Sunday, December 04, 2022

MUTZENBACHER

 

รายงานผลประกอบการประจำวันเสาร์ที่ 3 DEC 2022

 

1.MUTZENBACHER (2022, Ruth Beckermann, Austria, DOCUMENTARY, 100min, A+30)

 

ชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีดคลั่ง เตรียมลุ้นแข่งขันชิงอันดับหนึ่งประจำปีกับ JUST 1 AND 1/2 (2022, Bunnawit Boonsonparn), WANDERING (2022, Lee Sang-il) และ A PERFECT PLACE: 09022021 (HUMP) (2022, Nipan Oranniwesna)

 

ตัวละครนางเอกในนิยายที่เป็นที่มาของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ มีความใกล้เคียงกับชีวิตในฝันของดิฉันอย่างมาก ๆ เพราะดิฉันอยากร่วมรักกับผู้ชายหนุ่มหล่อล่ำบึ้กแค่เพียง 33,000 คนก็พอเพียงแล้วค่ะ

 

2.R.M.N. (2022, Cristian Mungiu, Romania, 125MIN, A+30)

A+30

 

พอหนังเรื่องนี้เข้าฉายในกรุงเทพต่อจากหนังโรมาเนียเรื่อง THE DEAD NATION (2017, Radu Jude) (ที่เข้า DOC CLUB) มันก็เลยเหมือนแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลยในช่วง 90 ปีที่ผ่านมา

 

ชอบที่เพื่อนเขียนถึงหนังเรื่องนี้มาก ๆ เพราะหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาส่วนหนึ่งพูดถึงชาวฮังการีที่อาศัยอยู่ในโรมาเนีย และคนกลุ่มนี้ต่อต้านผู้อพยพชาวศรีลังกา เพื่อนบอกว่าดูแล้วนึกถึงคนเชื้อสายจีนในไทยที่ต่อต้านผู้อพยพชาวโรฮิงญา

 

ไม่แน่ใจว่าตอนที่ “ซับไตเติลเป็นสีเหลือง” ในบางช่วงของหนังเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่าตัวละครกำลังพูดกันเป็นภาษาอะไร ภาษาฮังการีหรือเปล่า เพราะเราก็แยกไม่ออกว่าตอนไหนตัวละครคุยกันเป็นภาษาโรมาเนียหรือฮังการี เราแยกออกแค่ภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศส 555

 

ดีใจที่ปีนี้มีหนังโรมาเนียมาฉายในไทยอย่างน้อย 3 เรื่อง ซึ่งก็คือ CINEMA, MON AMOUR (2015, Alexandru Belc) ที่ฉาย DOC CLUB, THE DEAD NATION แล้วก็เรื่องนี้ ซึ่งดีงามอย่างสุด ๆ ทั้ง 3 เรื่อง

 

เราชอบ 4 MONTHS, 3 WEEKS AND 2 DAYS (2007, Cristian Mungiu) ของผู้กำกับคนนี้มาก ๆ เช่นกัน ตอนนั้นหนังเรื่องนี้ก็มาฉายใน WORLD FILM FESTIVAL OF BANGKOK ที่ Esplanade Ratchada

 

ถ้าจำไม่ผิด หนังโรมาเนียเรื่องแรกที่เราเคยดูในชีวิตคือ REQUIEM FOR DOMINIC (1990, Robert Dornhelm)

 

3.KACCHEY LIMBU (2022, Shubham Yogi, India, 109min, A+30)

 

ชอบที่หนังมันเหมือนมี passion กับตัวกีฬาในหนังมาก ๆ คือเหมือนเก็บทุกเม็ดทุกแต้มในการแข่งขันทุกนัดของทีมนางเอก ไม่นึกว่ามันจะลงรายละเอียดในช่วงการแข่งขันกีฬามากขนาดนี้

 

เหมือนหนังกีฬาแต่ละเรื่องมันต้องใส่ “ดราม่าชีวิต” ผสมกับ “การแข่งขันกีฬา” เข้าไปในหนังด้วย และเราว่าตัวดราม่าชีวิตในหนังเรื่องนี้เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้น่าสนใจมากนักในสายตาของเรา เราว่ามันก็เลยดีแล้วที่หนังไป focus ที่การแข่งขันไปเลยในช่วงครี่งหลัง

 

นึกถึงภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ลูกสุดท้าย” (2022, ภูริณัฐ วิชชุประภาพร, A+30) ที่ตัวดราม่าชีวิตของนักบาสหนุ่มในเรื่องมันดู cliché มาก ๆ แต่เหมือนผู้กำกับรู้จุดอ่อนตรงจุดนี้ เลยเหมือนใส่ส่วนผสมที่เป็น “ดราม่าชีวิต” เข้ามาแค่พอเป็นพิธี และไปเน้นที่การแข่งขันกีฬาไปเลย จุดอ่อนของหนังเลยไม่ปรากฏชัดนัก

 

4. DESPERATE FOR MARRIAGE (2022, Sonya Karpunina, Russia, B- )

 

พอไฟไหม้ CENTRAL WORLD เราเลยหนีมาเทศกาลหนังรัสเซียแทน ปรากฏว่าคนเต็มโรงเลย ประหลาดใจมาก ๆ มีตำรวจมาคุมงานด้วย

 

หนังสูตรสำเร็จมาก ๆ เราก็เลยรู้สึกว่าหนังมันน่าเบื่อมาก ๆ ตัวละครพระเอกนางเอก, ผู้ร้าย, นางอิจฉาอะไรดูเป็นสูตรสำเร็จไปหมด ถึงพระเอกและผู้ร้ายจะหล่อ มันก็ช่วยอะไรหนังไม่ได้

 

มีจุดเดียวที่ชอบในระดับ A+30 ในหนังเรื่องนี้ คือฉากที่พระเอกเดินออกมาจากตึก และมีหญิงชรา 2 คนหน้าตึกกรี๊ดกร๊าดบอกว่าพระเอกหล่อจัง หล่อมากเลยค่ะ พระเอกเลยหันไปถามหญิงชรา 2 คนนี้ว่า “สามีของพวกคุณอยู่ไหน” หญิงชรา 2 คนก็เลยตอบว่า “อยู่ในสุสานจ้ะ”

 

เหมือนช่วงนี้ได้ดูหนัง “สูตรสำเร็จ” แบบ DESPERATE FOR MARRIAGE หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงเรื่อง

 

4.1 LOST IN BLUE ละเลย เลย เลือนราง (2022, ฉัตรชนก ศศิชานนท์, MUSICAL, 40MIN, A+30)

 

ถึงแม้หนังเรื่องนี้อาจจะสูตรสำเร็จ เราก็ชอบสุด ๆ อยู่ดี เพราะเราชอบเพลงในหนัง และอาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนที่คิดเรื่องการฆ่าตัวตายอยู่ทุกวัน เราก็เลยเหมือนเข้าใจนางเอกหนังเรื่องนี้ในระดับนึง

 

4.2 LOVE AT FIRST RIGHT รักปั่นป่วน ชวนปัดขวา (2022, ศุจีภรณ์ ฉ่ำชื่นวงศ์, 83min, A+)

 

จริง ๆ แล้วมันก็สูตรสำเร็จเหมือน LOST IN BLUE แต่พอ LOST IN BLUE นำเสนอนางเอกที่เป็นสาวอ้วน ส่วน LOVE AT FIRST RIGHT นำเสนอนางเอกที่เป็น “สาวสวยเลือกได้ มีหนุ่ม ๆ มารุมจีบมากมาย” กูก็เลยไม่ค่อยอินกับ LOVE AT FIRST RIGHT ค่ะ 5555

 

4.3 หมู่ฮัก (2022, ปราการ จอมหงส์, 32min, A-)

 

เหมือนสิ่งเดียวที่ชอบมาก ๆในหนังเรื่องนี้ คือ location ชนบทของอุบลราชธานี (ถ้าเข้าใจไม่ผิด)

No comments: