Sunday, December 08, 2019

DOCTOR SLEEP

DOCTOR SLEEP (2019, Mike Flanagan,  A+30)

1. มีสิทธิติดอันดับ 3 ประจำปี อินกับหนังอย่างรุนแรงที่สุด รู้สึกว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้มันออกมา "ตรงใจ" เรามากๆ ทั้งนางเอก, พระเอก และนางตัวร้ายทั้งสองตัว (Rose the Hat กับสาวสะกดจิต Snakebite Andi) ซึ่งปกติแล้วมันหาได้ยากที่จะเจอหนังที่ทั้งนางเอก-นางตัวร้าย จะตรงใจเราขนาดนี้

2. ชอบสุดๆที่มันมีตัวละครที่มีอิทธิฤทธิ์หลายตัว คือก่อนที่เราจะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ เราไม่รู้เนื้อเรื่องมาก่อนเลย เราเคยดูก็แต่ THE SHINING ( Stanley Kubrick) ทางวิดีโอเมื่อราว 30 ปีก่อน

เราก็เลยนึกว่า หนังเรื่องนี้จะเป็นแบบ IT หรือ SALEM'S LOT ที่เป็นเรื่องของคนธรรมดา ต่อสู้กับปีศาจร้าย

เพราะฉะนั้นพอหนังเริ่มแนะนำตัวละคร  Rose the Hat กับพระเอก เราก็ยังรู้สึกเฉยๆอยู่ แต่พอหนังเริ่มแนะนำตัวละครสาวสะกดจิต กับ Abra ที่ต่างก็มีอิทธิฤทธิ์รุนแรงทั้งคู่ เราก็รู้สึกตื่นเต้นสุดขีด รู้เลยว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเข้าทางตัวเองแน่นอน

เพราะโลกจินตนาการในหัวของเรา ก็ต้องการอะไรแบบนี้แหละ เราชอบ fiction ที่มีตัวละครผู้หญิงแรงๆหลายตัว และผู้หญิงทุกตัวมีความสามารถสูงมากในการต่อสู้ แบบใน "เดชคัมภีร์เทวดาภาคสอง",   ละครทีวี SUKEBAN DEKA ภาคสอง, การ์ตูนเรื่อง CRYSTAL DRAGON ของ Ashibe Yuho หรือการ์ตูนเรื่อง BLUE SONNET ของ Shibata Masahiro คือในโลกจินตนาการในหัวของเรานั้น ตัวละครหญิงจะสู้กันแหลกโดยใช้ทั้งวิทยายุทธ, อาวุธ, พลังจิต และเวทมนตร์

 ซึ่งจริงๆแล้ว ละครทีวีอย่าง BUFFY THE VAMPIRE SLAYER และหนังชุด X-MEN ก็เข้าข่ายอะไรแบบที่เราชอบสุดๆเหมือนกัน แต่เราว่า BUFFY กับ X-MEN มันยังขาดบรรยากาศ "ความขลัง" น่ะ เราก็เลยชอบ DOCTOR SLEEP มากกว่า เพราะเราว่า บรรยากาศใน DOCTOR SLEEP มันขลังมาก  และมันซีเรียสจริงจังดีมาก ในขณะที่ BUFFY มันดูทีเล่นทีจรืงมากเกินไป ส่วน X-MEN มันดูเป็นไซไฟพลังจิต มันก็เลยยังขาดบรรยากาศลี้ลับของ "โลกเวทมนตร์"  แบบที่ DOCTOR SLEEP มี

3.ดูแล้วนึกถึงนิยายที่เราชอบสุดๆเรื่อง THE BAD PLACE (1990)  ของ Dean Koontz ด้วย โดยในเรื่องนี้ พระเอกกับนางเอกเป็นนักสืบเอกชน แล้วน้องชายนางเอก เหมือนมีพลังจิตแบบถอดจิตไปสำรวจพื้นที่ต่างๆได้ แต่ปรากฏว่าพอถอดจิตแล้ว ดันไปเจอฆาตกรโรคจิตที่ถอดจิตได้เหมือนกัน ก็เลยเกิดความชิบหายอย่างรุนแรงตามมา และก็มีตัวละครอื่นๆที่มีพลังจิตอีกสามตัวในเรื่องด้วย

การถอดจิตมาปะทะกันใน THE BAD PLACE ก็เลยทำให้นึกถึงพลังของ Abra กับ Rose the Hat  ในหนังเรื่องนี้ที่มีอะไรบางอย่างคล้ายกัน

จริงๆแล้วนึกถึงนิยายเรื่อง สัมภเวสี ของตรี อภิรุม ด้วย ที่นางเอกสามารถ เพ่งกสิณ จนเห็นเหตุการณ์ต่างๆในสถานที่ห่างไกลได้ และนำไปสู่การตบตีกับภูติผีปีศาจมากมาย โดยเฉพาะนางตัวร้ายตัวนึงที่เป็น "เวมานิกเปรต" (ถ้าจำไม่ผิด)  คิดว่าพลังของนางเอกใน "สัมภเวสี" นี่มีอะไรคล้ายคลึงกับ Abra เช่นกัน

4.ชอบวิธีการรับมือของพระเอกวัยเด็กต่อเหล่าภูติผีมากๆเลยด้วย ที่สร้างหีบวิเศษทางจิตขึ้นมาเพื่อใช้ขังเหล่าปีศาจร้าย

 ดูแล้วนึกถึงตัวเอง 555 อย่างที่เราเคยเขียนไปแล้วว่า ตอนที่เราเป็นวัยรุ่น เราเคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งด้วยกัน แต่วิธีนึงที่เราใช้รับมือกับความทุกข์ใจในตอนนั้น ก็คือการสร้างโลกจินตนาการของตัวเองขึ้นมา และมีความสุขกับโลกจินตนาการของตัวเอง

สิ่งที่พระเอกทำในวัยเด็ก ก็น่าจะคล้ายกับคนที่มี "บาดแผลทางใจในวัยเด็ก" หลายคนเคยทำ นั่นก็คือใช้ "กลไกทางจิต" ของตัวเองในการรับมือกับบาดแผลทางจิตของตัวเอง และไอ้กลไกทางจิตที่แต่ละคนพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้รับมือกับปมทางจิตของตัวเอง บางทีมันก็อาจจะช่วยสร้างความ unique ให้แต่ละคนเวลาโตขึ้นด้วย

เราก็เลยชอบตัวละครพระเอกมากๆในแง่นี้ เขาไม่ใช่ macho hero แต่เป็น extremely vulnerable hero "ที่มีบาดแผลทางใจอย่างรุนแรงในวัยเด็ก"  และมีปีศาจร้ายมากมายเก็บซ่อนอยู่ภายในใจ

5.ชอบดนตรีประกอบมากๆเลยด้วย ที่ใช้เสียงคล้ายๆหัวใจเต้น รู้สึกว่ามันทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น ลุ้นระทึกไปด้วยมากๆ

6.ชอบการสร้างโลกในหัวของตัวละคร ออกมาเป็นห้องสมุดแบบ DREAMCATCHER (2003, Lawrence Kasdan) ด้วย

7.ชอบหลายฉากในหนังเรื่องนี้มากๆ โดยเฉพาะฉากฆาตกรรมเด็กชาย, ฉากปะทะจิตใน supermarket และฉาก Rose ใช้จิตเหาะไป

8.สรุปว่ารู้สึกผูกพันกับหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงสุดๆ รู้สึกว่าโลกในหนังเรื่อง มันใกล้เคียงกับโลกจินตนาการในหัวของเราเองมากๆๆ

No comments: