A PERFECT PLACE 01072015 (KONO TABI)
(2022, Nipan Oranniwesna, video installation, 68min, A+30)
1.ดูแล้วรู้สึกเหมือนเป็นวิดีโอที่คว้าจับหรือถ่ายทอดอะไรบางอย่าง
ซึ่งอาจจะเป็นบรรยากาศ, จิตวิญญาณ, vibe หรืออะไรสักอย่างของเมืองที่ดูค่อนข้างสงบ
ร่มเย็นเป็นสุขเมืองนึงในญี่ปุ่นมั้ง โดยวิดีโอนี้อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ
ส่วนแรกก็คือการถ่ายทอดบรรยากาศของบางส่วนของเมือง
และส่วนที่สองคือการถ่ายทอดพลังอะไรบางอย่างของอาคารแห่งนึง ที่ดูเหมือนจะเป็นอาคารเก่า
ๆ ร้าง ๆ
ดูแล้วนึกถึงหนัง 2 เรื่องของ Chantal Akerman ซึ่งก็คือ NEWS FROM HOME
(1976) ที่เป็นการถ่ายทอดบรรยากาศของนครนิวยอร์ค กับ HOTEL
MONTEREY (1973) ที่เป็นการถ่ายทอดพลังบางอย่างของอาคารโรงแรมแห่งหนึ่ง
ซึ่งจริง ๆ แล้ว KONO TABI นี่ก็ไม่ได้คล้ายหนังสองเรื่องนี้ของ
Akerman หรอกนะ มันแตกต่างกันมาก ๆ อยู่ แต่ถ้าหากจะต้องหาหนังเรื่องอื่น
ๆ มาเทียบเคียงกับ KONO TABI เราก็นึกถึงหนังสองเรื่องนี้เป็นลำดับแรกน่ะแหละ
เพราะอย่างน้อย ๆ หนังสองเรื่องนี้ก็ถ่ายทอด “เมือง” กับ “อาคาร”
ออกมาได้อย่างทรงพลัง น่าประทับใจสุด ๆ เหมือน KONO TABI เช่นกัน
2.เราไม่รู้เหมือนกันว่าอาคารใน KONO TABI มันคืออาคารอะไร มีความสำคัญยังไง
ดูเหมือนจะเป็นอาคารที่อยู่มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเลยหรือเปล่า
และเคยมีความสำคัญทางการทหารด้วยหรือเปล่า เราก็ไม่แน่ใจ เหมือนถ้าหากมันเป็น fiction
เราคงแต่งเรื่องให้มันเป็นอาคารที่เคยใช้ในการจับคนมาทำเชื้อโรค
อะไรทำนองนี้ 5555
ช่วงแรก ๆ เราเพลิดเพลินไปกับการดูใบไม้ใบหญ้ารอบอาคารปลิวไหวไปตามสายลมนะ
เหมือนเป็นสิ่งธรรมดา ๆ ที่เราคงไม่มานั่งมองในชีวิตประจำวัน แต่พอลองนั่งมองจริง
ๆ แล้วก็เพลิดเพลินมาก และต่อมาเราก็โฟกัสไปยังคนที่เดินผ่านหรือขี่จักรยานผ่านอาคาร
และเหมือนต่อมาเราก็จูนติดกับการมองอาคารเฉย ๆ เหมือนวิดีโอมันทำให้เราเกิดความรู้สึกบางอย่างที่บรรยายไม่ถูกขณะจ้องมองอาคารนี้
แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเราอย่างรุนแรงมากเท่า HOTEL MONTEREY หรือ AGATHA AND THE UNLIMITED
READINGS (1981, Marguerite Duras) ที่ให้เรามองหน้าต่างหรือชายหาดโล่ง
ๆ เป็นเวลานานหลายนาทีนะ แต่วิดีโอนี้มันก็เทพมากน่ะแหละที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกแบบนั้นได้
3.ในหลาย ๆ ช่วงของวิดีโอนี้มีการซ้อนภาพอะไรขาว
ๆ อยู่ด้วย หรือซ้อนภาพอะไรบางอย่างขึ้นมา ซึ่งเราก็มองไม่ออกว่าภาพสิ่งขาว ๆ
ที่ซ้อนขึ้นมานั้นคืออะไร แต่มันช่วยเพิ่มมิติความลึกลับบางอย่างได้ดี 555
4.ในส่วนของตัวเมืองนั้น เรารู้สึกว่ามันแบ่งย่อยออกได้เป็น
3 ส่วนมั้ง นั่นก็คือ
4.1 ส่วนที่เป็นถนนในเมือง เห็นคนเดินผ่านไปมา
4.2 ส่วนที่เป็นสวนสาธารณะ เห็นต้นไม้ใบหญ้า,
นก, รูปปั้น, คนนั่ง, คนนอน
4.3 ส่วนที่เป็น “ริมน้ำ”
ซึ่งมีฉากที่พีคสุด ๆ สำหรับเราอยู่สองฉากด้วยกัน
4.3.1 ฉากที่พีคสุด ๆ ฉากหนึ่งของเราคือฉากที่เห็นเด็กเล็ก
ๆ กับครูยืนอยู่ริมน้ำ แล้วเหมือนวิดีโอทำให้ภาพมันเก่า ๆ หรือเปล่า เราไม่แน่ใจ
คือตอนแรกที่เห็นฉากนี้ เรานึกว่าฉากนี้เอามาจาก found footage ที่คนถ่ายไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1970 หรืออะไรทำนองนี้
ก่อนที่วิดีโอจะเฉลยในเวลาต่อมาว่า มันน่าจะเป็นฉากที่เพิ่งถ่ายในยุคปัจจุบันมั้ง
แล้วเราดูแล้วก็ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้กับครูมาทำอะไรที่ริมน้ำ 5555
4.3.2 ส่วนฉากที่เราขอยกให้เป็น CLIMAX ของเราสำหรับวิดีโอนี้ คือฉากสะพานยามราตรีนี่แหละ
ตอนแรกก็ดูอย่างเพลิดเพลิน รู้สึกว่าบ้านเมืองเขาดูปลอดภัยดีจัง แล้วต่อมาเราก็รู้สึกว่า
เวลาเห็นคนเดินคนเดียวบนสะพานนี้ แล้ว “แสงเงา” บนสะพานมันก่อให้เกิดความรู้สึกที่งดงามมาก
ๆ ทรงพลังมาก ๆ
แล้ว CLIMAX ของเราก็มาถึง เมื่อเราเห็นบุคคลลึกลับบนสะพาน
คือในขณะที่ทุก ๆ คนเดินจากปลายสะพานด้านนึงไปยังปลายสะพานอีกด้านนึง
คนลึกลับคนนี้กลับมาเดินมายืนอยู่กลางสะพาน แล้วทำอะไรก็ไม่รู้ เราถึงกับต้องลุกมาดูใกล้
ๆ เพื่อพยายามค้นหาว่า บุคคลลึกลับคนนี้ทำอะไรบนสะพาน แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ แต่ตอนที่ดูจะลุ้นมาก
ๆ ว่า อย่าฆ่าตัวตายนะ อย่ากระโดดสะพานนะ คืออยู่ดี ๆ วิดีโอนี้ก็กลายเป็น thriller
สำหรับเราขึ้นมาเลย ไม่รู้ว่าผู้สร้างตั้งใจให้เป็นแบบนั้นหรือเปล่า
ดูฉากนี้แล้วรู้สึกเหมือนกับว่า เรากำลังอยู่ในหนังเรื่อง BLOW-UP (1966,
Michelangelo Antonioni) แบบว่ามีคนถ่ายสะพานเล่น ๆ แบบ extreme
long shot แต่กลับไปถ่ายติดตอนที่เกิดเหตุคนฆ่าตัวตายหรือเกิดเหตุฆาตกรรมบนสะพานพอดี
55555 โชคยังดีที่ไม่เกิดเหตุอะไรร้ายแรงบนสะพานนั้น
5. สรุปว่าในงานนี้เราได้ดูงานชุด A PERFECT PLACE แค่ HUMP, LOG, RAIN กับ KONO TABI นะ ตอนนี้ชอบ HUMP มากที่สุดใน 4 วิดีโอนี้
No comments:
Post a Comment