ประทับใจนิทรรศการ THIS PAGE IS
INTENTIONALLY LEFT_____ . (Curated by Yoonglai Collective) ที่จัดแสดงที่
Bangkok Kunsthalle มาก ๆ
ในนิทรรศการนี้มีเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับให้เราใส่ “ศัพท์แสลง” เข้าไปด้วย
เพื่อจัดทำเป็น “ปทานุกรมแบบสับ” เราก็เลยทดลองใส่คำว่า
“เส่ยหยั่น” ลงไป (เป็นคำศัพท์ที่เรากับเพื่อน ๆ
มัธยมในกลุ่มเดียวกันใช้พูดกันเอง)
แล้วมันก็ถามว่า หมายความว่าอะไร
เราก็เลยตอบไปว่า “จองหอง”
แล้วมันก็ให้เราแต่งประโยคโดยใช้คำว่า
“เส่ยหยั่น” เราก็เลยแต่งประโยคว่า “เธอทำหน้าตาเส่ยหยั่นใส่เบญจมา”
แล้วมันก็ถามชื่อของเราด้วย
เราก็เลยตอบโดยใช้นามแฝงของเราว่า “เจิดทนี เข่งกระจาย”
แล้วมันก็ print ศัพท์แสลงของเราใส่กระดาษออกมาให้ด้วย
เราก็เลยประทับใจที่เราสามารถ contribute ศัพท์แสลงของเราเข้าไปในปทานุกรมได้
+++++++++
ในที่สุดเราก็ได้ดู I A PIXEL, WE THE
PEOPLE (2025, Chulayarnnon Siriphol, video installation, 24 hours, A+30) ครบทุก episodes แต่จริง
ๆ แล้วเราได้ดูเพียงแค่ 23 ชั่วโมงจาก 24 ชั่วโมงนะ เพราะว่ามีอยู่ 2
episodes ที่เราได้ดูแค่ครึ่งชั่วโมงหลัง ซึ่งได้แก่
EPISODE 16: THE ETERNITY OF GOLDEN SNAIL
เราพลาดดูครึ่งชั่วโมงแรกของตอนนี้ เพราะเราหิวข้าวมาก เราเลยแว่บออกไปแดกข้าว
55555
EPISODE 18: VOLUNTARY ARTIST: KIRATI อันนี้เราก็พลาดดูครี่งชั่วโมงแรกเหมือนกัน
เพราะเรามัวแต่กินข้าวกลางวัน เลยมาดูไม่ทัน
แต่ถึงแม้เราได้ดูแค่ 23 ชั่วโมงจาก 24 ชั่วโมง
เราก็พอใจแล้ว งดงามมาก ๆ ถือว่าผลงานนี้ของเข้เป็น ONE OF MY MOST
FAVORITE THAI FILMS (OR MOVING IMAGES) OF ALL TIME อย่างแน่นอน
ชอบมาก ๆ ที่หนังเรื่องนี้ (เราขอใช้คำว่า
“หนัง” ก็แล้วกันนะ เพราะมันสั้นดี)
ผสมผสานเรื่องส่วนตัวกับเรื่องการเมืองเข้าด้วยกัน
เราก็เลยได้เห็นตั้งแต่ชีวิตคุณตาของเข้, คุณแม่ของเข้, เข้ ไปจนถึงลูกของเข้
และเห็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยทั้งในยุคร.7, ร.8, ร.9, ร.10 (เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ถือเป็นการบันทึกชีวิตคนไทยที่ครอบคลุมเวลานานถึง
“สี่แผ่นดิน” ได้เหมือนกัน)
ได้เห็นทั้งการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตย, สงครามมหาเอเชียบูรพา,
เหตุการณ์ 6 ต.ค. 1976, เหตุการณ์สังหารหมู่คนเสื้อแดงในปี 2010 เรื่อยมาจนถึงม็อบไล่ประยุทธ์ในปี
2020
เราชอบการผสมผสานเรื่องส่วนตัวกับเรื่องการเมืองเข้าด้วยกันในหนังเรื่องนี้มาก
ๆ เพราะว่าใน “หนังการเมือง” โดยทั่วไปนั้น หนังมักจะเล่าถึง
“บุคคลสำคัญที่มีบทบาททางการเมือง” หรือ “เหยื่อทางการเมือง” หรือ
“มวลชนกลุ่มใหญ่” แต่ไม่ได้พูดถึง
“ชีวิตประจำวันของคนธรรมดาในช่วงที่ไม่มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง” ส่วนในหนังชีวิตโดยทั่วไปนั้น
เราก็อาจจะไม่เห็นผลกระทบทางการเมืองที่มีต่อชีวิตของตัวละครอย่างเด่นชัด
แต่พอหนังเรื่องนี้ของเข้พูดถึงชีวิต “คนไทยธรรมดา ๆ ครอบครัวหนึ่ง”
โดยตัดสลับกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจไปเรื่อย ๆ เราก็เลยรู้สึกราวกับว่า
มันเป็นการ empower ชีวิตคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ได้ดีมาก ๆ
โดยที่เข้อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้ มันเหมือนกับเราที่เป็นคนธรรมดาตัวเล็ก ๆ
ที่มีสิทธิมีเสียงแค่ 1 เสียง ได้ถูก “นับรวม”
เข้าไปในความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วย ถึงแม้เสียงเล็ก ๆ
ของเราจะส่งผลกระทบเพียงน้อยนิดก็ตาม
คือพอชีวิตคนธรรมดา มันถูกบันทึกภาพไว้
แล้วภาพมันถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่ ๆ
แล้วตัดสลับกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่ถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่ ๆ จอเดียวกันไปด้วย
เราก็เลยรู้สึกเหมือนกับว่า มัน empower เรามาก ๆ น่ะ
จริง ๆ
แล้วหนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องดูครบทุกตอนก็ได้ แต่เราก็ตั้งใจไปดูให้ครบทุกตอน
เพราะเราไม่ใช่คนที่ดูหนังเพราะสนใจ “ประเด็น” หรือ “message”
ของหนัง เราสนใจเพียงแค่ “ความสุข” ที่เราได้รับจากการดูหนัง และพอเราได้ดูหนังเรื่องนี้ไปบางตอนแล้ว
เราก็พบว่า มัน “เพลิดเพลิน” สำหรับเรามาก ๆ (แน่นอนว่า “ความบันเทิง” และ
“ความเพลิดเพลิน” ของคนแต่ละคน มีความแตกต่างจากกัน “ความบันเทิง” สำหรับกู
ย่อมไม่ใช่ “ความบันเทิง” สำหรับมึง 55555) และมันให้ “ความเพลิดเพลิน”
แก่เรามากกว่าหนังฉายโรงหลาย ๆ เรื่อง เราก็เลยเอาเวลามาดูหนังเรื่องนี้ของเข้ให้ครบทุกตอนดีกว่า
เพราะมันดูฟรี ไม่ต้องจ่ายตังค์
และมันก็ให้ความสุขความเพลิดเพลินแก่เรามากกว่าการดูหนังโรงหลาย ๆ
เรื่องที่ไม่ได้เข้าทางเรา
และอีกสาเหตุนึงที่เราพยายามมาดูหนังเรื่องนี้ให้ครบทุก
episodes ก็เป็นเพราะว่าเราได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์เรื่อง
DEVELOP VIRIYAPORN WHO DARED IN 3 WORLDS หรือ
“เจริญวิริญาพรมาหาทำใน 3 โลก” (2021, Kanyarat Theerakrittiyakorn,
documentary, A+30) ด้วย เพราะหนังเรื่องนั้นตั้งข้อสันนิษฐานว่า
หนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็น Viriyaporn Boonprasert (ผู้กำกับภาพยนตร์ลึกลับในตำนานของไทย)
ก็คือ Chulayarnnon เราก็เลยพยายามตั้งใจมาดู I A
PIXEL, WE THE PEOPLE ทุก episodes เพื่อ
“จับผิด” ว่า หนังที่มีความยาว 24 ชั่วโมงเรื่องนี้ มีการใช้ฟุตเตจจากหนังของ
Viriyaporn Boonprasert ผสมอยู่ด้วยหรือไม่
เพราะว่าถ้าหากมีการใช้ฟุตเตจเดียวกัน มันก็อาจจะใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า Chulayarnnon
กับ Viriyaporn เป็นคนคนเดียวกัน
แต่ผลปรากฏว่า ใน I A PIXEL, WE THE PEOPLE นี้
ไม่ได้มีการใช้ฟุตเตจเดียวกับหนังของ Viriyaporn Boonprasert แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นหนังเรื่อง I A PIXEL, WE THE PEOPLE นี้ จึงไม่อาจใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า Chulayarnnon กับ Viriyaporn คือคนคนเดียวกันแต่อย่างใด 55555
เราถ่ายรูปไว้ทุก episodes นะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีเวลาว่างลงรูปเมื่อไหร่ 555
No comments:
Post a Comment