TELL THE WORLD I LOVE YOU (2022, Poj Arnon, B )
บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง
SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
1.อะไรคือการที่หนังเกย์ไม่สามารถตอบสนองความเงี่ยนของดิฉัน
แต่หนังอย่าง “4 KINGS อาชีวะยุค 90’S”
สามารถตอบสนองความเงี่ยนของดิฉันได้ดีกว่ามาก ๆ คะ 55555 คือดิฉันดู 4 KINGS
แล้วรู้สึกเงี่ยนมาก ๆ ค่ะ แต่ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า
มันคืออะไร 555555
แต่เรื่องความเงี่ยนมันคงเป็นเรื่องของสเปคผู้ชายของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันด้วยแหละ
เพราะรสนิยมของเราไม่ได้ชอบผู้ชายแบบเข่งและบ้งในหนังเรื่องนี้น่ะ (แต่ก็อาจจะตรงสเปคของผู้ชมคนอื่น
ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา) แต่เราชอบไท (เน็ต สิรภพ มานิธิคุณ) มาก ๆ
รู้สึกว่าแบบไทนี่แหละที่ตรงสเปคเรา
2.ได้ยินมาก่อนที่จะเข้าไปดูหนังแล้วว่า หนังมันคล้าย BETTER DAYS (2019, Derek Tsang) พอดูแล้วก็พบว่ามันใช่จริง ๆ ส่วนที่คล้ายมันก็คล้ายจนขำมาก ๆ
3.สิ่งที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ locations นี่แหละ
ชอบ locations ต่าง ๆ ในหนังมาก ๆ
4.รู้สึกว่าหนังมันไม่ประสบความสำเร็จทั้งการตอบสนองความต้องการทางเพศและความสมจริงสำหรับเราน่ะ
คือในแง่หนังที่ตอบสนองความเงี่ยนแล้ว เราว่า “เพราะเราคู่กัน TOGETHER THE MOVIE” ยังสร้างความพึงพอใจให้เราได้มากกว่าหนังเรื่องนี้เยอะ
เพราะหนังเรื่องนั้นมันยังดึงเสน่ห์ความหล่อ ความน่ารัก
สายตาหยาดเยิ้มของนักแสดงออกมาได้อย่างสุดขีดมาก ๆ น่ะ
แต่ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ดิฉันรู้สึกเหมือนเป็นกามตายด้านค่ะ 55555
5.ซึ่งถ้าหากหนังเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการตอบสนองความเงี่ยนของผู้ชม
ดิฉันก็ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น ขอแค่ให้มันมีดีในแบบของตัวเองก็พอ และดิฉันก็คิดว่า
ถ้าหากมันกำกับดี ๆ เขียนบทดี ๆ มันก็น่าจะเอาดีทางความสมจริงได้ เพราะหนังมันได้ locations ที่สมจริง,
ติดดิน และมีเสน่ห์มาก ๆ มาแล้ว แต่หนังก็ยังคงต้องการเนื้อเรื่องที่สมจริง, อารมณ์ที่สมจริง
และการตัดสินใจของตัวละครที่สมจริงด้วย (คือในแง่ความเป็น fantasy ทางเพศ เราว่าหนังเรื่องนี้สอบไม่ผ่านแล้วน่ะ แต่ถ้าหากมันสอบไม่ผ่านในแง่ความเป็น
fantasy ทางเพศแล้ว เราก็ยังหวังว่ามันจะสอบผ่านในด้านอื่น ๆ
ได้บ้าง)
แต่ปรากฏว่าหนังก็เหมือนล้มเหลวอย่างหนักในการสร้างความสมจริงด้วย
เพราะดิฉันรู้สึกเหมือนกับว่า แทบทุกฉากในหนัง มันมีขึ้นเพื่อ “ผลกระทบทางอารมณ์ที่เฉพาะเจาะจง”
เกือบทุกฉากเลย คือเหมือนตัวละครไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อมีชีวิตอยู่ แต่ตัวละครมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างผลกระทบทางอารมณ์ต่อผู้ชมไปเรื่อย
ๆ และการตัดสินใจของตัวละครในหลาย ๆ
ฉากก็ทำให้เรางุนงงอยู่บ่อย ๆ
6.อย่างไรก็ดี เราก็ไม่ได้เกลียดหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงนะ ค่อนไปทาง
“ผิดหวัง” มากกว่า “เกลียด” เพราะรู้สึกว่าผู้สร้างหนังคงมีความตั้งอกตั้งใจมากพอสมควรน่ะ
แต่หนังมันไม่ไหวจริง ๆ
7.นอกจาก locations และเน็ต สิรภพแล้ว อีกสิ่งที่ช่วยให้เราไม่เกลียดหนังเรื่องนี้
ก็คือตัวละคร”ไท” ที่เน็ต สิรภพแสดงนี่แหละ
เพราะการกระทำของเขาในช่วงท้ายของหนังทำให้เรารู้สึกอินกับหนังขึ้นมาบ้าง 555555
หลังจากที่เราไม่อินกับเข่งและบ้งเลยในช่วงที่ผ่านมา คือเรามักจะชอบตัวละครแบบนี้น่ะ
ตัวละครที่พร้อมจะไปสุดทางเพื่อผู้ชายที่ตัวเองหลงรัก
คิดว่าเราคงอินกับหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงมาก
ถ้าหากหนังมันเน้นไปที่ตัวละครไท และสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของเขาในแบบที่สมจริงและละเอียดอ่อนออกมาได้
8.เสียดายมาก ๆ ที่เราไม่ได้ติดตามดูซีรีส์วายของไทยเลยแม้แต่เรื่องเดียว
เพราะเราไม่มีเวลา แต่พอเราได้ดู “เพราะเราคู่กัน TOGETHER THE MOVIE” กับ
“บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง” แล้ว
เรากลับพบว่าเรามีปัญหาอย่างรุนแรงกับตัวละครนายเอกในหนังทั้งสองเรื่อง
และเป็นปัญหาในแบบเดียวกับที่เรามีกับตัวละครนางเอกในหนังไทยส่วนใหญ่ 555555
คือเราอยากให้มีตัวละครนางเอกหนังไทยที่ “รักการมี sex กับผู้ชายจำนวนมาก”
และไม่ถูกลงโทษในตอนจบน่ะ และก็อยากให้มีตัวละครพระเอกหนังไทยที่ “รักการมี sex
กับผู้ชายจำนวนมาก” และไม่ถูกลงโทษในตอนจบเช่นกัน 555555
คือเรารู้สึกว่า ตัวละคร “เข่ง” มันจะเข้าทางเราอย่างสุด ๆ ไปเลย
ถ้าหากตัวละครตัวนี้ถูกหนุ่ม ๆ ในโรงเรียนรุมเย็ด แล้วเธอก็ยิ้มร่า มีความสุข นี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการ
และเธอก็ได้ไทเป็นผัวด้วย แล้วก็ได้พี่ชายไทเป็นผัวด้วย แล้วก็ได้บ้งเป็นผัวด้วย
แล้วก็ได้ทุก ๆ คนในแก๊งของบ้งเป็นผัวด้วย 55555 คือพอตัวละครมันพยายามจะปฏิเสธ “ความเงี่ยนผู้ชาย
หรือความรักผู้ชาย” ของตัวเองแล้ว เราจะรำคาญมันมาก ๆ
สรุปว่าดิฉันต้องการตัวละครทั้งหญิงและชายที่ “เงี่ยนผู้ชาย และ proud กับความเงี่ยนผู้ชายของตัวเอง”
ค่ะ ดิฉันต้องการตัวละครที่มีสโลแกนว่า “I’M SHAMELESS” ค่ะ
สรุปว่า หนังแบบ FATHER & SON (2015, Sarawut Intaraprom) นี่แหละ เข้าทางกูที่สุดแล้วล่ะ 55555
No comments:
Post a Comment