Documentary Films seen today in Salaya Doc 2015
1.NO WORD FOR WORRY (2014, Runar Jarle Wiik, A+30)
--ชอบคุณฮุคมาก กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ช่วยด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
--ชอบที่มันเหมือนเป็นหนัง fiction แนวผจญภัย
คือปกติเราไม่ค่อยได้ดูหนังสารคดีที่ให้อารมณ์แบบนี้น่ะ ชอบฉากที่ฮุคต้องไปหา “สตรีผู้รอบรู้ที่อาศัยอยู่บนเรือในป่าชายเลนในเมียนมาร์”
มากๆ คือมันเหมือนเป็นฉากในหนัง fiction แนว INDIANA
JONES หรือ TOMB RAIDER หรืออะไรทำนองนี้ ที่ตัวเอกต้องตามหาใครสักคนที่รอบรู้เรื่องวัตถุโบราณ
(ซึ่งในหนังสารคดีเรื่องนี้คือวิธีการสร้างเรือแบบโบราณ) แต่กว่าจะตามหาคนๆนั้นได้
ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายขั้นตอน
--จริงๆแล้วเราไม่ได้อินกับเรื่องวัฒนธรรมมอแกนเป็นการส่วนตัว
แต่ในแง่นึง ความพยายามที่จะอนุรักษ์วิธีการสร้างเรือแบบโบราณในหนังเรื่องนี้
ก็ทำให้นึกถึงตัวเราเองที่อยากจะให้มีการอนุรักษ์โรงหนังแบบโบราณเอาไว้
(จริงๆแล้วเราอยากให้อนุรักษ์โรงหนังรามา ซึ่งปัจจุบันโดนทุบทิ้งไปแล้ว)
หรือนึกถึงคนบางกลุ่มที่อยากให้อนุรักษ์อาคารศาลฎีกาตรงสนามหลวงเอาไว้
(ซึ่งปัจจุบันก็โดนทุบทิ้งไปแล้วเหมือนกัน) คือคนแต่ละคนหรือคนแต่ละกลุ่มก็คงมีสิ่งเก่าๆที่ตัวเองอยากอนุรักษ์เอาไว้นั่นแหละ
เพราะฉะนั้นถึงเราไม่ได้มี passion อะไรเลยกับเรือโบราณในหนังเรื่องนี้
แต่เราก็อาจจะเข้าใจ passion ของพวกเขาได้ในระดับนึง
--สิ่งที่เราชอบจริงๆในหนังเรื่องนี้
ก็เลยไม่ได้เป็นเรื่องของความพยายามจะอนุรักษ์เรือโบราณ
แต่เป็นการที่หนังได้พาเราไปเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอแกนในไทยและพม่า ซึ่งดูเหมือนว่าชีวิตของพวกเขาจะยากลำบากมากกว่าที่เราได้เห็นจากหนังสารคดีหลายๆเรื่องเกี่ยวกับชีวิตชาวมอแกนในปี
2005-2007
คือในช่วงหลังเกิดสึนามิ เราจำได้ว่ามีหนังสั้นไทยหลายเรื่องที่เกี่ยวกับชาวมอแกนออกมาในช่วงนั้น
แต่ดูเหมือนว่าชีวิตชาวมอแกนในหนังกลุ่มนั้นจะไม่ได้ยากลำบากมากเท่ากับในหนังเรื่องนี้
และดูเหมือนว่าหนังสั้นกลุ่มนั้นจะไม่ได้สร้าง characters ของชาวมอแกนที่น่าจดจำมากเท่านี้
แต่จะเป็นการมองภาพชาวมอแกนในเชิง objective มากกว่า
และมีระยะห่างจากตัว subjects มากกว่า ซึ่งก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกันไปคนละแบบ
2.SHAPE OF THE MOON (2004, Leonard Retel Helmrich, Indonesia, A+25)
No comments:
Post a Comment