I AM GRETA (2020, Nathan Grossman, Sweden, documentary, A+30)
1.ดูแล้วก็ทำให้เห็นแง่มุมความเป็นมนุษย์ของเกรต้ามากขึ้น 55555
เพราะจริง ๆ แล้วเราไม่ค่อยได้ตามเรื่องของเธอมาก่อนเลย คือก่อนที่เราจะดูหนังเรื่องนี้
เรานึกว่าเธอคงเป็นเด็ก popular อะไรประมาณนี้น่ะ พอเราได้ดูหนังเรื่องนี้
เราถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นเด็กที่เหมือนไม่มีเพื่อนในโรงเรียน
อยู่แต่กับครอบครัวตัวเองเป็นหลัก เหมือนเป็นเด็กที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวสุด ๆ
ประมาณนึง (หมายถึงเวลาอยู่โรงเรียนมัธยมนะ)
2.ชื่นชมผู้กำกับหนังเรื่องนี้ที่เหมือนเห็นแววในตัวเธอตั้งแต่เธอเริ่มการประท้วงเพียงคนเดียว
แล้วเขาก็ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำ moments ต่าง ๆ ระหว่างเกรต้ากับพ่อได้
เราว่า moments พวกนี้มันช่วยเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้กับตัว subject
ได้ดีมาก เพราะเวลาที่เกรต้าอยู่กับพ่อ
มันแตกต่างจากเวลาที่เกรต้าพูดในที่ประชุมน่ะ เพราะเวลาที่เกรต้าพูดในที่ประชุม เธอดูรุนแรง
เพราะเธอรู้ว่าเธอกำลังพูดกับนักการเมืองที่ไม่ยอมทำในสิ่งที่เธอต้องการ เธอก็เลยสำแดงพลังของความโกรธเกรี้ยว
ความเป็นเจ้าแม่กาลีออกมาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่ได้มีแต่ภาคของความเป็นเจ้าแม่กาลีเท่านั้น
เธอยังมีส่วนอื่น ๆ ในตัวเธอด้วย
และหนังเรื่องนี้ก็ช่วยนำเสนอสิ่งนั้นออกมา
3.ฉากเกรต้ากับสมุนสาวถอดหูฟังตอนปะทะกับ Jean-Claude Juncker นี่ชอบสุด
ๆ
4.เหมือนฉาก climax ของหนังคือการล่องเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
และก็ดีมาก ๆ ที่หนังเรื่องนี้นำเสนอส่วนนี้ออกมาได้ เราเข้าใจว่าผู้กำกับคงยอมเสี่ยงชีวิตล่องเรือไปกับเธอด้วย
เหมือนเขาน่าจะเป็นตากล้องเพียงคนเดียวที่ได้ล่องเรือครั้งประวัติศาสตร์ไปกับเธอนะ
เพราะเรือน่าจะมีขนาดเล็กมาก ไม่มี media เจ้าอื่น ๆ
ได้ร่วมล่องเรือไปกับเธอด้วย เพราะฉะนั้นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็เลยเหมือนมีสถานะพิเศษมาก
ๆ ที่ได้เป็นประจักษ์พยานในการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์นี้
5.กัปตันเรือหล่อ ชอบเขามาก ๆ ชื่อ Boris Hermann
6.เนื้อหาของหนังจบลงในปี 2019 แต่เราก็แอบคิดว่า
เหตุไฟป่าในออสเตรเลียในช่วงหลังจากนั้น มันเหมือนเป็น “คำสาป” ของเกรต้าหรือเปล่า
คำสาปในแง่ที่ว่า ถ้าหากไม่มีการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ภัยธรรมชาติก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
7.จริง ๆ
แล้วเราอาจจะไม่ได้อินกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากเท่าเกรต้าแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นการดูหนังเรื่องนี้ก็เลยไม่ได้
inspire ให้เราทำอะไรในด้านนี้มากขึ้น
55555 แต่สิ่งที่ inspire เราอย่างสุด ๆ ในหนังเรื่องนี้คือ “การไม่แคร์คำด่า”
ของเกรต้า เพราะมันมีฉากที่เกรต้าอ่านคำด่าอย่างรุนแรงที่คนบางคนเขียนถึงเธอ
แล้วเกรต้าดูไม่ได้สะทกสะท้านระคายเคืองต่อคำด่าอย่างรุนแรงเหล่านี้แต่อย่างใด
คืออันนี้ inspire เราอย่างสุด ๆ เราจะพยายามฝีกตัวเองให้เข้มแข็งในด้านนี้ให้ได้แบบเกรต้า
เราจะต้องเป็นแบบเกรต้าในด้านนี้ให้ได้ เราจะต้องเป็นคนที่เมื่อพบเจอคำด่า
แล้วเราก็จะพูดว่า “มึงด่ากูเหรอ เรื่องของมึง กูไม่แคร์ จบ”
No comments:
Post a Comment