I A PIXEL, WE THE PEOPLE: EPISODE 3 PEOPLIZATION (2025,
Chulayarnnon Siriphol, video installation, 60min, A+30)
1. รู้สึกว่าแต่ละ EPISODE ในหนังชุดนี้จะมีเนื้อหาสลับกันไปมาระหว่าง “เรื่องส่วนตัว” กับ
“เรื่องการเมือง” โดยเรารู้สึกว่า EPISODE 1 THIS IS NOT A FILM นั้นโน้มเอียงไปทางเรื่องส่วนตัว แต่ก็มีความเป็นการเมืองแทรกอยู่ หรือจริง
ๆ แล้ว EPISODE 1 นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องของ
“การเมืองเรื่องศิลปะที่ส่งผลกระทบต่อ Chulayarnnon โดยตรง” ส่วน EPISODE 2 IN GOD WE TRUST นั้นมีความเป็นหนังการเมือง และ EPISODE 3 PEOPLIZATION นั้นก็มีความเป็นหนังการเมือง
ส่วน EPISODE 4 THE IMPOSSIBLE DREAM นั้น มีความเป็น “หนังชีวิตส่วนตัว” และ EPISODE 6 THE GOLDEN
SNAIL นั้น มีความเป็น “หนังชีวิตส่วนตัว” ในขณะที่ EPISODE
7 CYBER SCOUT นั้น มีความเป็นหนังการเมือง
ก็เลยชอบมาก ๆ
ที่หนังชุดนี้เป็นเหมือนการนำเอาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องการเมืองมาผสมผสานเล่าควบคู่หรือสลับกันไปมา
บางทีหนังชุดนี้ของ Chulayarnnon ที่มีความยาวเพียงแค่ 24
ชั่วโมง ควรจะฉายควบคู่กับละครโทรทัศน์ชุด HEIMAT ของเยอรมนี
ที่นำเสนอชีวิตชาวบ้านในเยอรมนีท่ามกลางความผันผวนทางการเมืองในเยอรมนีตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมาจนเกือบถึงยุคปัจจุบัน
คือมันเป็นการผสมชีวิตคนธรรมดากับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเข้าด้วยกันเหมือนกัน
คือเรายังไม่เคยดู HEIMAT นะ
แต่ได้ยินว่ามันเป็นละครทีวีที่สุดยอดที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกนี้ที่เคยมีการสร้างกันมา
และมันน่าจะเป็นการผสมผสาน “ชีวิตคนธรรมดา" กับ
“ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรุนแรง” เข้าไว้ด้วยกันใด้อย่างดีงามมาก ๆ
โดยละครทีวีชุด HEIMAT ที่กำกับโดย Edgar Reitz แห่ง New German Cinema นี้ มีความยาวเพียงแค่ 50
ชั่วโมง 29 นาทีเท่านั้นค่ะ ซึ่งเท่ากับว่า หนังเรื่องใหม่ของ Chulayarnnon
นั้น มีความยาวยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของ HEIMAT
เสียด้วยซ้ำ
ความยาวของ HEIMAT ในแต่ละ
season
HEIMAT: A CHRONICLE OF GERMANY (1984, 15hrs 24mins)
HEIMAT 2: CHRONICLE OF A GENERATION (1992, 23hrs 36mins)
HEIMAT 3: A CHRONICLE OF ENDINGS AND BEGINNINGS (2004, 11hrs
29mins)
เราเคยได้ยินว่า สถาบันเกอเธ่ในกรุงเทพ
เคยจัดฉาย HEIMAT ซีซั่นแรกตั้งแต่ต้นจนจบด้วยนะ
แต่ไม่รู้ว่าเราจำผิดหรือเปล่า
2. PEOPLIZATION พูดถึงอะไรต่าง
ๆ มากมาย อย่างเช่น
2.1 คณะราษฎร และการปฏิวัติในปี 2475 และสปิริตของคณะราษฎรที่ส่งต่อมาถึงเด็กยุคใหม่ในทศวรรษ
2020
2.2 ม็อบต่อต้านยิ่งลักษณ์ในปี 2013-2014
ซึ่งจุดนี้ทำให้นึกถึงหนังชุด BANGKOK JOYRIDE ของ Ing
K.
2.3 การชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในปี
2014 โดยเน้นไปที่รังสิมันต์ โรมที่ออกมาต่อต้านการรัฐประหารในครั้งนั้น ซึ่งจุดนี้ทำให้นึกถึงหนังการเมืองไทยบางเรื่องที่ออกมาเมื่อราว
10 ปีก่อน อย่างเช่น RECORDED รวมเพลงฮิต (Anuwat
Amnajkasem, Chantana Tiprachart, 2015, documentary) และ HAPPINESS (Wachara
Kanha, 2015)
2.4
การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารของประยุทธ์ในช่วงตั้งแต่ปี 2014
เป็นต้นมา โดยเราไม่แน่ใจว่าฟุตเตจในหนังตอนนี้ครอบคลุมปีใดบ้าง
แต่น่าจะมีตั้งแต่ปี 2014-2021
จุดนี้ของหนังทำให้นึกถึงหนังเรื่อง MOB
2020-2021 (2021, สุพงศ์ จิตต์เมือง, 118min, documentary,
A+30)
2.5 การชุมนุมกันของคนเสื้อเหลืองที่มีขึ้นเป็นครั้งคราวในช่วง
10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจุดนี้ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง FACES OF THE FLOWERS
(2020, ณฐพล บุญประกอบ)
2.6 งานอุ่นไอรัก ซึ่งจุดนี้ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง
238 R.E. (2019, ณฐพล บุญประกอบ)
2.7 การหายไปของหมุดคณะราษฎร
จุดนี้ของหนังทำให้นึกถึงหนังเรื่อง 100
TIMES REPRODUCTION OF DEMOCRACY (2019, Chulayarnnon Siriphol, 115min,
documentary)
3. ถึงแม้เนื้อหาหลาย ๆ จุดใน PEOPLIZATION
อาจจะซ้อนเหลื่อมกับหนังไทยหลายเรื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
แต่เราก็ไม่เบื่อกับการดูหนังตอนนี้นะ เพราะมันเหมือนเป็นการทบทวนประวัติศาสตร์การเมืองไทยในช่วง
11-12 ปีที่ผ่านมา และมันเหมือนเป็นการร้อยเรียงหลาย ๆ เหตุการณ์ในช่วง 11-12
ปีที่ผ่านมาเข้าด้วยกันน่ะ ในขณะที่หนังไทยเรื่องอื่นๆ
มักจะเจาะลึกไปที่เหตุการณ์ทางการเมืองเพียงเหตุการณ์เดียว ดังตัวอย่างที่ยกมาข้างต้น
4. และ PEOPLIZATION ก็บรรจุฟุตเตจที่เราเหมือนไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนด้วย
ซึ่งเราเดาว่าน่าจะเป็นฟุตเตจที่เข้หรือทีมงานของเข้ถ่ายเอง ซึ่งก็คือฟุตเตจที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองพ่นถ้อยคำหยาบคายและชูนิ้วกลางใส่ขบวนคนเสื้อแดง
(หรือกลุ่มต่อต้านประยุทธ์ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน) ที่เคลื่อนผ่าน แต่ปรากฏว่าคนเสื้อเหลืองบางคนเต้นหรือโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลงที่ดังออกมาจากรถของกลุ่มต่อต้านเผด็จการด้วย
มันก็เลยกลายเป็นฉากที่สุดขีดมาก ๆ ที่ฝ่ายเสื้อเหลืองกับฝ่ายต่อต้านเผด็จการมาเผชิญหน้ากัน
ด่าทอกันอย่างรุนแรง แต่ฝ่ายเสื้อเหลืองโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลงที่ฝ่ายต่อต้านเผด็จการเปิด
เรียกได้ว่าฉากนี้เป็นฉาก climax ของ episode นี้เลยทีเดียว และฉากนี้คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราชอบ PEOPLIZATION
ในระดับ A+30
EPISODE 1
EPISODE 2
EPISODE 3
EPISODE 6-7
No comments:
Post a Comment