Wednesday, March 11, 2015

KEEP RUNNING SIR YES SIR


KEEP RUNNING SIR YES SIR ร.ด.เขาชนผี ที่เขาชนไก่ (2015, Tanwarin Sukkhapisit, A+5)


ดูหนังเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพิ่งมีเวลาจดบันทึกว่ารู้สึกยังไงบ้าง

1.ในแง่นึงเราก็พอใจกับหนังเรื่องนี้นะ เพราะตอนเด็กๆเราจะฝังใจว่า มันมีหนังไทยกลุ่ม “ทหารเกณฑ์” กับ “ทหารเรือ” ที่เป็นหนังตลกที่เละตุ้มเป๊ะมากๆน่ะ คือเราแทบไม่เคยดูหนังกลุ่มนี้แบบจริงๆจังๆหรอก แต่เราเคยดูผ่านๆเป็นบางฉากเวลาที่มันมาฉายทางทีวีตอนเด็กๆ แล้วเราจะรู้สึกว่ามันเป็นหนังตลกแบบที่ไม่เข้าทางเรามากๆ เราก็เลยมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับหนังกลุ่มนี้ในตอนเด็ก

เราก็เลยคิดว่าในแง่นึงมันก็เป็นเรื่องดีที่มีหนังเรื่องนี้ออกมา เพราะมันเหมือนเป็นการเอาหนึ่งใน genre หนังที่ “ไม่เข้าทาง” เรามากที่สุด genre นึงมาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็นหนังตลกที่มีน้ำมีเนื้อ มีเส้นเรื่อง มีธีมในระดับนึง ไม่ใช่หนังตลกที่เละตุ้มเป๊ะ หรือโสมากๆแบบที่ฝังใจเราในตอนเด็ก

2.อีกจุดนึงที่เราชอบหนังเรื่องนี้ก็คือว่า หนังเรื่องนี้มันทำให้เรานึกถึงหนังหลายๆเรื่องของพจน์ อานนท์ที่ระดมนักแสดงหนุ่มหล่อมาไว้หลายคนในหนังเรื่องเดียวกัน คือพอเอาไปเทียบกับหนังของพจน์ อานนท์แล้ว เราว่าหนังเรื่องนี้ออกมาเป็นชิ้นเป็นอันกว่ากันมาก เนื้อเรื่องดูเป็นเนื้อเรื่องจริงๆกว่ามาก คือบทมันดูคิดมาในระดับนึงน่ะ ในขณะที่หนังของพจน์บางเรื่องนี่บทมันเละมากๆในความเห็นของเรา

คือสรุปว่าเราชอบร.ด.เขาชนผีมากพอสมควร ถ้าหากเอาหนังเรื่องนี้ไปเทียบกับหนังไทยกลุ่ม “ทหารเกณฑ์” หรือเทียบกับหนังของพจน์ อานนท์กลุ่มที่ใช้นักแสดงหนุ่มหล่อหลายๆคน

3.อย่างไรก็ดี มีเพื่อนบางคนสงสัยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้แค่ A+5 สำหรับเรา ซึ่งสาเหตุมันเป็นเพราะว่า เราเอาหนังเรื่องนี้ไปเทียบกับหนังอีกกลุ่มนึงด้วย นั่นก็คือหนังเกย์จริงๆแบบ MY BROMANCE, LOVE’S COMING และ TEACHERS AND STUDENTS น่ะ

คือเวลาที่เราดู ร.ด.เขาชนผี เรารู้สึกว่ามันยั่วเย้าอารมณ์เพศของเราแบบไม่ฟินเลยน่ะ มันก็เลยดูแล้วรู้สึกทั้งดีและขัดอกขัดใจไปด้วยพร้อมๆกัน

คือถ้าหากร.ด.เขาชนผี เป็นหนังที่ออกฉายเมื่อ 10-15 ปีก่อน เราคงชอบหนังเรื่องนี้มากกว่านี้เยอะน่ะ เพราะเรามองว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ “gay friendly” มากๆ แต่ไม่ใช่หนังเกย์จริงๆ ซึ่งการที่มีหนังไทยฉายโรงแบบ gay friendly เมื่อ 10-15 ปีก่อน มันคงเป็นสิ่งที่เราพึงพอใจมากๆในระดับนึง

แต่พอเราได้ดูหนังเกย์จริงๆแบบสามเรื่องข้างต้นในปี 2014 และมาได้ดูหนัง gay friendly อย่างร.ด.เขาชนผีในปีนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าในแง่การตอบสนองอารมณ์เสี้ยนส้านของเรานั้น ร.ด.เขาชนผีไม่สามารถตอบสนองเราได้แบบหนังสามเรื่องนั้นน่ะ แต่ไม่ใช่ว่าหนัง 3 เรื่องนั้นเป็นหนังที่ดีกว่านะ อันนี้เราพูดเฉพาะ aspect ของการตอบสนองอารมณ์ทางเพศเท่านั้น

คือเรามองว่า ร.ด.เขาชนผีไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกนะ ที่เลือกจะทำตัวเป็นหนัง gay friendly แทนที่จะทำตัวเป็นหนังเกย์จริงๆไปเลย เพราะถ้าหากร.ด.เขาชนผีเลือกจะทำตัวเป็นหนังเกย์จริงๆไปเลย ร.ด.เขาชนผีก็คงจะต้องฉายที่เอสพลานาด รัชดาโรงเดียวแบบหนังเกย์จริงๆกลุ่มนั้น แทนที่จะได้ปูโรงฉายทั่วประเทศแบบนี้ คือมันเป็นทางที่ต้องเลือกน่ะแหละ ถ้าหากคุณทำหนัง gay friendly แบบนี้ คุณก็ได้ฉายทั่วประเทศ แต่ถ้าหากคุณทำหนังเงี่ยนๆเกย์ๆไปเลย คุณก็อาจจะได้ฉายแค่โรงเดียว

แต่ก็นั่นแหละ พอร.ด.เขาชนผีไม่สามารถทำให้เราเสพสมอารมณ์หมายได้ เราก็เลยชอบหนังเรื่องนี้แค่ระดับ A+5 เท่านั้น

4.ฉากเต้นในโรงอาบน้ำนี่อาจจะกลายเป็นฉากคลาสสิคในอนาคตนะ เพราะเราว่ามันน่าจดจำมากๆ แต่ในแง่นึงมันอาจจะเป็นฉากตัวอย่างที่อธิบายอารมณ์ “ดีๆแต่ขัดอกขัดใจ” ของเราในข้อ 3 ได้ด้วย คือฉากนี้หากดูผิวเผินแล้ว มันเป็นฉากที่น่าจะตอบสนองอารมณ์ทางเพศของเราได้ดีมากเลยน่ะ เพราะเราได้เห็นผู้ชายหล่อล่ำเต้นโชว์ขณะใส่กางเกงในตัวเดียว

อย่างไรก็ดี ฉากนี้ก็ไม่ได้ตอบสนองอารมณ์ทางเพศของเราแบบหนังเกย์จริงๆ เพราะแทนที่กล้องในฉากนี้จะทำหน้าที่โลมไล้ไปตามเรือนร่างผู้ชายแบบหนังเกย์ อารมณ์ในฉากนี้กลับทำออกมาแบบ “ตลกโปกฮา” แทนที่จะเป็นอีโรติก (เพราะถ้าทำออกมาเป็นอีโรติก ผู้ชมกลุ่มหลักที่เป็น straight ก็อาจจะเกิดอาการรับหนังเรื่องนี้ไม่ได้) เพราะฉะนั้นฉากนี้มันก็เลยทำให้เราเกิดทั้งอารมณ์ดีๆ ที่ได้เห็น “ผู้ชายหล่อล่ำโชว์เรือนร่าง” แต่ก็เกิดอารมณ์ขัดอกขัดใจในขณะเดียวกัน เพราะกล้องไม่ได้ปฏิบัติต่อเรือนร่างของผู้ชายในฉากนี้ในแบบที่เราต้องการเลย

5.ชอบ “ความรู้สึกต่อต้านอำนาจนิยม” ในหนังเรื่องนี้มากๆ เราว่าตรงนี้คนเขียนบทเก่งดี ที่สามารถทำหนังเกี่ยวกับทหารได้ โดยที่เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้เชิดชูสถาบันทหารแต่อย่างใด

6.เราว่าจุดนึงที่หนังไทยกลุ่ม gay friendly แบบนี้ควรปรับปรุง คือเรื่องการสร้างตัวละครประกอบให้มันน่าจดจำกว่านี้น่ะ คือหนังแบบนี้มันมีแต่หนุ่มหล่อวัยรุ่นหน้าตารูปร่างคล้ายๆกันไปหมด เพราะฉะนั้นถ้าหากบทหนังมันไม่เก่งจริง คนดูจะแยกตัวประกอบหลายๆตัวออกจากกันไม่ได้ เพราะตัวประกอบแม่งหล่อแบบพิมพ์เดียวกันไปหมด เพราะฉะนั้นถึงแม้เราจะสนับสนุนให้มีการสร้างหนังที่เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อแบบนี้ต่อไป เราก็อยากให้คนเขียนบทใช้ความสามารถในการทำให้ตัวละครประกอบแต่ละตัวมีจุดเด่นน่าจดจำกว่านี้ด้วย

7.พอได้ดูหนังเกี่ยวกับทหารที่เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อแบบนี้แล้ว เราก็ฝันอยากให้มีนายทุนรวยๆที่ไหนใจป้ำ ออกเงินให้มีการสร้างหนังเกี่ยวกับทหารไทย แต่ทำออกมาแบบ BEAU TRAVAIL (1999, Claire Denis) มากๆ 555



No comments: