Monday, July 13, 2020

LAST YEAR AT DACHAU


SERGEI/ SIR GAY (2016, Mark Rappaport, documentary, A+30)

1.เรารู้มานานแล้วว่า Sergei Eisenstein เป็นเกย์ แต่เพิ่งมารู้จากหนังเรื่องนี้แหละว่า ในฉากสำคัญฉากนึงของ THE BATTLESHIP POTEMKIN นั้น นักแสดงชายสองคนที่ต่อสู้กันอย่างยาวนานบนเรือเป็นผัวเก่ากับผัวใหม่ของ Eisenstein 55555

จริงๆแล้วทั้งสองไม่ใช่ผัวเก่ากับผัวใหม่ซะทีเดียว แต่เป็นชายหนุ่มสองคนที่ Eisenstein เลยหลงรัก หนังเรื่อง SERGEI/SIR GAY ก็เลยจินตนาการว่า ในฉากสำคัญของ THE BATTLESHIP POTEMKIN นั้น ผู้ชมอาจจะนึกว่า ชายหนุ่มสองคนนี้ต่อสู้กันเพื่อความยุติธรรมและเพื่อความสุขของประชาชน แต่จริงๆแล้ว Eisenstein อาจจะสร้างฉากนี้ขึ้นมาเพือตอบสนองแฟนตาซีของตัวเองว่า ชายหนุ่มสองคนนี้กำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความรักจากไอเซนสไตน์

2.เพิ่งรู้ว่า Helmut Berger เป็นผัวของ Luchino Visconti ตายแล้ววววว เสียดายที่เราเหมือนไม่เคยดูหนังของ Visconti ที่นำแสดงโดย Helmut Berger มาก่อนเลย

TATI VS. BRESSON: THE GAG (2016, Mark Rappaport, documentary, A+30)

งดงามมาก หนังจับสังเกตการใช้ sound และ image ในหนังหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะในหนังของ Jacques Tati และ  Robert Bresson และข้ามไปวิเคราะห์บางฉากใน M (Fritz Lang), THE SHOP AROUND THE CORNER (1940, Ernst Lubitsch) และ THE BIG COMBO (1955, Joseph H. Lewis) ด้วย

LAST YEAR AT DACHAU (2020, Mark Rappaport, documentary, A+30)

1.เพิ่งรู้ว่า “โหนกแก้ม” ของนักแสดงมันสำคัญขนาดนี้ หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ในการสร้างหนังเกี่ยวกับ Holocaust และ concentration camp นั้น ปัญหาสำคัญก็คือว่า คนในค่ายกักกันจริงๆมันผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มันซูบซีด ซูบเซียวมากๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากสุดๆที่จะหานักแสดง โดยเฉพาะดาราดังๆที่หล่อๆสวยๆ มาทำให้ดูเหมือนนักโทษในค่ายกักกันจริงๆได้

เพราะฉะนั้นทางออกนึงก็คือ ต้องเลือกนักแสดงที่มี “โหนกแก้ม” เด่นชัด เพราะการมีโหนกแก้มเด่นชัดมันช่วยหลอกตาให้ดูเหมือนคนผอมได้ ดังนั้นนี่ก็เลยเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ Charlotte Rampling ได้แสดงใน THE NIGHT PORTER (1974, Liliana Cavani) และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Hanna Schygulla ไม่ได้เล่นใน SOPHIE’S CHOICE (1982, Alan J. Pakula) เพราะตอนแรกทางผู้สร้างอยากให้ Schygulla มารับบทนางเอกในหนังเรื่องนี้ แต่ Schygulla หน้าแป้นแล้น กลมมาก บทก็เลยตกเป็นของ Meryl Streep ที่มีความได้เปรียบทางโหนกแก้มแทน

2.เพิ่งรู้ว่าผู้สร้างหนัง ZENTROPA (1991, Lars von Trier) แก้ปัญหาเรื่องความยากลำบากในการหานักแสดงที่เหมือนคนในค่ายกักกัน ด้วยการเอาผู้ป่วยโรคเอดส์มารับบทเป็นคนที้เคยอยู่ในค่ายกักกัน

3.เพิ่งรู้ว่า Delphine Seyrig ตัดสินใจเล่นหนังอาร์ตของผู้กำกับหญิงบางเรื่อง เพราะเธอเป็นดาราดัง และการได้เธอมาเล่น จะช่วยให้ผู้กำกับหญิงเหล่านั้น  (Marguerite Duras, Chantal Akerman, Ulrike Ottinger) ระดมทุนมาสร้างหนังได้ง่ายยิ่งขึ้น

4.ชอบหนังหลายๆเรื่องของ Mark Rappaport อย่างสุดๆตรงที่ว่า มันเต็มไปด้วย imaginary films น่ะ อย่างใน LAST YEAR AT DACHAU นี้ หนังก็พูดถึงความจริงที่ว่า หนังเรื่อง LAST YEAR AT MARIENBAD (Alain Resnais) กับ PATHS OF GLORY (Stanly Kubrick) มันถ่ายที่ปราสาทเดียวกัน เพราะฉะนั้น Mark Rappaport ก็เลยสร้าง imaginary films ขึ้นมา ด้วยการผสม LAST  YEART AT MARIENBAD กับ PATHS OF GLORY เข้าด้วยกัน

5.พอดูหนังหลายๆเรื่องของ Mark Rappaport แล้วเราก็เลยอยากสร้างหนังบ้าง 5555 หนึ่งในหนังที่เราอยากให้มีคนสร้างมากๆก็คือ หนัง imaginary films + found footage ที่ผสมคลิปจากหนังเรื่องต่างๆของ Delphine Seyrig กับ Tilda Swinton เข้าด้วยกัน ทำให้เหมือนกับว่าดาราหญิงทั้งสองคนนี้ปะทะเชือดเฉือนกันในหนังเรื่องเดียวกัน ทั้งๆที่จริงๆแล้วทั้งสองไม่เคยปะทะกันแต่อย่างใด

TO PARSIFAL (1963, Bruce Baillie, 16min, A+30)

No comments: