Monday, February 10, 2020

PANGA

PANGA (2020, Ashwiny Iyer Tiwari, India, A+30)

Spoilers alert
--
--
--
--
--

1.นึกว่าสร้างขึ้นเพื่อประชันกับ KIM JI-YOUNG: BORN 1982 (2019, Kim Do-young) จริงๆ  โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกของหนัง ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะสู้ KIM JI-YOUNG ไม่ได้ก็ตาม เพราะหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของพนักงานขายตั๋วรถไฟหญิงชาวอินเดีย เธอมีสามีแสนดี และมีลูกชายที่ร่างกายอ่อนแอ เธอดูเหมือนจะมีชีวิตที่มีความสุข ยกเว้นแต่ว่า เธอละเมอใช้ตีนถึบสามีของตัวเองอย่างรุนแรงทุกคืน จนสามีแทบทนการละเมอใช้ตีนถึบของเธอแทบไม่ได้

อะไรทำให้เธอเป็นแบบนั้น หนังค่อยๆ flasback ไปเล่าว่า ก่อนแต่งงาน เธอเคยเป็นนักกีฬา  kabaddi ระดับทีมชาติมาก่อน แต่พอเธอท้องแก่ คลอดลูก เธอก็เลยล้มเลิกความฝันที่จะเล่นกีฬานี้ต่อไป

ตอนนี้ลูกชายเธอเข้าโรงเรียนประถมแล้ว เธออายุ 30 กว่าปีแล้ว คำถามก็คือว่า ได้เวลาที่เธอจะกลับไปไล่ตามความฝันที่เธอเคยทิ้งไปหรือไม่

2.ชอบบางประโยคในหนังมากๆ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ฉันมองดูลูกชาย ฉันมีความสุข ฉันมองดูสามี ฉันมีความสุข แต่พอเวลาฉันมองดูตัวเองในกระจก ฉันไม่มีความสุข"

3. สามีในหนังเรื่องนี้ดีเลิศประเสริฐศรีมากๆพอๆกับสามีใน KIM JI-YOUNG เขายอมให้เธอทิ้งบ้าน ทิ้งครอบครัว เพื่อไปไล่ตามความฝันที่จะกลับไปเล่นกีฬา เขาต้องเลี้ยงดูลูกชายตามลำพังเพียงคนเดียว แต่เขาก็ทำได้ เพื่อภรรยาที่เขารัก

4.แต่หนังเรื่องนี้ไปไกลกว่า KIM JI-YOUNG และ "หนังกีฬา"โดยทั่วไปในช่วงครึ่งหลัง เพราะความฝันของนางเอกหนังเรื่องนี้คือการกลับไปเป็นนักกีฬา ไม่ใช่นักเขียนหรือพนักงานบริษัทเหมือนคิม จี-ยอง และ "อายุ" มันเป็นอุปสรรคน่ะ เพราะ "อายุ= ความเหนื่อยล้าของสังขาร" สำหรับ "นักกีฬา" ในขณะที่ "อายุ = ประสบการณ์ชีวิตที่มากขึ้น" สำหรับ "นักเขียน"

5.เพราะฉะนั้นช่วงครึ่งหลังของหนังเรื่องนี้เลยน่าสนใจมากๆสำหรับเรา เพราะถึงแม้นางเอกจะสามารถทิ้งสามีและลูกให้ดูแลกันเอง เพื่อมาทำตามความฝันของตัวเองได้แล้ว เธอกลับเจออุปสรรคสำคัญ ซึ่งก็คือสังขารของตัวเอง

และนั่นก็เลยทำให้ หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในหนังกีฬาไม่กี่เรื่อง ที่ตัวละครเอก เป็น "ตัวสำรอง" ที่นั่งดูตัวละครอื่นๆแข่งกีฬากันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันจนเกือบจบเรื่อง

การที่นางเอก มาได้ไกลแค่เป็น "ตัวสำรองของทีมชาติ" จนเกือบจบเรื่องนี่ ถือเป็นอะไรที่เจ็บปวดสุดๆ และจริงสุดๆสำหรับเรา และเราก็ชอบมากๆที่หนังนำเสนอความจริงอันเจ็บปวดของชีวิตอันนี้ออกมา

THE KILLER SNAKES (1974, Kuei Chih-hung, Hong Kong, A+30)

หนังสยองขวัญที่โหดมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้กำกับเขาสามารถทำหนังดราม่าที่เราชอบสุดๆอย่าง THE TEAHOUSE ได้ด้วยหรือเปล่า (เขาน่าจะมีความสามารถในการทำหนังดราม่า) เราถึงชอบ "รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของตัวละครประกอบ" ที่เขาใส่เข้ามาในหนังมากๆ อย่างในหนังเรื่องนี้ ฉากที่เราชอบสุดๆคือฉากที่กะหรี่สาววิ่งหนี "พระเอก/ฆาตกรโรคจิต" แล้วชนคนตาบอดล้ม แต่แทนที่เธอจะวิ่งหนีต่อไป เธอกลับหันมาช่วยคนตาบอด แต่ในที่สุดเธอก็ถูกพระเอกจับไปฆ่า

รู้สึกว่าการช่วยคนตาบอดนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีความสำคัญต่อ PLOT หนังเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เราก็เลยชอบสุดๆที่หนังใส่ฉากนี้เข้ามา เหมือนหนังมันแคร์ตัวละครประกอบมากกว่าหนังสยองขวัญโง่ๆทั่วไป

GHOST EYES (1974, Kuei Chih-hung, Hong Kong, A+30)

หนังสยองขวัญผีดูดเลือด ชอบที่หนังใส่ใจกับตัวละครประกอบ ด้วยการสร้างเรื่องให้ "เพื่อนนางเอก" มีปัญหาตบตีกับแม่ผัว

No comments: