ADULTS IN THE ROOM (2019, Costa-Gavras, France/Greece, A+30)
Spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
1. กราบ Costa-Gavras เขาสามารถดัดแปลงหนังสือ non-fiction ให้ออกมาเป็นหนังที่สนุกมากๆได้ ใครจะนึกว่า "การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน" จะป็นอะไรที่สนุกสุดขีดขนาดนี้
2.เราชอบหนัง/ละครทีวี ที่นำเสนอ "กระบวนการทำงานของนักการเมือง" โดยเฉพาะการ debate ของนักการเมืองน่ะ เพราะฉะนั้นเราก็เลยชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆ ชอบพอๆกับ VICTOR SCHOELCHER, L'ABOLITION (1998, Paul Vecchiali, France), LINCOLN (2012, Steven Spielberg) และ CORN IN PARLIAMENT (2003, Jean-Stephane Bron, Switzerland, documentary) เลย แต่ ADULTS IN THE ROOM จะแตกต่างจากหนัง 3 เรื่องนี้ในแง่ที่ว่า หนัง 3 เรื่องนี้นำเสนอ "การถกเถียงกันเกี่ยวกับการออกนโยบายภายในประเทศ" ส่วน ADULTS IN THE ROOM นำเสนอการถกเถึยงกันในเวทีระหว่างประเทศ
3.ถึงหนังเรื่องนี้ดูเผินๆเหมือนจะพูดถึง "สิ่งที่ผ่านไปแล้ว" ซึ่งก็คือ วิกฤติหนี้กรีซ แต่การดูหนังเรื่องนี้ในตอนนี้ กลับร่วมสมัยอย่างมากๆ เพราะประเทศสมาชิกอียูก็เพิ่งตบตีกันทางการเงินอย่างรุนแรงในปีนี้เหมือนกัน เพราะวิกฤติไวรัส
ในหนังเรื่องนี้นั้น เหยื่อคือ กรีซ ส่วนผู้ร้ายคือรมต.คลังเยอรมนี กับกลุ่มทรอยกา (IMF, ธนาคารกลางยุโรป, คณะกรรมาธิการยุโรป) ส่วนในปีนี้นั้น เหยื่อคือสเปนกับอิตาลี ส่วนผู้ร้ายคือประเทศกลุ่ม frugal four (ออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, สวีเดน) แต่ยังดีที่ปีนี้ปท.สมาชิกอียูบรรลุข้อตกลงกันในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูศก.ยุโรปได้ในที่สุด
เพราะฉะนั้นตอนดูหนังเรื่องนี้ เราก็เลยจินตนาการไปด้วยตลอดเวลาว่า การตบตีกันในอียูในปีนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
4.สิ่งนึงที่ชื่นชม Costa-Gavras ก็คือว่า เขาทำหนังเกี่ยวกับ "คนที่ต่อสู้อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็พ่ายแพ้" น่ะ ทั้งหนังเรื่องนี้, Z (1969) และ AMEN (2002) มันเหมือนกับว่า หนังพวกนี้มันยอมรับความจริงที่ว่า "คนดีอาจพ่ายแพ้คนชั่ว แต่เราก็ต้องสู้อย่างดีที่สุดต่อไป แม้จะไม่ชนะก็ตาม"
THE NIGHT OF NEMESIS (2020, Gunpawit Puwadolwisit, A+25)
คืนยุติ-ธรรม
1.ถ้าเทียบกับหนังไทยด้วยกัน เราก็ชอบมากๆนะ เหมือนมันค่อนข้างจริงจังกว่าหนังไทยทั่วไป และแตกต่างจากหนังไทยทั่วไป
แต่ถ้าเทียบกับ "หนังฮ่องกง" เราว่าหนังเรื่องนี้ดูจืดกว่าหนังฮ่องกงมากๆ
2.เราว่า ผู้ร้ายในหนัง มันดูไม่ค่อยน่ากลัว 555 ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่เรามีกับหนังเรื่อง AVA คือพอผู้ร้ายในหนังมันไม่น่ากลัว เราก็เลยรู้สึกว่าหนังมันไม่สนุกเท่าที่คาด
JUMBO (2020, Zoe Wittock, France/Belgium/Luxembourg, A+30)
คลาสสิค เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ กับหนังอย่าง IN MY SKIN (2002, Marina de Van) ซึ่งพูดถึงผู้หญิงที่มีความสุขหฤหรรษ์กับ "การกรีดเฉือนตัวเอง" และ หนังเกย์ไทยเรื่อง "เราล้วนเว้าแหว่งในตำแหน่งที่แตกต่างกัน" (2018, Kiattisak Kingkaew) ที่พูดถึงอารมณ์ทางเพศที่เกี่ยวข้องกับความพิการทางร่างกาย อาจจะเรียกได้ว่าเป็น "หนัง queer สำหรับโลกยุคนี้"
เพราะหนัง queer ยุคเก่า ที่พูดถึง ชายรักชาย และหญิงรักหญิง นั้น ในปัจจุบันมันกำลังจะกลายเป็นสิ่งปกติในสังคมมากขึ้นเรื่อยๆน่ะ หนังเกย์มันกำลังจะสูญเสียสถานะ "ความประหลาด" ไปแล้ว และกำลังจะกลายเป็น "ความธรรมดาสามัญ" ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีงามมาก
เพราะฉะนั้น ถ้าหากเราต้องการแสวงหาอารมณ์ทางเพศที่ประหลาดๆในหนังยุคนี้ เราก็อาจจะต้องมองหาจากหนังแบบ IN MY SKIN, JUMBO และ "เราล้วนเว้าแหว่งในตำแหน่งที่แตกต่างกัน" นี่แหละ
No comments:
Post a Comment