Tuesday, October 15, 2019

THE BEAST

WAR (2019, Siddharth Anand, India, A+25)

Tiger Shroff หล่อ sexy มากๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด

ขำฉากที่ตัวละครต่อสู้กันที่ขั้วโลกเหนือท่ามกลางหิมะขาวโพลนมากๆ คือสู้กันไปมา Tiger Shroff ก็ถอดเสื้อ แล้วก็สู้กันต่อ คือมึงไม่ต้องแคร์ความสมจริงอะไรอีกต่อไปแล้ว อุณหภูมิจะติดลบเท่าไหร่ ก็ไม่สำคัญ เพราะผู้ชมไม่ได้ต้องการตวามสมจริง ผู้ชมมาดูหนังเพราะเงี่ยน Tiger Shroff และหนังก็จัด priorityได้ว่า อะไรสำคัญสำหรับผู้ชมมากกว่ากัน 555

THE BEAST (2019, Jung-ho Lee, South Korea, A+30)
ปิดโซลล่า

ตอนแรกที่เข้าไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะนึกว่ามันเป็นหนังแนวฆาตกรโรคจิต  who done it แบบ OFFICE (2015, Won-chan Hong) หรือ  DOOR LOCK (2018, Kwon Lee) แต่ปรากฏว่า หนังเรื่องนี้แทบไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่า ใครคือฆาตกร แต่ให้ความสำคัญกับการเจาะลึกจิตใจของตัวละครแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เราก็เลยชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆ ดูแล้วนึกถึงหนังของ Claude Chabrol และหนังแบบ RAMAN RAGHAV 2.0 (2016, Anurag Kashyap, India) ที่เน้นสะท้อนสภาพจิตตัวละครมากกว่าประเด็นที่ว่า "ใครฆ่า" เหมือนกัน

PUSHING HANDS (1991, Ang Lee, Taiwan, A+30)

 1.สิ่งที้ทึ่งมากๆในหนังเรื่องนี้ก็คือว่า ถึงแม้หนังจะพูดถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับอเมริกา และผู้กำกับเป็นไต้หวัน แต่หนังกลับดูเหมือนไม่ได้เข้าข้างคนเอเชียมากเกินไป เพราะตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ เรากลับรู้สึกเข้าข้างหรือ identify ตัวเองกับตัวละครลูกสะใภ้ชาวอเมริกันมากพอสมควร เราชอบมากๆที่หนังไม่ได้ treat เธอเป็นนางอิจฉา แต่ปฏิบัติกับเธออย่างละเอียดอ่อนเหมือนมนุษย์ปุถุชนคนนึง ที่ทำถูกบ้าง ผิดบ้าง โง่บ้าง ฉลาดบ้าง

คือถ้าหากเราเป็นเธอ เราก็คงหงุดหงิดแหละว่า ทำไมพ่อผัวถึงไม่ยอมเรียนภาษาอังกฤษ แล้วกูจะสื่อสารกับมึงได้ยังไง แล้วการที่เธอปล่อยให้พ่อผัวออกไปเดินเล่น เราก็เห็นว่าเธอทำถูกต้องแล้วด้วย เธอไม่ได้ทำผิดอะไรในจุดนี้เลย การที่เขาหลงทาง เป็นเพราะเขาประมาทเองต่างหาก

2.ชอบสามีในหนังมากๆ เป็นสามีในฝันมากๆ

3.ชอบบทสรุปของหนังอย่างมากๆด้วย

No comments: