Films seen today
1.DIE BEFORE BLOSSOM (2014, Ariani Djalal, Indonesia, documentary,
A+30)
--ชอบ “สีหน้า” ของ Kiki อย่างรุนแรงมาก ชอบมากที่เธอแทบไม่ยิ้มเลยตลอดทั้งหนังเรื่องนี้
ชอบสุดๆที่เธอทำหน้าบอกบุญไม่รับหรือทำหน้าเฉยชาตลอดทั้งเรื่อง
--การที่ Kiki ทำหน้าเฉยชาตลอดทั้งเรื่อง
ทำให้เราไม่แน่ใจว่าเธอรู้สึกยังไง เธอรู้สึกสุข, เศร้า, เบื่อ, โมโห, เฉยๆ
หรือรู้สึกยังไงกันแน่ แต่การที่เธอไม่แสดงอารมณ์ของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนแบบนี้
ในแง่นึงมันก็เลยทำให้เรา project อารมณ์ของตัวเองเข้าไปกับตัวเธอได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วเราไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงก็ตาม
มันทำให้เรานึกถึงหนังสารคดีเรื่อง FROM THE JOURNALS OF JEAN SEBERG
(1995, Mark Rappaport, A+30) ที่พูดถึงทฤษฎีของ Lev
Kuleshov น่ะ ที่เกี่ยวกับการนำเสนอภาพนักแสดงที่ทำหน้าเฉยๆ
แล้วคนดูก็จะ associate ตัวละครตัวนั้นกับอารมณ์ต่างๆเอง
ทั้งๆที่จริงๆแล้วนักแสดงแค่ทำหน้าเฉยๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา
--ชอบจริตจะก้านของเด็กนักเรียนหญิงหลายๆคนในหนังเรื่องนี้
เราว่าวัยป.6 ในหนังเรื่องนี้เป็นวัยที่น่าสนใจน่ะ ในแง่ของการแสดงจริตจะก้านต่างๆ
เพราะเราว่าถ้าเป็นวัยที่เด็กกว่านี้ เด็กหญิงเล็กๆก็จะไม่มีจริตจะก้าน
แต่ถ้าหากเป็นเด็กสาวมัธยมปลาย จริตจะก้านที่แสดงออกก็จะเป็นสิ่งที่ผ่านการควบคุมและไตร่ตรองมาแล้ว
ซึ่งมันจะไม่น่าสนใจในสายตาของเราเท่ากับ
อากัปกิริยาของคนที่แสดงออกมาโดยไม่ได้ผ่านการควบคุมมาเป็นอย่างดี
ซึ่งเราว่าเด็กหญิงในวัยป.6-มัธยมต้นจะยังมีลักษณะที่น่าสนใจแบบนี้อยู่
แต่เด็กผู้ชายจะไม่มีลักษณะแบบนี้นะ
เราว่าจริตจะก้านเล็กๆน้อยๆพวกนี้เป็นสิ่งที่หายากในหนัง fiction ด้วย
เพราะการแสดงออกในหนัง fiction ส่วนใหญ่มันก็จะผ่านการไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว
มันก็เลยจะไม่มีจริตจะก้านเล็กๆน้อยๆที่น่าสนใจแบบนี้ออกมา
2.ON MY WAY (2013, Emmanuelle Bercot, France, A+25)
3.SOUTHEAST ASIAN CINEMA: WHEN THE ROOSTER CROWS (2014, Leonardo
Cinieri Lombroso, documentary, A+5)
--ชอบช่วงของ Garin Nugroho อย่างสุดๆ
แต่ช่วงอื่นเฉยๆ
No comments:
Post a Comment