MADELEINE (2015, Lorenzo Ceva Valla + Mario Garofalo, Italy, A+30)
1.สิ่งที่เราชอบในหนังเรื่องนี้เหมือนกับสิ่งที่เราชอบในหนังเรื่อง
MENSTRUAL SYNCHRONY วันนั้นของเดือน (2014,
Jirassaya Wongsutin, A+30) น่ะ
นั่นก็คือเรารู้สึกว่าหนังมันละเอียดอ่อนทางอารมณ์ความรู้สึกมากๆ
เหมือนกับว่าผู้กำกับสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ในทุกๆเสี้ยววินาทีเลย
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากๆ
ตอนที่เราเขียนถึง MENSTRUAL SYNCHRONY เราเคยยกคำวิจารณ์ของ
Ray Carney ที่มีต่อหนังของ John Cassavetes มาประกอบด้วย เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่ Carney เขียนถึงหนังของ
Cassavetes มันนำมาใช้บรรยายถึง
MENSTRUAL SYNCHRONY ได้
เพราะฉะนั้นเราก็เลยขอนำมันมาแปะอีกครั้งในที่นี้ด้วย เพราะเรารู้สึกว่ามันสามารถนำมาใช้บรรยายถึง
MADELEINE ได้ด้วยเช่นกัน
“Specifically, Cassavetes trains us to watch
the faces, bodies, and voices of his characters with unusual acuity. No
filmmaker has done more to make the subtlest nuances of body language the
fundamental building blocks of meaning. Every film might be said to be acted,
but virtually no film is acted to the extent Cassavetes’ are—none relies more
heavily on the viewer’s ability to read the tiniest facial flickers of emotion
or listen to tonal demisemiquavers with greater sensitivity. It is as if the
very atoms of the soul were put under a microscope and made visible as they
vibrated in place or darted back and forth between characters.”
ในแง่นึง เรารู้สึกว่าหนังที่ตรงข้ามกับเรื่องนี้ในจุดนี้อาจจะเป็น ABOUT A WOMAN (2014, Teddy
Soeriaatmadja, Indonesia, A+30) ซึ่งเป็นหนังที่เราชอบสุดๆเหมือนกัน
แต่เรารู้สึกเหมือนกับว่าในแต่ละฉากของ ABOUT A WOMAN การแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมันอาจจะได้รับการวางแผนล่วงหน้าไว้อย่างเป๊ะๆแล้วว่า
เส้นอารมณ์ของตัวละครในฉากนี้มันจะดำเนินไปแบบนี้ๆ มันไม่ละเอียดอ่อนยิบๆทุกๆเสี้ยววินาทีแบบใน
MADELEINE
2.เพราะฉะนั้นในแง่นึงนี่ก็เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่เราบรรยายได้ยากว่าเราชอบจุดไหนบ้างของหนัง
เพราะทุกๆวินาทีของหนังเรื่องนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่ละเอียดอ่อนมากๆ
คือเราชอบการแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สีกของตัวละครในเกือบทุกๆวินาทีของหนังน่ะ มันก็เลยยากจะบรรยายได้หมด
แต่ส่วนที่ติดตาเรามากๆก็มีเช่น
2.1 ตอนที่ Sophie เห็นหน้าไปรษณีย์หนุ่มหล่อ
แล้วเธอทำยิ้มขึ้นมาทันที
2.2 ตอนที่ Madeleine เจอคุณหมอครั้งแรก แล้วหลังจากนั้นเธอเหมือนพยายามจะทำตัวเซ็กซี่ตามแบบพี่สาวของเธอ
2.3 ใบหน้าของหนุ่มๆบนรถบัสขณะเห็น Madeleine กับพี่สาว
3.ชอบการที่ Madeleine เดินเท้าเปล่าเป็นระยะทางยาวนานมากๆ
คือมันเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผลมากๆ แต่เรารู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่ตัวเราเองมักจะทำเมื่อคุมสติไม่อยู่
หรือควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือเมื่อเกิดอาการจิตแตกอะไรแบบนี้
4.ตอนช่วงแรกๆเราจะ identify กับ Sophie มากๆ เพราะเรารู้สึกรำคาญ Madeleine มากๆ
คืออีน้องสาวนี่มันจะมาติดสอยห้อยตามกูทำไมตลอดเวลา แต่พอดูไปเรื่อยๆ
เราก็ค่อยๆมองว่า Madeleine และตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องนี้เป็นมนุษย์ปุถุชนคนนึงที่พยายามจะรับมือกับสิ่งต่างๆในชีวิต
เหมือนๆกับเราเอง
5.ปกติแล้วเราจะชอบหนังเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่นที่ซ่อนความกราดเกรี้ยวรุนแรงเอาไว้ภายในนะ
ประเภท
LOVELY RITA (2001, Jessica Hausner, Austria, A+30), ANGEL’S FALL (2005, Semih
Kaplanoglu), RESTLESS (2009, Laurent Perreau) หรือหนังเกี่ยวกับเด็กสาวที่ซ่อนความเงี่ยนไว้ภายใน
อย่างเช่น OTHER GIRLS (2000, Caroline Vignal) แต่ MADELEINE
ไม่เข้าข่ายนี้ เพราะเธอไม่กราดเกรี้ยว และเธอก็ไม่เงี่ยน
แต่เราก็ชอบสุดๆอยู่ดี
เพราะหนังสามารถนำเสนออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างละเอียดยิบนี่แหละ
ถึงแม้ตัวละครในเรื่องอาจจะไม่ได้เข้าข่ายตัวละครประเภทที่เรามักจะ identify
ด้วยก็ตาม
No comments:
Post a Comment