Saturday, June 21, 2025

OSGOOD PERKINS

 

หนักมาก SITAARE ZAMEEN PAR (2025, R.S. Prasanna, India, 155min) ที่เมเจอร์ เอกมัย เต็มทุกที่นั่งตั้งแต่รอบ 12.00 น. จนถึงรอบ 22.30 น. แต่ว่าที่ไอคอน สยามกับที่เซ็นทรัล พระรามสาม ยังเหลือที่นั่งอยู่เยอะมาก

 

+++

 

แม่หมีแอบจับได้ว่า ลูกหมีแอบชวนชายหนุ่ม 3 คนมาเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะกันที่ห้อง ตอนที่แม่หมีออกไปดูหนัง วันนี้แม่หมีเลยจับลูกหมีใส่ตะกร้าล้างน้ำ

+++

 

ฉันรักเขา Theo James from THE MONKEY (2025, Osgood Perkins, A+30)

 

OSGOOD PERKINS และอะไรต่าง ๆ อีกมากมาย

 

เราได้ดู THE MONKEY (2025, Osgood Perkins, A+30) ในวันที่ 1 มี.ค. หรือเมื่อกว่า 3 เดือนก่อน แต่ยังไม่ได้จดบันทึกความรู้สึกที่มีต่อหนังเรื่องนี้เสียที วันนี้ก็เลยขอถือโอกาสจดบันทึกไว้เสียหน่อย

 

1. เราก็ชอบ THE MONKEY ในระดับ A+30 นะ แต่ถือว่าเป็นหนังที่เราชอบน้อยที่สุดในบรรดาหนัง 3 เรื่องของ Osgood Perkins ที่เราได้ดู (อีกสองเรื่องคือ FEBRUARY กับ LONGLEGS) เพราะว่าโดยปกติแล้วเราไม่ชอบและไม่อินกับหนังแนว “ตลกร้าย” น่ะ ซึ่ง THE MONKEY มันเป็น “ตลกร้าย” อย่างเต็มตัว เราก็เลยไม่ค่อยอินกับมันสักเท่าไหร่

 

2. แต่สาเหตุที่เรายังคงชอบ THE MONKEY ในระดับ A+30 เป็นเพราะว่า หนังเรื่องนี้ยังคงมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่คล้ายกับ FEBRUARY และ LONGLEGS และคุณสมบัตินั้นคือหนึ่งในสิ่งที่เราชอบมากที่สุดในหนังของ Osgood Perkins ถึงแม้ว่านั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ Osgood Perkins ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

 

สิ่งนั้นก็คือว่า เรารู้สึกว่าหนังทั้ง 3 เรื่องของ Osgood Perkins ที่เราได้ดู มันทำให้เรารู้สึกคล้ายกับว่า เนื้อเรื่องในหนังทั้ง 3 เรื่องของเขา เกิดขึ้นใน “THE WORLD WITHOUT GOD” “THE WORLD IN WHICH GOD IS ABSENT” “THE WORLD IN WHICH GOD DOESN’T EXIST, BUT SATAN/EVIL EXISTS.” อะไรทำนองนี้น่ะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า Osgood Perkins ตั้งใจแบบนั้นหรือเปล่า

 

คือเราชอบจุดนี้ในหนังทั้ง 3 เรื่องของเขามาก ๆ เพราะเราว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่เจอในหนัง HORROR หลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะหนังแนว “ไล่ผี” ของฝรั่ง หรือหนังชุด THE CONJURING เพราะว่าในหนังเหล่านั้น เมื่อตัวละครเผชิญกับ ภูตผีปีศาจ, evil ghosts, devils, etc. ตัวละครก็สามารถขอพึ่งพาอำนาจจาก “พระเจ้า” ในการต่อสู้กับภูตผีปีศาจได้ คือในหนัง HORROR หลาย ๆ เรื่องนั้น GOD EXISTS น่ะ

 

ดังนั้นถึงแม้ THE MONKEY จะเป็น “หนังตลกร้าย” ที่เราไม่ค่อยอิน แต่เราก็ยังคงรู้สึกว่า เนื้อหาในหนังเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นใน “โลกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของซาตาน/ปีศาจร้าย และไม่รู้ว่าพระเจ้าหายไปไหน” เหมือนกับใน FEBRUARY และ LONGLEGS เราก็เลยยังคงชอบหนังเรื่องนี้ในระดับ A+30 อยู่ดี มันเหมือนกับว่า นอกจากความเป็น “ตลกร้าย” แล้ว หนังเรื่องนี้ยังคงมี “ความมืดที่น่ากลัวจริง ๆ" สำหรับเรา ซ่อนอยู่ในหนังด้วย

 

3. ส่วนอันนี้เป็นความรู้สีกเพิ่มเติมของเราที่มีต่อ Osgood Perkins คือตอนนี้เราตัดสินได้อย่างมั่นใจแล้วว่า เราชอบ FEBRUARY (2015) มากกว่า LONGLEGS (2024) 55555 เพราะฉะนั้นในบรรดาหนังสามเรื่องของเขาที่เราได้ดู เราก็เลยชอบ FEBRUARY เป็นอันดับหนึ่ง, LONGLEGS เป็นอันดับสอง และ THE MONKEY เป็นอันดับสาม สรุปว่า เราชอบหนังเรื่องแรก ๆ ของเขามากกว่าหนังเรื่องหลัง ๆ

 

คือตอนที่เราดู LONGLEGS จบใหม่ ๆ ในปีที่แล้ว เราพบว่าเราชอบ LONGLEGS อย่างรุนแรงสุดขีดคลั่งมาก ๆ จนเราไม่แน่ใจว่า เราชอบหนังเรื่องไหนมากกว่ากัน ระหว่าง LONGLEGS กับ FEBRUARY

 

แต่พอเวลาผ่านมานานราว 1 ปี เราก็มั่นใจได้เลยว่า เราชอบ FEBRUARY มากกว่า LONGLEGS อย่างแน่นอน เพราะเรายังคงคิดถึงตัวละครใน FEBRUARY อยู่บ่อยครั้ง แต่เราไม่ได้คิดถึง LONGLEGS มากเท่า  

 

คือเหมือนเวลาเราดูหนังเรื่องต่าง ๆ เราจะมี benchmark ในใจเราสำหรับวัดว่า “ตัวละครนางเอก” ในหนังเรื่องนั้น ๆ เข้าทางเรามากน้อยแค่ไหนน่ะ ซึ่งหนึ่งใน benchmark ที่เราใช้วัดเป็นประจำในการดูหนังในทศวรรษ 1990 ก็คือตัวละคร “เวฬุรีย์” จากละครโทรทัศน์เรื่อง “เพลิงพ่าย” ส่วนในช่วงทศวรรษ 2000 ก็คือตัวละคร Manu ในหนังเรื่อง BAISE-MOI (2000, Virginie Despentes + Coralie Trinh Thi) คือถ้าหากตัวละครนางเอกในหนังเรื่องไหน ทำตัวคล้าย ๆ และ เวฬุรีย์ และManu มากเท่าไหร่ มันก็บ่งชี้ได้ในทางหนึ่งว่า ตัวละครนางเอกตัวนั้น “เข้าทาง” เรามากเท่านั้น เพราะฉะนั้นตัวละครนางเอกในหนังอย่าง MAPS TO THE STARS (2014, David Cronenberg) ก็เลยกลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่เราชอบมากที่สุดตลอดกาลไปเลย เพราะนางเอกของ MAPS TO THE STARS สามารถปะทะกับเวฬุรีย์และ Manu ได้อย่างแน่นอน

 

และพอเราได้ดู FEBRUARY (2015, Osgood Perkins) ในช่วงต้นปี 2016 ตัวละคร “Kat” (Kiernan Shipka) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครนางเอกของ FEBRUARY ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งใน benchmark ของเราเหมือนกับตัวละคร  เวฬุรีย์ และ Manu คือถ้าหากตัวละครนางเอก/หญิงสาว/วัยรุ่นของหนังเรื่องไหนเข้าใกล้ความเป็น Kat ได้มากเท่าใด ตัวละครเด็กสาวนางเอกของหนังเรื่องนั้นก็ยิ่งเข้าทางเรามากเท่านั้น

 

ยิ่งโดยเฉพาะเวลาที่เราดูหนังที่มี “เด็กผู้หญิง” โดน bully ในโรงเรียนหรือเด็กผู้หญิงที่เจอกับคนเลว ๆ หัวสมองของเราก็มักจะจินตนาการโดยอัตโนมัติว่า “อย่างมึงต้องเจอกับ Kat จาก FEBRUARY” อะไรทำนองนี้ ซึ่งหนังเรื่องล่าสุดที่กระตุ้นจินตนาการเราทำนองนี้ ก็คือ BRING HER BACK (2025, Danny Phillippou, Michael Phillippou, A+30) เพราะตอนที่เราดู BRING HER BACK ในช่วงครึ่งแรก หัวสมองของเราก็จะจินตนาการโดยอัตโนมัติว่า “อี Sally Hawkins ลองถ้ามึงได้ลูกบุญธรรมแบบ Kat ดูสิ ดูซิว่ามึงจะรอดไปได้สักกี่น้ำ ดูซิว่ามึงจะยังมีชีวิตรอดจนถึงครึ่งหลังของเรื่องมั้ย” 55555 แต่พอในช่วงหลัง ๆ ของหนัง ตัวละครพระเอกของ BRING HER BACK ลุกขึ้นสู้อย่างจริงจัง เราก็เลยไม่ต้องจินตนาการถึง Kat อีก

 

และตอนที่เราดู ATTACK 13 (2025, Taweewat Wantha, A+30) ช่วง 10 นาทีแรกเราก็นึกถึง Kat จาก FEBRUARY ในทันที เพราะพอหนังมันเซ็ตเรื่องเป็น “เด็กสาวตบกันในโรงเรียนมัธยม” เราก็จะจินตนาการถึง Kat ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ หัวของเราจะจินตนาการทันทีว่า “อีบุษบา ลองถ้ามึงมาเจอกับ Kat จาก FEBRUARY ดูสิ ดูซิว่ามึงจะมีชีวิตรอดต่อไปได้อีกกี่นาที”

 

แต่ปรากฏว่า ATTACK 13 สร้างตัวละคร “จิน” ออกมาได้เข้าทางเราอย่างสุดขีดมาก ๆ เพราะฉะนั้นพอตัวละคร “จิน” แผลงฤทธิ์ออกมาได้ในแบบที่ตรงใจเราไปเรื่อย ๆ เราก็ไม่ต้องจินตนาการนึกถึง Kat อีกต่อไป และตัวละคร “จิน” ก็เลยกลายเป็นหนึ่งในตัวละครหญิงสุดโปรดของเราไปเลย

 

เราก็เลยพบว่า ถึงแม้เราจะชอบ LONGLEGS อย่างสุดขีด แต่มันก็เป็นการชอบที่บรรยากาศ, ความขลัง, ความเฮี้ยน, ความ cinematic, etc. แต่ตัวละครใน LONGLEGS มันไม่ได้เข้ามา “ครองใจเรา” แบบตัวละครหญิงใน FEBRUARY น่ะ เรายังคงนึกถึงตัวละครหญิงใน FEBRUARY อยู่เสมอ ๆ เวลาที่เราดูหนังเรื่องต่าง ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะตัวละครหญิงใน FEBRUARY มันได้กลายเป็น benchmark สำหรับใช้วัดว่าตัวละครในหนังเรื่องไหนเข้าทางเรามากน้อยแค่ไหนน่ะ เหมือนกับตัวละครนางเอกของ BAISE-MOI และเพลิงพ่าย

 

ซึ่งตัวละครหญิงที่ผ่านเกณฑ์ benchmark ของเรา นอกจากตัวละครนางเอกของ MAPS TO THE STARS และ ATTACK 13 แล้ว ก็มีตัวละครนางเอกของ PEARL (2022, Ti West), MAXXXINE (2024, Ti West) และ STRANGE DARLING (2023, JT Mollner) ที่ผ่านเกณฑ์เช่นกัน คือดูแล้วรู้เลยว่า ถ้าหากตัวละครนางเอกของ ATTACK 13, PEARL, MAXXXINE และ STRANGE DARLING มาเจอกับ Kat จาก FEBRUARY ตัวละครนางเอกเหล่านี้ก็น่าจะยังคง “มีชีวิตรอดได้อีกนาน” ไม่ถูก Kat ฆ่าตายได้ง่าย ๆ 55555

 

ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ มีตัวละครตัวไหนที่ถือเป็น benchmark สำหรับรสนิยมของตัวเองแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า

 

4. เสียดายที่เรายังไม่ได้ดู I AM THE PRETTY THING THAT LIVES IN THE HOUSE (2016, Osgood Perkins) กับ GRETEL & HANSEL (2020, Osgood Perkins)

 

5. เนื่องจาก Osgood Perkins เป็นผู้กำกับที่เราชอบหนังเรื่องแรก ๆ ของเขามากกว่าหนังเรื่องหลัง ๆ เราก็เลยลองนึกดูว่า มีผู้กำกับคนไหนอีกบ้างที่เรารู้สึกแบบนั้น ซึ่งตอนนี้ที่นึกออกก็มีอย่างน้อย 3 คน ซึ่งก็คือ

 

5.1 Apichatpong Weerasethakul

 

คือเราก็ยังคงชอบหนังเรื่องหลัง ๆ ของ Apichatpong อย่างรุนแรงสุดขีดนะ ทั้ง MEMORIA (2021) และ CEMETERY OF SPLENDOUR (2015) นี่เราก็กราบไหว้บูชามาก ๆ เพียงแต่ว่า ถ้าหากถามว่าเราชอบหนังเรื่องไหนของ Apichatpong มากที่สุด มันก็ยังคงเป็น WINDOWS (1999) น่ะ และถ้าหากถามว่าเราชอบหนังยาวเรื่องไหนของ Apichatpong มากที่สุด มันก็ยังคงเป็น MYSTERIOUS OBJECT AT NOON (2000) อยู่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้เห็นได้ชัดว่า ความชอบของเรากับความดีงามของหนัง มันไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว แน่นอนว่า WINDOWS ไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดของ Apichatpong แต่เป็นหนังที่เข้าทางเรามากที่สุดเท่านั้นเอง

 

5.2 Krzystof Kieslowski

 

เราชอบหนังยุคแรกของเขามากกว่าหนังยุคหลังอย่างเห็นได้ชัด เพราะเราชอบ UNDERGROUND PASSAGE (1974), PERSONNEL (1975), THE CALM (1976) และ A SHORT WORKING DAY (1981) มากกว่าหนังชุด THREE COLORS, THE DOUBLE LIFE OF VERONIQUE (1991), A SHORT FILM ABOUT LOVE (1988)

 

คือเราก็ชอบหนังยุคหลังของ Kieslowski อย่างรุนแรงสุดขีดนะ เห็นได้ชัดเลยว่า หนังยุคหลังของเขามันมีความ spiritual สูงกว่าหนังยุคแรก และอาจจะ “ดีงามกว่า” หนังยุคแรก แต่หนังยุคแรกของเขามันเข้าทางเรามากกว่า ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร หรือว่าหนังยุคแรกของเขามันมีพลังของ “โทสะ”, “ความขึ้งเคียด” และ ”ความเกลียดชัง” มากกว่าหนังยุคหลัง ๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ มันก็เลย “เข้าทาง” เรา เพราะอย่างที่เราเคยเขียนไปแล้วหลายครั้งว่า เรามักจะไม่อินกับ “ความรัก” ในหนัง แต่เรามักจะอินกับ “ความโกรธเกลียดเคียดแค้นชิงชัง” ในหนัง 55555

 

บางทีเราก็สงสัยเหมือนกันว่า เราเป็นคนเดียวในโลกหรือเปล่า ที่หลงรักหนังยุคแรก ๆ ของ Kieslowski มากกว่าหนังยุคหลัง ๆ

 

5.3 Rainer Werner Fassbinder

 

อย่างที่เราเคยแปะไปแล้วว่า เราเคยดูหนังของ Fassbinder ไปแล้ว 20 เรื่อง และ 5 อันดับหนังของเขาที่เราชอบมากที่สุด ก็คือ BREMEN FREEDOM (1972) , THE THIRD GENERATION (1979), KATZELMACHER (1969), THE NIKLASHAUSEN JOURNEY (1970) และ THE BITTER TEARS OF PETRA VON KANT (1972) น่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า 4 ใน 5 เรื่องนี้เป็นหนังยุคแรก ๆ ของเขา

 

แล้วเพื่อน ๆ มีผู้กำกับคนไหนบ้างหรือเปล่า ที่ชอบผลงานยุคแรก ๆ ของเขามากกว่าผลงานยุคหลัง ๆ

 

++++

THE LODGER นี่เคยมาฉายที่โรงภาพยนตร์สกาล่าในกรุงเทพในวันที่ 13 ส.ค. 2014 ด้วยนะ แต่วันนั้นเราไม่ได้ไปดู THE LODGER เพราะวันนั้นเราไปดูหนังเรื่อง A BOTTLE IN THE GAZA SEA (2011, Thierry Binisti, France/Israel, A+10) ที่ Alliance

 

 

No comments: