Wednesday, August 07, 2019

SECURITY GUARD

SYMPATHY FOR THE DEVIL (2019, Kamonchanok Chamnankonlakan, A+25)

ชอบโทน ชอบบรรยากาศของหนังมากๆ มันลึกลับ มีเสน่ห์ดีมาก นึกว่า   GET OUT (2017, Jordan Peele) ผสมกับ CURE (1997, Kiyoshi Kurosawa)

MY OWN PRIVATE IDAHO (1991, Gus Van Sant, A+30)

ชอบความอ้างว้างทางจิตวิญญาณของ Mike (River Phoenix) มากๆ รู้สึกว่า เขาเหมือนเป็นญาติห่างๆของ Aileen Wuornos จาก MONSTER (2003, Patty Jenkins) แต่ดีที่เขาไม่เลือกเส้นทางฆาตกรรม

THE THIRD WIFE (2018, Ash Mayfair, Vietnam, A+30)

 ชอบความประณีตในการถ่ายทำมากๆ  แม้จะรู้สึกว่าทั้ง style และ content ของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มีอะไรที่ใหม่หรือโดดเด่นสุดๆ เพราะหนังที่ใช้สไตล์การเล่าเรื่องแบบแช่มช้อยงดงามแบบนี้ ก็อาจจะพบได้ตามเทศกาลภาพยนตร์ทั่วไป ส่วน content ของหนังเรื่องนี้ก็ดีมาก แต่มันอาจจะไม่ได้สั่นสะเทือนเราอย่างรุนแรงเท่าหนังแบบ OSAMA (2003, Siddiq Barmak, Afghanistan)  และ A NATION WITHOUT WOMEN (2003, Manish Jha, India)

 SECURITY GUARD (2019, Wasin Talam, A+5)

ชอบการถ่ายทำมากๆ รู้สึกว่าถ่ายทำได้ดี การแสดงก็ใช้ได้ แต่รู้สึกว่าบทหนังมีปัญหา คือดูแล้วจะเกิดข้อสงสัยบางประการ อย่างเช่น

1.เนื้อเรื่องในหนังเกิดในช่วงที่มีโทรศัพท์มือถือแล้ว สังเกตได้จากช่วงท้ายเรื่อง แต่ทำไมผู้ร้ายถึงใช้วิดีโอเทปและกล้องวิดีโอที่ใหญ่เทอะทะมากในการประกอบอาชญากรรม ทำไมไม่ถ่ายคลิปด้วยมือถือไปเลย หรือเป็นเพราะว่าถ้าหากผู้ร้ายถ่ายคลิปด้วยมือถือ พระเอกก็จะไม่สามารถหาหลักฐานเจอได้

2.ทำไมผู้ร้ายถึงโง่จนปล่อยให้พระเอกหาหลักฐานเจอได้

คือเนื้อเรื่องในหนังมันดูไม่สมเหตุสมผลในบางจุดน่ะ เราก็เลยไม่แน่ใจว่า เราไม่เข้าใจบางจุดในหนังเอง หรือจริงๆแล้วเนื้อเรื่องในหนังมันยาวกว่านี้ และมันมีคำอธิบายเอาไว้แล้ว แต่คำอธิบายดังกล่าวโดนตัดออกไปในเวอร์ชั่นสั้น

คือพอดูหนังเรื่องนี้แล้วมันเหมือนกับว่า ผู้สร้างหนังตั้งต้นจากการคิด ฉากไคลแมกซ์ เอาไว้ก่อนน่ะ คือต้องการสร้างหนังที่มีพระเอกเป็นยาม ที่ลุกขึ้นสู้กับผู้ร้ายในช่วงท้ายเรื่อง แต่บทภาพยนตร์ไม่สามารถสร้างเนื้อเรื่องที่น่าเชื่อถือที่จะปูทางไปสู่ฉากไคลแมกซ์ดังกล่าวได้

No comments: