนสีขาวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ด้วย ซึ่งความที่รอยเปื้อนมันเป็นรูปทรงเรขาคณิตแบบนี้
ทำให้เห็นได้ชัดว่ามันเกิดจากน้ำมือมนุษย์
ถึงวิดีโอจะไม่มีอะไรมากนัก
แต่การดูใบไม้แกว่งไกวไปตามแรงลมเป็นเวลานานเกือบ 7 นาทีก็เป็นสิ่งที่เพลิดเพลินมากสำหรับเรา
และถึงแม้เราจะไม่แน่ใจว่าวิดีโอนี้สื่อถึงอะไร แต่มันก็ทำให้เรานึกถึงที่ทางที่สมควรจะเป็นของมนุษย์มั้ง
5555 คือรอยเปื้อนสีขาวที่ “ไม่เป็นธรรมชาติ” มาก ๆ นั้นมันดูขัดหูขัดตามาก ๆ ก็จริง
แต่การดำรงอยู่ของมนุษย์ 8 พันล้านคนบนโลกมันก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะ “สร้างความเสียหาย”
ต่อธรรมชาติอยู่แล้วล่ะ สิ่งที่มนุษยชาติทำได้ก็อาจจะมีเพียงแค่ลด “รอยเปื้อน” ต่อธรรมชาติให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
และพยายามปล่อยให้ธรรมชาติดำเนินไปตามครรลองของมัน โดยลดการสร้างความเสียหายต่อมันให้น้อยที่สุดมั้ง
No comments:
Post a Comment