ขอแอบเกาะกระแสความสำเร็จของ Ratchapoom
Boonbunchachoke ด้วยการทำลิสท์ว่า นอกจากเราจะเคยดูหนังสั้นที่คุณ Ratchapoom
กำกับไปแล้ว 12 เรื่อง เราก็เคยดูภาพยนตร์ที่คุณ Ratchapoom มีส่วนร่วมเขียนบทไปแล้ว 3 เรื่องอีกด้วยนะคะ 55555
ภาพยนตร์ 3 เรื่องที่คุณ Ratchapoom มีส่วนร่วมเขียนบท
1. LOVE SYNDROME รักโง่ ๆ
(2013, Pantham Thongsang)
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10202432222230222&set=a.10201975069921700
2. BAD BOYZ BAND (2023, Chantana Tiprachart)
เด็กกว่าแล้วไง ก็หัวใจมัน “I ROCK YOU”
https://web.facebook.com/photo?fbid=10231227845262801&set=a.10230383642238253
3. ZI MUI (2023, Baz Poonpiriya)
ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่
https://web.facebook.com/watch/?v=1020925742330773
จริง ๆ แล้วคุณ Ratchapoom มีส่วนร่วมเขียนบทละครโทรทัศน์ด้วยอีกหลายเรื่อง แต่เราไม่ได้ดู 55555
ลองดูรายชื่อละครโทรทัศน์ที่คุณ Ratchapoom มีส่วนร่วมเขียนบทได้ที่
https://www.imdb.com/name/nm6478277/?ref_=fn_all_nme_1
ส่วนรายชื่อหนังสั้น 12 เรื่องของคุณ Ratchapoom
ที่เราเคยดูนั้น เราเคยเขียนไว้ที่
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10237540665119352&set=a.10236654765052404
เราเคยพูดถึงหนังของคุณ Ratchapoom ในคลิป “ดูหนังกับมาเหม่ยจำบัง 5”
https://www.youtube.com/watch?v=eBc5xNkYbSM
ใครมีข้อมูลหรือความเห็นอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
“ผลงานการเขียนบท” ของคุณ Ratchapoom ก็ comment มาได้นะคะ
ว้าย ตีสาม 3D: เรือนหอคนตาย
(2012) เหรอคะ 55555
++++++++
Milad Alami เคยกำกับหนังเรื่อง NOTHING
CAN TOUCH ME (2011) ซึ่งหนังเรื่องนั้นติดอันดับ 3
ในลิสท์หนังสุดโปรดที่เราได้ดูในปี 2012 ดีใจมาก ๆ
ที่เราได้เห็นชื่อของผู้กำกับคนนี้อีก
++++++++
IMAMS GO TO SCHOOL (2010, Kaouther Ben Hania, France,
documentary, 75min, A+30)
1. ตอนนี้ Kaouther Ben Hania ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์หญิงคนโปรดของเราคนนึงไปแล้ว
เพราะตอนนี้เราได้ดูหนังของเธอไป 3 เรื่อง และชอบทั้ง 3 เรื่องนี้อย่างสุด ๆ เลย
ทั้ง IMAMS GO TO SCHOOL ที่เปิดฉายให้ดูออนไลน์กันฟรี ๆ
ในช่วงนี้, THE BLADE OF TUNIS (2013, Tunisia) และ BEAUTY
AND THE DOGS (2017, Tunisia)
ก่อนหน้านี้ตูนิเซียก็เคยมีผู้กำกับหญิงที่น่าสนใจอีกคนนึง
ซึ่งก็คือ Moufida Tlatli ที่กำกับ THE SILENCES OF
THE PALACE (1994) ที่เคยเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ในห้างบิ๊กซี
ราชดำริ โดย Moufida คนนี้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของตูนิเซียในช่วงหลังการปฏิวัติในตูนิเซียด้วย
แต่น่าเสียดายที่ Moufida Tlatli เสียชีวิตไปแล้วในปี 2021 เพราะโรคโควิด-19
2. IMAMS GO TO SCHOOL เป็นสารคดีที่ตามถ่ายทำเหล่าอิหม่ามต่าง
ๆ ในฝรั่งเศสในช่วงปลายทศวรรษ 2000 โดยในตอนนั้นฝรั่งเศสออกกฎหมายที่บังคับให้อนุศาสนาจารย์
(chaplain) และอิหม่ามเหล่านี้ต้องมาเรียนวิชา SECULARISM
(ฆราวาสนิยม) ด้วย
เพื่อที่อิหม่ามเหล่านี้จะได้เข้าใจกฎหมายและค่านิยมของฝรั่งเศส
แต่ปรากฏว่าไม่มีมหาวิทยาลัยไหนในฝรั่งเศสรับสอนอิหม่ามเหล่านี้ มีแค่
“สถาบันคาทอลิกแห่งกรุงปารีส” เท่านั้นที่รับสอนอิหม่ามเหล่านี้
อิหม่ามเหล่านี้ก็เลยต้องมานั่งเรียนวิชา SECULARISM ในสถาบันคาทอลิก
3. หนังเต็มไปด้วยอะไรต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย
โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส และค่านิยมต่าง ๆ ของฝรั่งเศส
Moments ที่เราชอบมากในหนังก็มีเช่น
3.1 ฉากที่นักเรียน (อิหม่าม)
ขอให้ครูหยุดพักการสอนเป็นเวลา 10 นาที เพื่อที่อิหม่ามจะได้ไปละหมาด
ซึ่งครูก็ตอบตกลง โดยบอกว่า “secularism เป็นเรื่องของการ compromise”
3.2 ฉากที่อิหม่ามถกเถียงกันว่า
กรุงเมกกะอยู่ทางทิศไหน เพื่อจะได้ละหมาดได้ถูกต้อง
3.3 ฉากที่อิหม่ามบางคนบอกว่า
คอร์สเรียนพวกนี้เหมาะสำหรับ foreign imams ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายและวัฒนธรรมฝรั่งเศส
ส่วนตัวเขานั้นเติบโตมาในฝรั่งเศส
ก็เลยรู้เรื่องกฎหมายและวัฒนธรรมฝรั่งเศสดีอยู่แล้ว
3.4 ฉากการอธิบายเรื่อง secularism ที่เริ่มต้นตั้งแต่การปฏิวัติฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 18
และการออกกฎหมายแยกรัฐออกจากศาสนาในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20
3.5 ฉากที่ครูตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ของ
Morocco
3.6 ฉากสอนประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศสให้อิหม่ามฟัง
โดยเฉพาะเรื่องที่กลุ่มปฏิวัติฝรั่งเศสสังหารบาทหลวงคาทอลิกตายไป 173 คนในปี 1792
โดยใช้คราดแทงบาทหลวงตายไปทีละคน ทีละคน
โดยครูได้นำกลุ่มอิหม่ามไปชมสถานที่สังหารบาทหลวงคาทอลิก 173 คนนี้ด้วย
เราไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย หนักมาก ๆ
เพราะถ้าหากพูดถึงการปฏิวัติฝรั่งเศส
เราก็เคยได้ยินแต่เรื่องของพระนางมารีอังตัวเนตต์ และ Danton แต่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องการสังหารบาทหลวง 173 คนมาก่อน
3.7 ฉากที่ครูเล่าเรื่องของ Saint Teresa
de Avila ในสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นคนที่แรงมาก
เพราะเธอหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 7 ขวบเพื่อจะได้ไปต่อสู้กับคนมุสลิม
เพราะเธอเชื่อว่าถ้าหากเธอถูกฆ่าตายขณะต่อสู้กับคนมุสลิม เธอจะได้เป็นมรณสักขี
แต่ปรากฏว่าลุงของเธอเจอเธอ ก็เลยพาเธอกลับบ้าน เธอก็เลยไม่ได้ตายสมใจอยาก
3.8 ฉากที่ครูเล่าเรื่องของบาทหลวงกลุ่ม
Trappists ของคาทอลิกที่ถูกสังหารหมู่ในสงครามกลางเมืองแอลจีเรียในปี
1996 โดยเฉพาะเรื่องของบาทหลวงคนนึงที่เขียนให้อภัยคนที่จะสังหารเขาไว้ก่อนตาย
เราเข้าใจว่าเหตุการณ์สังหารหมู่บาทหลวงคาทอลิกในแอลจีเรียนี้
เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง OF GODS AND MEN (2010, Xavier Beauvois) ด้วย แต่เรายังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้นะ
3.9 ฉากการสอนภาษาฝรั่งเศสให้อิหม่ามบางคน
เพราะอิหม่ามบางคนถนัดแต่ภาษาอาราบิก แต่ยังพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ค่อยได้
3.10
ฉากที่อิหม่ามแต่ละคนต้องมาสอบปากเปล่าในวิชา secularism
4. พอคิด ๆ ดูแล้ว
เราว่าฝรั่งเศสนี่เป็นชาติที่ทำหนังเกี่ยวกับ “การเรียนการสอน”
มากที่สุดชาติหนึ่งเลยนะ
คือถ้าหากพูดถึงหนังเกี่ยวกับ “โรงเรียน”
ของฮอลลีวู้ดและของญี่ปุ่น เรามักจะนึกถึง “หนังโรแมนติก” เป็นลำดับแรกน่ะ
เหมือนหนังฮอลลีวู้ดกับญี่ปุ่น ถ้าใช้ setting เป็นโรงเรียนปุ๊บ
คนก็จะนึกถึง “ฮอร์โมนวัยรุ่นอันพลุ่งพล่าน” และ “ความเงี่ยนของวัยรุ่น”
เพราะฉะนั้นฮอลลีวู้ดกับญี่ปุ่น ก็เลยเน้นทำ “หนังโรแมนติกในโรงเรียน” เป็นหลัก
แต่พอพูดถึง “ชั้นเรียน” ในฝรั่งเศส เราก็มักจะนึกถึงการอภิปรายถกเถียงกันเป็นหลัก
อย่างเช่นใน
4.1 THE CLASS (2008, Laurent Cantet)
4.2 SKIRT DAY (2008, Jean-Paul Lilienfeld)
4.3 SCHOOL OF BABEL (2013, Julie Bertuccelli, documentary)
4.4 ONCE IN A LIFETIME (2014, Marie-Castille Mention-Schaar)
4.5 THE COMPETITION (2016, Claire Simon, documentary)
4.6 A PARIS EDUCATION (2018, Jean-Paul Civeyrac)
4.7 DIVERTIMENTO (2022, Marie-Castille Mention-Schaar)
และก็รวมถึงหนังเรื่อง IMAMS GO TO
SCHOOL เรื่องนี้ด้วย
ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่
https://www.festivalscope.com/film/imams-go-to-school/
+++++++++
วันนี้หยิบเพลง IF I HAVE TO STAND ALONE
(1990) ของ Lonnie Gordon มาฟังอีกครั้ง
แล้วก็ร้องห่มร้องไห้ รู้สึกว่านี่มันคือเพลง I WILL SURVIVE สำหรับคนรุ่นเดียวกับเรา
แต่ตลกดีที่ตอนฟังเพลงนี้เราจะนึกถึง Donna
Summer มาก ๆ ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่คิดอะไร แต่พอเราอ่านความเห็นต่าง ๆ
ในยูทูบแล้วก็พบว่า ลางสังหรณ์ของเราเป็นจริง เพราะหลายคนในยูทูบบอกว่า ตอนแรก Stock,
Aitken & Waterman แต่งเพลงนี้ให้ Donna Summer ร้อง แต่ Donna Summer ไม่เอา Stock, Aitken
& Waterman ก็เลยเอาเพลงนี้มาให้ Lonnie Gordon ร้องแทน มิน่าล่ะ ตอนฟังเพลงนี้เราถึงนึกถึง Donna Summer โดยไม่รู้ตัว
https://www.youtube.com/watch?v=fYk3xVA-5gY
**********
เครื่องดูดฝุ่นในหนัง 3 เรื่อง
1.THE VACUUM CLEANER (1906, Segundo de
Chomón, France, silent film, 4min, A+30)
2. THE DEVIOUS PATH (1928, Georg
Wilhelm Pabst, Germany, A+30)
3. A USEFUL GHOST (2025, Ratchapoom Boonbunchachoke)
เห็นนิตยสาร Cahiers du Cinema เขียนเปรียบเทียบหนังเรื่อง A USEFUL GHOST (2025, Ratchapoom
Boonbunchachoke) กับหนังของ Segundo de Chomón เราก็เลยลองหาหนังของ Segundo de Chomón ในยูทูบมาดูในทันที
พอดูแล้วก็ไม่ประหลาดใจ เพราะหนังของ Segundo de Chomón
ที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน มันล้ำยุคล้ำสมัยมาก
และมันมีความแฟนตาซีเถิดเทิงมาก ๆ
ชอบ THE VACUUM CLEANER (1906) อย่างรุนแรง ตลกมาก เฮี้ยนมาก ๆ ไม่รู้คิดขึ้นมาได้อย่างไร คิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังที่เก่าที่สุดที่เราได้ดูเกี่ยวกับ
“เครื่องดูดฝุ่น” นะ เพราะมันเป็นหนังที่สร้างขึ้นในปี 1906 หรือเมื่อ 119 ปีก่อน
และมันสะท้อนจินตนาการเกี่ยวกับเครื่องดูดฝุ่นที่ไปสุดขั้วมาก ๆ เพราะมันเล่าเรื่องของกลุ่มอาชญากรที่ขโมยเครื่องดูดฝุ่นวิเศษเพื่อเอาไปใช้ดูดมนุษย์ต่าง
ๆ เข้ามาเก็บไว้ในเครื่องดูดฝุ่น บ้าบอมาก
ก่อนหน้านี้หนังที่ครองตำแหน่ง
“หนังที่นำเสนอเครื่องดูดฝุ่นที่เก่าที่สุด” สำหรับเรา น่าจะเป็นหนังเรื่อง THE
DEVIOUS PATH (1928, Georg Wilhelm Pabst, Germany, A+30) นะ
เพราะมันมีเครื่องดูดฝุ่นในหนังที่สร้างขึ้นเมื่อราว 100 ปีก่อนเรื่องนี้
ลองค้นดูใน wikipedia ก็พบว่าเครื่องดูดฝุ่นไฟฟ้าเครื่องแรก
ๆ น่าจะผลิตขึ้นในปี 1898
เราได้ดูหนังเรื่อง THE ELECTRIC HOTEL
(1908, Segundo de Chomón, Spain/France, silent film, 10min, A+30)
ในยูทูบด้วย คิดว่าหนังเรื่องนี้ก็สามารถฉายปะทะกับ A USEFUL GHOST ได้เช่นกัน เพราะ THE ELECTRIC HOTEL มันมีความ
“ไซไฟผีสิง” อยู่ในหนัง ซึ่งจุดนี้ก็คงคล้ายกับ A USEFUL GHOST
THE VACUUM CLEANER (1906)
https://www.youtube.com/watch?v=qCBVBKZgoGU
THE ELECTRIC HOTEL (1908)
https://www.youtube.com/watch?v=cCzru63JBSE
No comments:
Post a Comment