เราเพิ่งดูหนังสารคดีเรื่อง INTERVIEWS
WITH FORMER THAI COMMUNIST PARTY MEMBERS WHO RETURNED TO THE CITY (1985,
produced by Kraisak Choonhavan, documentary, 705 min) ที่ฉายที่หอภาพยนตร์
ศาลายา ไปได้เพียง 216 นาที ยังเหลืออยู่อีก 489 นาที หรือเหลืออยู่อีก 8 ชั่วโมง 9 นาทีที่เรายังไม่ได้ดู
ถึงแม้เราเพิ่งดูหนังเรื่องนี้ไปได้เพียงแค่ 216
นาทีเท่านั้น เราก็รู้สึกว่ามันสนุกมาก ๆ สำหรับเรา
และในแง่หนึ่งเราก็นึกถึงหนังของ Jean-Luc Godard พวก THE
LITTLE SOLDIER (1963) เพราะว่าหนังสารคดีไทยเรื่องนี้กับ THE
LITTLE SOLDIER มันมี “การพาดพิงถึงสิ่งต่าง ๆ”
ที่เราไม่มีความรู้เยอะมาก ๆ มันเหมือน THE LITTLE SOLDIER กับหนังเรื่องนี้พูดถึงอะไรต่าง
ๆ อีก 200-300 อย่างที่เราต้องไป google หาข้อมูลเพิ่มเติม
ในหนัง FORMER THAI COMMUNIST ช่วงล่าสุดที่เราได้ดู
มันมีการพาดพิงถึงอะไรสองอย่างที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจมาก ๆ จนเราต้องรีบ google
หาข้อมูลเพิ่มเติมในทันที
1.
อดีตคอมมิวนิสต์หนุ่มชาวไทยคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เขาเริ่มเอาใจออกห่างจากพรรคคอมมิวนิสต์ไทย
หรือเอาใจออกห่างจากขบวนการคอมมิวนิสต์ในไทย ก็คือ
“การที่จีนเปลี่ยนคำวินิจฉัยที่มีต่อยูโกสลาเวีย”
แล้วคอมมิวนิสต์หนุ่มคนนั้นก็ไม่ได้อธิบายจุดนี้ต่อ
แต่เราดูหนังเรื่องนี้ตรงจุดนี้แล้วก็หวีดร้องมาก ๆ เพราะเราไม่เคยรู้มาก่อนว่า
“การที่จีนเปลี่ยนคำวินิจฉัยที่มีต่อยูโกสลาเวีย” จะกลายเป็นปัจจัยเล็ก ๆ
อันหนึ่งที่มีส่วนทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ไทยล่มสลายได้ หรือทำให้คอมมิวนิสต์หนุ่มบางคนเริ่มเอาใจออกห่างจากพรรคคอมมิวนิสต์ไทยได้
(เด็กรัฐศาสตร์คงรู้เรื่องนี้กันหมดอยู่แล้ว
แต่พอดีเราไม่ได้เรียนรัฐศาสตร์มา เราก็เลยไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนค่ะ)
เราก็เลยต้องไป google หาข้อมูลต่อในทันที
อะไรกันคือการที่ยูโกสลาเวียส่งผลกระทบมาถึงคอมมิวนิสต์หนุ่มชาวไทยบางคนได้ขนาดนี้
แล้ว google ก็นำเราไปสู่บทความ
GLOBAL CHINA, (FORMER) YUGOSLAVIA, AND SOCIALISM ของ Anastas
Vangeli ซึ่งเนื้อหาบางส่วนในบทความนี้ก็ตอบข้อสงสัยของเราได้หมดค่ะ
2.
คอมมิวนิสต์หนุ่มที่ให้สัมภาษณ์ในหนังเรื่องนี้ พูดถึง Hua Guofeng หลายครั้งด้วย เหมือนเขามีบทบาทสำคัญมาก ๆ
ที่ทำให้คอมมิวนิสต์หนุ่มชาวไทยบางคนเริ่มเสื่อมศรัทธาในพรรคคอมมิวนิสต์ไทย โดยเฉพาะการที่
Hua Guofeng ไปพบปะกับพระเจ้าชาห์ของอิหร่าน
เราไม่เคยได้ยินชื่อของ Hua Guofeng มาก่อน เราก็เลยต้องไป google หาข้อมูลดู
แล้วก็พบว่า เขาเป็นบุคคลที่สำคัญมาก ๆ เหมือนเขาเป็นทายาททางการเมืองของ
“เหมาเจ๋อตุง” แต่เขาถูก “เติ้งเสี่ยวผิง” ตบกระเด็นไปในเวลาต่อมา
No comments:
Post a Comment