Monday, July 24, 2006

FUN RIAM (LADDAWAL SUEBPENG, A+)

ตอบคุณเจ้าชายน้อย

คิดว่าถ้าทำลิงค์ไปเฉยๆ คงไม่ต้องขออนุญาตอะไรมั้งคะ น่าจะลิงค์ไปได้เลย เพราะดิฉันเองก็ทำลิงค์ไปที่กระทู้นั้นเลยเหมือนกัน ฮ่าๆๆ รู้สึกว่าในกระทู้นั้นคนส่วนใหญ่จะพูดจากันอย่างมีเหตุมีผลและเรียบเรียงความคิดได้อย่างน่าทึ่งมากๆ ดิฉันอ่านแล้วก็ได้แต่ชื่นชม แต่ไม่มีความสามารถที่จะคิดตอบอะไรได้ ก็เลยขอแสดงความชื่นชมด้วยการเอาลิงค์มาแปะเพื่อให้คนที่สนใจได้เข้าไปอ่านกระทู้นั้นกันเอง


ตอบน้อง merveillesxx

--ยังไม่ได้ดู TWENTYNINE PALMS เลยจ้ะ แต่ดู LIFE OF JESUS (1997, BRUNO DUMONT, A+) กับ HUMANITY (1999, BRUNO DUMONT, A+) แล้ว คิดว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับหนังฝรั่งเศสยุคใหม่ที่น่าสนใจที่สุดคนนึงเลย

--ชอบ INFECTION ในระดับ B+ เช่นกัน จำรายละเอียดอะไรในหนังไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่ามีอะไรเกี่ยวกับแอปเปิลในหนังที่มันน่าติดใจดี

--ชอบบุปผาราตรีภาค 1 (A-) มากกว่าภาคสองเช่นกัน ภาคสองชอบมุกที่บุปผาออกไปเรียนหนังสือทุกวัน จำได้ว่ามีคนมาตั้งกระทู้ถามใน PANTIP ด้วยว่า บุปผาไปเรียนหนังสือที่มหาลัยไหนและเรียนวิชาอะไร

--พูดถึงกระทู้ใน PANTIP แล้ว มีอีกกระทู้นึงที่ตั้งคำถามได้ฮาดีจนจำได้ไม่ลืม นั่นก็คือกระทู้ที่ถามว่า เทพธิดาพยากรณ์ (THE ORACLE) ใน THE MATRIX กับเทพธิดาพยากรณ์ 1900 ใครเก่งกว่ากันคะ

--ไม่รู้ว่าจะได้มีเวลาดู SLOWDANCE หรือเปล่า จริงๆกะว่าจะดูอมฤตาลัย แต่ก็ไม่ได้ดูเสียที

วันนี้ขอตอบทุกคนอย่างสั้นๆก่อนแล้วกันนะคะ แล้วเดี๋ยวว่างๆจะมาตอบต่ออีกทีค่ะ

ตอบเทพธิดาพยากรณ์แฟรงเกนสไตน์

--ดีใจมากๆจ้าที่ชอบ SOPHIE SCHOLL – THE FINAL DAYS

--พูดถึงละครเวทีเกี่ยวกับผู้หญิงหัวขบถ ก็คิดว่าคุณแฟรงเกนสไตน์คงได้ข่าวแล้วเรื่องที่จะมีการแสดงละครเวที ANTIGONE ของกลุ่มพระจันทร์เสี้ยว ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ
http://www.crescentmoontheatre.com/Home.htm
ละครจะมีแสดงวันที่ 4, 5, 6 ส.ค.ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซอยทองหล่อ กำกับการแสดงโดยสินีนาฏ เกษประไพ


ตอบน้อง PINK 0700

--โฮๆๆๆ พี่ยังไม่เคยดู ROCCO SIFFREDI เลยจ้ะ แต่บี การินนี่หน้าตาน่ารักดีนะ

--จำได้ว่า UNDISCOVERED เคยเข้าฉายที่เอ็มโพเรียม แต่ไม่มีเวลาไปดูในตอนนั้น จนถึงบัดนี้ก็เลยยังไม่ได้ดูเลย

--อุ๊ยตายแล้ว ต้องกลับไปดู THE MIRROR ใหม่อีกรอบแล้วสิเนี่ย

--หนุ่มรัสเซียที่พี่เคยชอบมากก็คือ SERGEI BODROV JR. ที่เล่นเป็นนักว่ายน้ำในเรื่อง EAST WEST (1999, REGIS WARGNIER, A) จ้ะ แต่น่าเสียดายที่เขาตายเสียแล้ว

--JOAQUIN PHOENIX ใน SIGNS น่ารักมากๆ ดูซื่อๆดี แต่หลังๆได้เห็นเขาในบทคนเจ้าเล่ห์ๆ ก็เลยลดความชอบเขาลงไป คือเขาแสดงได้เก่งมากนะ แต่เขารับบทเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไหร่ อย่างเช่นใน BUFFALO SOLDIER (B+/B) กับใน WALK THE LINE (A)

--ยังไม่ได้ดู GODS AND MONSTERS เลยจ้ะ แต่ประทับใจการเปรียบเทียบของน้องอย่างมากๆ

--วันนี้ดึกแล้ว แล้ววันหลังจะมาตอบน้องต่อนะจ๊ะ


ตอบคุณ CHRIS’S GIRLFRIEND

--รู้สึกว่าตัวเองเป็น MASOCHIST เหมือนกันจ้ะ ทั้งในทางจิตใจและในทางร่างกาย อยากให้มีผู้ชายมาทำให้เราเจ็บ (ปนเสียว) บ้างจัง

--บางทีดิฉันก็คิดว่าสาเหตุที่ดิฉันชอบดูหนังเศร้าๆเป็นเพราะดิฉันเป็นโรคขี้อิจฉา ถ้าหากดูหนังที่ HAPPY ENDING แล้วดิฉันจะรู้สึกเป็นทุกข์มากๆ เพราะรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองสู้ตัวละครในหนังไม่ได้ แต่พอดูหนังประเภทชีวิตรันทดแล้วดิฉันจะรู้สึกว่ามีความสุขมากๆ และรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองนี่ก็น่าจะมีความสุขมากแล้วนะถ้าหากเทียบกับตัวละครในเรื่อง

--ชอบ RATCATCHER, EXOTICA, WHERE THE TRUTH LIES, GABBEH, SHE’S THE MAN ในระดับใกล้เคียงกับน้องเหมือนกันจ้ะ ในบรรดาหนัง 5 เรื่องนี้ ชอบ EXOTICA มากที่สุดจ้ะ


ความรู้สึกต่อหนังที่ได้ดูในช่วงนี้


--ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนจบของ SUMMER PALACE ถึงทำให้นึกถึงเนื้อเพลง THE WAY WE WERE ของ BARBRA STREISAND
Mem'ries,
Light the corners of my mind
Misty water-colored memories
Of the way we were
Scattered pictures,
Of the smiles we left behind
Smiles we gave to one another
For the way we were
Can it be that it was all so simple then?
Or has time re-written every line?
If we had the chance to do it all again
Tell me, would we? Could we?
Mem'ries, may be beautiful and yet
What's too painful to remember
We simply choose to forget
So it's the laughter
We will remember
Whenever we remember...
The way we were...
The way we were...

--ดูและฟัง THE WAY WE WERE ได้ที่นี่จ้ะ
http://www.youtube.com/watch?v=NcZUJXvD-EA&mode=related&search=


--ละครอีกเรื่องนึงที่กะว่าจะดูให้ได้ คือ ENTOURAGE ที่จะมาฉายทาง HBO สิ้นเดือนนี้ สาเหตุเพราะว่า JEREMY PIVEN สามี (ในฝัน) ของดิฉัน นำแสดงในละครเรื่องนี้จ้ะ
http://www.imdb.com/title/tt0387199/

--ส่วนละครที่ได้ดูแว้บๆแค่บางตอน แต่ชอบมาก ก็คือ CARNIVALE SEASON TWO (A+) ที่เพิ่งจบไปทางช่อง HBO มีอยู่สองฉากที่ดูแล้วลืมไม่ลงในละครเรื่องนี้ นั่นก็คือฉากที่

1.AMY MADIGAN (1950) ฆ่าสาวใช้วัยชราอย่างอำมหิตและฉับพลันมากจนคาดไม่ถึง โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า AMY MADIGAN เล่นได้ดีมากในละครเรื่องนี้ และมองไปมองมาก็รู้สึกว่าเธอให้อารมณ์คล้าย ISABELLE HUPPERT บ้างเหมือนกัน
http://www.imdb.com/name/nm0001496/

2.ฉากที่สุดหล่อ TIM DEKAY ถูกฝูงชนเอาน้ำมันดินกับขนนกราดทำร้าย

--ชอบที่ CARNIVALE เป็นละครที่มีลักษณะเหนือธรรมชาติคล้ายๆนิยายของ DEAN KOONTZ แต่ละครเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายของทั้งอำนาจรัฐ (นักการเมือง), อำนาจศาสนา (นักบวชชั่ว) และประชาชนที่ชอบใช้ความรุนแรง ส่วนคนนอกของสังคมอย่างคนในคณะสวนสนุกนี้ก็มีคนชั่วปะปนอยู่ด้วยเช่นกัน

--ประหลาดใจเช่นกันที่ตัวเองชอบ HELEN THE BABY FOX ไม่รู้สารเคมีในสมองเกิดผิดเพี้ยนไปชั่วคราวหรือเปล่า แต่คิดว่า HELEN THE BABY FOX มันให้ความรู้สึก “โปร่งโล่ง” บางอย่าง ก็เลยมีความสุขกับจุดนี้มาก ทั้ง HELEN THE BABY FOX และ PAPA (2005, MAURICE BARTHELEMY, A+) ต่างก็เป็นหนังที่มีเนื้อหาไม่เข้าทางดิฉันอย่างรุนแรง แต่ตัวหนังกลับเข้าทางดิฉันมากๆ โดยที่ดิฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะอะไรกันแน่

--รู้สึกว่าหนังที่เข้าฉายในช่วงนี้มีอะไรบางอย่างพ้องๆกันโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่น

1.ไม่แน่ใจว่าตัวเองจำผิดหรือเปล่า ถ้าใครจำได้ก็ช่วยบอกด้วย ในหนังเรื่อง LADY IN THE WATER จะมีฉากที่พระเอกไปถามกลุ่มผู้ชายว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน แล้วก็มีคนนึงตอบว่าพวกเขาคุยเรื่องมาร์ติน ลูเธอร์ คิง หรือตอบชื่อใครสักคนออกมา ดิฉันจำชื่อไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าหากเป็นมาร์ติน ลูเธอร์ คิงจริงๆ ก็น่าสนใจดี เพราะเขาถูกลอบสังหาร เหมือนกับที่ตัวละครตัวนึงใน LADY IN THE WATER ก็จะถูกลอบสังหารในอนาคตเช่นกัน

อีกสิ่งหนึ่งที่ดิฉันจำไม่ได้ และคงไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบดูในเร็วๆนี้ ก็คือในหนังเรื่อง EMPIRE OF THE WOLVES (2005, CHRIS NAHON, A-/B+) ที่เพิ่งมาฉายที่egv metropolisนั้น ดิฉันไม่แน่ใจว่า ฉากเปิดเรื่องของหนังเรื่องนี้เป็นการขึ้นภาพของบุคคลสำคัญในอดีตที่ต่างก็ถูกลอบสังหารทั้งสิ้นหรือเปล่า ถ้าจำไม่ผิด หนังเรื่องนี้จะเปิดด้วยภาพของ JOHN F. KENNEDY, MARTIN LUTHER KING, ABRAHAM LINCOLN หรืออะไรทำนองนี้ แล้วหลังจากนั้นหนังถึงค่อยมาเฉลยในภายหลังว่า นางเอกและตัวละครสำคัญบางตัวมีส่วนพัวพันกับการลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมือง

รู้สึกแปลกๆดีที่ได้ดูหนัง 2 เรื่องที่พาดพิงถึงการลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองในเวลาไล่เลี่ยกันอย่างนี้

2.ทั้ง LADY IN THE WATER และ RUNNING SCARED ต่างก็มีความเป็นเทพนิยายเหมือนๆกัน แต่ออกมาคนละโทน ส่วนใน HELEN THE BABY FOX นั้น ตัวละครในเรื่องก็มองเห็นคนเป็นแม่มดในบางฉาก

3.ทั้ง RUNNING SCARED และ MY ANGEL (2004, SERGE FRYDMAN, A+) ต่างก็มีตัวละครโสเภณีหรือผู้หญิงที่ขายเรือนร่าง แต่ตัวละครโสเภณีในหนังสองเรื่องนี้กลับมีบทบาทเป็นเหมือน “นางฟ้า” ที่มีจิตใจดีงามแสนประเสริฐ

4.ทั้ง SUMMER PALACE และ SOPHIE SCHOLL – THE FINAL DAYS ต่างก็พูดถึงหนุ่มสาวท่ามกลางฉากหลังทางการเมืองที่ร้อนแรงเหมือนกัน และก็เลยทำให้นึกถึงหนังเหล่านี้ที่นำเสนอหนุ่มสาวท่ามกลางฉากหลังทางการเมืองเช่นเดียวกัน

4.1 ZABRISKIE POINT (1970, MICHELANGELO ANTONIONI, A+)
เกี่ยวกับหนุ่มสาวในอเมริกา

4.2 THE MOONHUNTER (2001, BHANDIT RITTAKOL, A)

4.3 PUNITIVE DAMAGE: A MOTHER’S TRIAL (1999, ANNIE GOLDSON, A-)
http://www.imdb.com/title/tt0207030/
สารคดีเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับแม่ที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายที่เป็นนักศึกษาที่ถูกฆ่าตายในช่วงที่ทหารอินโดนีเซียสังหารหมู่ประชาชนจำนวนมากในติมอร์ตะวันออก

ชอบความเห็นของผู้ชมคนนึงใน IMDB.COM มาก เขาบอกว่า
It is the type of documentary that boils the blood and makes us wonder why we haven't done anything about it in the last 25 years.

4.4 COSY DENS (1999, JAN HREBEJK, A-/B+)
เกี่ยวกับชีวิตหนุ่มสาวชาวเชคโกสโลวาเกียก่อนเกิดเหตุการณ์ PRAGUE SPRING ที่กองทัพโซเวียตบุกเข้าประเทศนี้ในเดือนส.ค.ปี 1968 (คนที่ดูหนังเรื่อง UNBEARABLE LIGHTNESS OF BEING คงนึกถึงเหตุการณ์นี้ออก)

4.5 GIE (2005, RIRI RIZA, A-/B+)
สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับหนุ่มอินโดนีเซียที่เป็นนักคิดนักเขียนทางการเมือง

4.6 THE BEST OF YOUTH (2003, MARCO TULLIO GIORDANA, B+)
เกี่ยวกับหนุ่มสาวอิตาลีที่พยายามเคลื่อนไหวทางการเมือง

4.7 TANGO FEROZ: THE LEGEND OF TANGUITO (1993, MARCELO PINEYRO, B)
เกี่ยวกับนักร้องหนุ่มในอาร์เจนตินาในทศวรรษ 1960 ที่ต่อมาถูกทางการจับไปขัง
http://www.newint.org/issue252/reviews.htm
Fast-paced, this film captures the idealism of 1960s youth in urban Latin America pitted against the looming power of the morbid state.

4.8 REGULAR LOVERS (2005, PHILIPPE GARREL)
เกี่ยวกับหนุ่มสาวฝรั่งเศสในเหตุการณ์จลาจลปี 1968

4.9 MACHUCA (2004, ANDRES WOOD)
เกี่ยวกับหนุ่มสาวในชิลีปี 1973 ซึ่งเป็นปีที่มีการปฏิวัตินองเลือด



หนังที่ได้ดูในวันเสาร์ + อาทิตย์

1.ฝันเรียม (ลัดดาวัลย์ สืบเพ็ง, A+++++)
เป็นหนังที่ทำให้หัวเราะได้มากที่สุดนับตั้งแต่ดูหนังของ ULRIKE OTTINGER ในเดือนต.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา

2.เมืองเอก 1579 (เสรีย์ หล้าชนบท, A+)
ดูแล้วงง

3.SO FAR AWAY (สฤษดิ์รงค์ หยงสตาร์, A+)

4.บักซิเด๋อ (อุทิศ จิตร์อารีย์, A+)

5.บ้านของผม (ประกายรัตน์ ณ ศรีโต, A+)

6.ไม่ไปรังสิต (ชาคร ไชยปรีชา, A+)

7.LADY IN THE WATER (2006, M. NIGHT SHYAMALAN, A+)
ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าระหว่างเรื่องนี้กับ UNBREAKABLE (2000, A+) ดิฉันชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆก็คือชอบสองเรื่องนี้มากกว่า THE VILLAGE (2004, A), THE SIXTH SENSE (1999, A-) และ SIGNS (2002, B+) จ้ะ

8.ทิชชู (ธนีดา หาญทวีวัฒนา, A+)
รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ “สมบูรณ์แบบ” มาก

9.พื้นที่เล็กๆ (วีระ รักบ้านเกิด, A+)

10.3 นาที (นภดล สุเนต์ตา, A+)
คุณนภดล สุเนต์ตาเคยกำกับหนังสยองขวัญเรื่อง HOME ALONE (2005, A+)

11.8-9 (นวกานต์ ราชานาค, A+)
ดูแล้วงง

12.MISSED CALL (วัลยา สุภาพ, A)
ถ้าเข้าใจไม่ผิด คุณวัลยา สุภาพเคยกำกับหนังโรแมนติกเรื่อง THE OPPOSITE DOOR (A) ที่เคยฉายในปีที่แล้ว

13.อุบัติเหตุ (สราวรรณ วีระวัฒน์, A)
ไม่เข้าใจหนังเรื่องนี้เท่าไหร่ (หรือบางทีมันอาจจะไม่มีอะไรให้ต้องทำความเข้าใจแต่อย่างใด) แต่มันติดอยู่ในความทรงจำดี

14.CITY REPORT (ชาคริต วิชัยยุทธิ์, A)
หนังเรื่องนี้ “แทบไม่มีอะไรเลย” แต่ดูหนังแบบนี้แล้วรู้สึกมีความสุขมากกว่าดูหนังที่มีเนื้อหาสาระบางเรื่อง

15.ฝัน (ศุกลภัทร ประสงค์ทรัพย์, A)

16.นิทานเม่น (ทศพล ทิพย์ทินกร, A)

17.รักหรือ? (ผดุง สมาจาร, A)

18.สงกรานต์ (วิชาติ สมแก้ว, A-)

19.ตามหาอ๊าดบ๊องส์ (วารุต ยืนนาน, A-)

20.เจิ๊ด (พิทักษ์ ไพรพล, A-)

21.คนแรกที่สัญญา คนสุดท้ายที่รอคอย (ชยสร ศรีประเสริฐศักดิ์, A-)

22.SOUND OF SILENCE (ธาวิต รักรังสิมันต์สุข, A-)

23.ชื่อภาพ “ครอบครัว” (ศิลป์สิริ ประภาวงศ์, B+)

24.503 (ปุณณวิชญ์ เทศนา, B)

25.คนมอแกน (คมจักร ทองจิบ, B)

26.REBOUND (จุลจักร แสงอรุณ, B)

27.พ่อ (จิรภัทร นำศิริวิวัฒ, B-)

--ได้ดูหนังเรื่อง “วันสุดท้าย” (พสิษฐ์ สัจจพงษ์) ด้วย แต่ตอนนี้นึกไม่ออกแล้วแฮะว่าหนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

--ได้ดู SHE IS READING NEWSPAPER (ทศพล บุญสินสุข, A++++++++++) รอบสอง และรู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ช่วยเยียวยาจิตใจดิฉันได้อย่างมหัศจรรย์มาก เพราะตอนเช้าวันเสาร์ดิฉันมีเรื่องไม่สบายใจ มีเรื่องกลุ้มหมองค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่เช้า แต่อยู่ดีๆพอดู SHE IS READING NEWSPAPER ความเศร้าความขัดเคืองใจก็เหมือนถูกชะล้างให้หายไปอย่างน่าประหลาด ดิฉันรู้สึกเหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึง “ความสุขสงบ” ที่หาได้ง่ายๆในชีวิตโดยไม่ต้องดิ้นรนอะไรให้มากมาย และเป็นความสุขแบบที่ไม่ต้อง “เรียกร้อง” อะไรจากคนอื่นๆให้มากมาย การได้ดูภาพท้องฟ้าในหนังเรื่องนี้ บวกกับดนตรีประกอบที่โผล่ขึ้นมาในจังหวะนั้น มันเหมือนกับมีใครเอาไฮโดรเยนเพอร์ออกไซด์มาราดลงบนแผลในใจดิฉัน และชะล้างเชื้อโรคหนองเน่าให้หายไปจากใจได้ในทันที

ประสบการณ์ FILM HEALING แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเหมือนกันตอนดูหนังเรื่อง PISCINE (2002, JEAN-BAPTISTE BRUANT + MARIA SPANGARO, A+++++) ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หนังความยาว 1 ชั่วโมงเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากกลุ่มคนที่เดินไปเดินมาในสระว่ายน้ำ แต่ดูแล้วกลับรู้สึกเหมือนจิตใจได้ถูกชะล้างความทุกข์ความเศร้าความเดือดเนื้อร้อนใจความปริเทวนาการต่างๆให้หลุดหายไปได้อย่างน่ามหัศจรรย์มาก (บางทีดิฉันอาจจะเป็นบ้าค่ะ)

No comments: