Saturday, June 21, 2025

I A PIXEL, WE THE PEOPLE (2025, Chulayarnnon Siriphol, video installation, 24 hours, A+30)

 

ประทับใจนิทรรศการ THIS PAGE IS INTENTIONALLY LEFT_____ . (Curated by Yoonglai Collective) ที่จัดแสดงที่ Bangkok Kunsthalle มาก ๆ ในนิทรรศการนี้มีเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับให้เราใส่ “ศัพท์แสลง” เข้าไปด้วย เพื่อจัดทำเป็น “ปทานุกรมแบบสับ”  เราก็เลยทดลองใส่คำว่า “เส่ยหยั่น” ลงไป (เป็นคำศัพท์ที่เรากับเพื่อน ๆ มัธยมในกลุ่มเดียวกันใช้พูดกันเอง)

 

 แล้วมันก็ถามว่า หมายความว่าอะไร เราก็เลยตอบไปว่า “จองหอง”

 

แล้วมันก็ให้เราแต่งประโยคโดยใช้คำว่า “เส่ยหยั่น” เราก็เลยแต่งประโยคว่า “เธอทำหน้าตาเส่ยหยั่นใส่เบญจมา”

 

แล้วมันก็ถามชื่อของเราด้วย เราก็เลยตอบโดยใช้นามแฝงของเราว่า “เจิดทนี เข่งกระจาย”

 

แล้วมันก็ print ศัพท์แสลงของเราใส่กระดาษออกมาให้ด้วย เราก็เลยประทับใจที่เราสามารถ contribute ศัพท์แสลงของเราเข้าไปในปทานุกรมได้

+++++++++

 

ในที่สุดเราก็ได้ดู I A PIXEL, WE THE PEOPLE (2025, Chulayarnnon Siriphol, video installation, 24 hours, A+30) ครบทุก episodes แต่จริง ๆ แล้วเราได้ดูเพียงแค่ 23 ชั่วโมงจาก 24 ชั่วโมงนะ เพราะว่ามีอยู่ 2 episodes ที่เราได้ดูแค่ครึ่งชั่วโมงหลัง ซึ่งได้แก่

 

EPISODE 16: THE ETERNITY OF GOLDEN SNAIL เราพลาดดูครึ่งชั่วโมงแรกของตอนนี้ เพราะเราหิวข้าวมาก เราเลยแว่บออกไปแดกข้าว 55555

 

EPISODE 18: VOLUNTARY ARTIST: KIRATI อันนี้เราก็พลาดดูครี่งชั่วโมงแรกเหมือนกัน เพราะเรามัวแต่กินข้าวกลางวัน เลยมาดูไม่ทัน

 

แต่ถึงแม้เราได้ดูแค่ 23 ชั่วโมงจาก 24 ชั่วโมง เราก็พอใจแล้ว งดงามมาก ๆ ถือว่าผลงานนี้ของเข้เป็น ONE OF MY MOST FAVORITE THAI FILMS (OR MOVING IMAGES) OF ALL TIME อย่างแน่นอน

 

ชอบมาก ๆ ที่หนังเรื่องนี้ (เราขอใช้คำว่า “หนัง” ก็แล้วกันนะ เพราะมันสั้นดี) ผสมผสานเรื่องส่วนตัวกับเรื่องการเมืองเข้าด้วยกัน เราก็เลยได้เห็นตั้งแต่ชีวิตคุณตาของเข้, คุณแม่ของเข้, เข้ ไปจนถึงลูกของเข้ และเห็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยทั้งในยุคร.7, ร.8, ร.9, ร.10 (เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ถือเป็นการบันทึกชีวิตคนไทยที่ครอบคลุมเวลานานถึง “สี่แผ่นดิน” ได้เหมือนกัน) ได้เห็นทั้งการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตย, สงครามมหาเอเชียบูรพา, เหตุการณ์ 6 ต.ค. 1976, เหตุการณ์สังหารหมู่คนเสื้อแดงในปี 2010 เรื่อยมาจนถึงม็อบไล่ประยุทธ์ในปี 2020

 

เราชอบการผสมผสานเรื่องส่วนตัวกับเรื่องการเมืองเข้าด้วยกันในหนังเรื่องนี้มาก ๆ เพราะว่าใน “หนังการเมือง” โดยทั่วไปนั้น หนังมักจะเล่าถึง “บุคคลสำคัญที่มีบทบาททางการเมือง” หรือ “เหยื่อทางการเมือง” หรือ “มวลชนกลุ่มใหญ่” แต่ไม่ได้พูดถึง “ชีวิตประจำวันของคนธรรมดาในช่วงที่ไม่มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง” ส่วนในหนังชีวิตโดยทั่วไปนั้น เราก็อาจจะไม่เห็นผลกระทบทางการเมืองที่มีต่อชีวิตของตัวละครอย่างเด่นชัด แต่พอหนังเรื่องนี้ของเข้พูดถึงชีวิต “คนไทยธรรมดา ๆ ครอบครัวหนึ่ง” โดยตัดสลับกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจไปเรื่อย ๆ เราก็เลยรู้สึกราวกับว่า มันเป็นการ empower ชีวิตคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ได้ดีมาก ๆ โดยที่เข้อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้ มันเหมือนกับเราที่เป็นคนธรรมดาตัวเล็ก ๆ ที่มีสิทธิมีเสียงแค่ 1 เสียง ได้ถูก “นับรวม” เข้าไปในความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วย ถึงแม้เสียงเล็ก ๆ ของเราจะส่งผลกระทบเพียงน้อยนิดก็ตาม

 

คือพอชีวิตคนธรรมดา มันถูกบันทึกภาพไว้ แล้วภาพมันถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่ ๆ แล้วตัดสลับกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่ถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่ ๆ จอเดียวกันไปด้วย เราก็เลยรู้สึกเหมือนกับว่า มัน empower เรามาก ๆ น่ะ

 

จริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องดูครบทุกตอนก็ได้ แต่เราก็ตั้งใจไปดูให้ครบทุกตอน เพราะเราไม่ใช่คนที่ดูหนังเพราะสนใจ “ประเด็น” หรือ “message” ของหนัง เราสนใจเพียงแค่ “ความสุข” ที่เราได้รับจากการดูหนัง และพอเราได้ดูหนังเรื่องนี้ไปบางตอนแล้ว เราก็พบว่า มัน “เพลิดเพลิน” สำหรับเรามาก ๆ (แน่นอนว่า “ความบันเทิง” และ “ความเพลิดเพลิน” ของคนแต่ละคน มีความแตกต่างจากกัน “ความบันเทิง” สำหรับกู ย่อมไม่ใช่ “ความบันเทิง” สำหรับมึง 55555) และมันให้ “ความเพลิดเพลิน” แก่เรามากกว่าหนังฉายโรงหลาย ๆ เรื่อง เราก็เลยเอาเวลามาดูหนังเรื่องนี้ของเข้ให้ครบทุกตอนดีกว่า เพราะมันดูฟรี ไม่ต้องจ่ายตังค์ และมันก็ให้ความสุขความเพลิดเพลินแก่เรามากกว่าการดูหนังโรงหลาย ๆ เรื่องที่ไม่ได้เข้าทางเรา

 

 และอีกสาเหตุนึงที่เราพยายามมาดูหนังเรื่องนี้ให้ครบทุก episodes ก็เป็นเพราะว่าเราได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์เรื่อง DEVELOP VIRIYAPORN WHO DARED IN 3 WORLDS หรือ “เจริญวิริญาพรมาหาทำใน 3 โลก” (2021, Kanyarat Theerakrittiyakorn, documentary, A+30) ด้วย เพราะหนังเรื่องนั้นตั้งข้อสันนิษฐานว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็น Viriyaporn Boonprasert (ผู้กำกับภาพยนตร์ลึกลับในตำนานของไทย) ก็คือ Chulayarnnon เราก็เลยพยายามตั้งใจมาดู I A PIXEL, WE THE PEOPLE ทุก episodes เพื่อ “จับผิด” ว่า หนังที่มีความยาว 24 ชั่วโมงเรื่องนี้ มีการใช้ฟุตเตจจากหนังของ Viriyaporn Boonprasert ผสมอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะว่าถ้าหากมีการใช้ฟุตเตจเดียวกัน มันก็อาจจะใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า Chulayarnnon กับ Viriyaporn เป็นคนคนเดียวกัน แต่ผลปรากฏว่า ใน I A PIXEL, WE THE PEOPLE นี้ ไม่ได้มีการใช้ฟุตเตจเดียวกับหนังของ Viriyaporn Boonprasert แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นหนังเรื่อง I A PIXEL, WE THE PEOPLE นี้ จึงไม่อาจใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า Chulayarnnon กับ Viriyaporn คือคนคนเดียวกันแต่อย่างใด 55555

 

เราถ่ายรูปไว้ทุก episodes นะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีเวลาว่างลงรูปเมื่อไหร่ 555 

 

No comments: