รายงานผลประกอบการประจำวันเสาร์ที่ 3 DEC 2022
1.MUTZENBACHER (2022, Ruth
Beckermann, Austria, DOCUMENTARY, 100min, A+30)
ชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีดคลั่ง
เตรียมลุ้นแข่งขันชิงอันดับหนึ่งประจำปีกับ JUST 1 AND 1/2 (2022, Bunnawit Boonsonparn), WANDERING (2022,
Lee Sang-il) และ A PERFECT PLACE: 09022021 (HUMP) (2022,
Nipan Oranniwesna)
ตัวละครนางเอกในนิยายที่เป็นที่มาของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
มีความใกล้เคียงกับชีวิตในฝันของดิฉันอย่างมาก ๆ เพราะดิฉันอยากร่วมรักกับผู้ชายหนุ่มหล่อล่ำบึ้กแค่เพียง
33,000 คนก็พอเพียงแล้วค่ะ
2.R.M.N. (2022, Cristian Mungiu,
Romania, 125MIN, A+30)
A+30
พอหนังเรื่องนี้เข้าฉายในกรุงเทพต่อจากหนังโรมาเนียเรื่อง
THE DEAD NATION (2017, Radu Jude) (ที่เข้า DOC CLUB) มันก็เลยเหมือนแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลยในช่วง
90 ปีที่ผ่านมา
ชอบที่เพื่อนเขียนถึงหนังเรื่องนี้มาก ๆ เพราะหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาส่วนหนึ่งพูดถึงชาวฮังการีที่อาศัยอยู่ในโรมาเนีย
และคนกลุ่มนี้ต่อต้านผู้อพยพชาวศรีลังกา เพื่อนบอกว่าดูแล้วนึกถึงคนเชื้อสายจีนในไทยที่ต่อต้านผู้อพยพชาวโรฮิงญา
ไม่แน่ใจว่าตอนที่ “ซับไตเติลเป็นสีเหลือง”
ในบางช่วงของหนังเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่าตัวละครกำลังพูดกันเป็นภาษาอะไร ภาษาฮังการีหรือเปล่า
เพราะเราก็แยกไม่ออกว่าตอนไหนตัวละครคุยกันเป็นภาษาโรมาเนียหรือฮังการี
เราแยกออกแค่ภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศส 555
ดีใจที่ปีนี้มีหนังโรมาเนียมาฉายในไทยอย่างน้อย 3 เรื่อง ซึ่งก็คือ CINEMA,
MON AMOUR (2015, Alexandru Belc) ที่ฉาย DOC CLUB, THE DEAD
NATION แล้วก็เรื่องนี้ ซึ่งดีงามอย่างสุด ๆ ทั้ง 3 เรื่อง
เราชอบ 4 MONTHS, 3 WEEKS AND 2 DAYS (2007, Cristian Mungiu) ของผู้กำกับคนนี้มาก ๆ เช่นกัน ตอนนั้นหนังเรื่องนี้ก็มาฉายใน WORLD
FILM FESTIVAL OF BANGKOK ที่ Esplanade Ratchada
ถ้าจำไม่ผิด หนังโรมาเนียเรื่องแรกที่เราเคยดูในชีวิตคือ
REQUIEM FOR DOMINIC (1990, Robert
Dornhelm)
3.KACCHEY LIMBU (2022, Shubham
Yogi, India, 109min, A+30)
ชอบที่หนังมันเหมือนมี passion กับตัวกีฬาในหนังมาก
ๆ คือเหมือนเก็บทุกเม็ดทุกแต้มในการแข่งขันทุกนัดของทีมนางเอก
ไม่นึกว่ามันจะลงรายละเอียดในช่วงการแข่งขันกีฬามากขนาดนี้
เหมือนหนังกีฬาแต่ละเรื่องมันต้องใส่
“ดราม่าชีวิต” ผสมกับ “การแข่งขันกีฬา” เข้าไปในหนังด้วย และเราว่าตัวดราม่าชีวิตในหนังเรื่องนี้เอาจริง
ๆ มันก็ไม่ได้น่าสนใจมากนักในสายตาของเรา เราว่ามันก็เลยดีแล้วที่หนังไป focus ที่การแข่งขันไปเลยในช่วงครี่งหลัง
นึกถึงภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ลูกสุดท้าย”
(2022,
ภูริณัฐ วิชชุประภาพร, A+30) ที่ตัวดราม่าชีวิตของนักบาสหนุ่มในเรื่องมันดู
cliché มาก ๆ แต่เหมือนผู้กำกับรู้จุดอ่อนตรงจุดนี้
เลยเหมือนใส่ส่วนผสมที่เป็น “ดราม่าชีวิต” เข้ามาแค่พอเป็นพิธี และไปเน้นที่การแข่งขันกีฬาไปเลย
จุดอ่อนของหนังเลยไม่ปรากฏชัดนัก
4. DESPERATE FOR MARRIAGE (2022,
Sonya Karpunina, Russia, B- )
พอไฟไหม้ CENTRAL WORLD เราเลยหนีมาเทศกาลหนังรัสเซียแทน
ปรากฏว่าคนเต็มโรงเลย ประหลาดใจมาก ๆ มีตำรวจมาคุมงานด้วย
หนังสูตรสำเร็จมาก ๆ
เราก็เลยรู้สึกว่าหนังมันน่าเบื่อมาก ๆ ตัวละครพระเอกนางเอก, ผู้ร้าย,
นางอิจฉาอะไรดูเป็นสูตรสำเร็จไปหมด ถึงพระเอกและผู้ร้ายจะหล่อ มันก็ช่วยอะไรหนังไม่ได้
มีจุดเดียวที่ชอบในระดับ A+30 ในหนังเรื่องนี้ คือฉากที่พระเอกเดินออกมาจากตึก
และมีหญิงชรา 2 คนหน้าตึกกรี๊ดกร๊าดบอกว่าพระเอกหล่อจัง หล่อมากเลยค่ะ
พระเอกเลยหันไปถามหญิงชรา 2 คนนี้ว่า “สามีของพวกคุณอยู่ไหน” หญิงชรา 2
คนก็เลยตอบว่า “อยู่ในสุสานจ้ะ”
เหมือนช่วงนี้ได้ดูหนัง “สูตรสำเร็จ”
แบบ DESPERATE FOR MARRIAGE หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงเรื่อง
4.1 LOST IN BLUE ละเลย
เลย เลือนราง (2022, ฉัตรชนก ศศิชานนท์, MUSICAL,
40MIN, A+30)
ถึงแม้หนังเรื่องนี้อาจจะสูตรสำเร็จ
เราก็ชอบสุด ๆ อยู่ดี เพราะเราชอบเพลงในหนัง และอาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนที่คิดเรื่องการฆ่าตัวตายอยู่ทุกวัน
เราก็เลยเหมือนเข้าใจนางเอกหนังเรื่องนี้ในระดับนึง
4.2 LOVE AT FIRST RIGHT รักปั่นป่วน ชวนปัดขวา (2022,
ศุจีภรณ์ ฉ่ำชื่นวงศ์, 83min, A+)
จริง ๆ แล้วมันก็สูตรสำเร็จเหมือน LOST IN BLUE แต่พอ LOST IN BLUE นำเสนอนางเอกที่เป็นสาวอ้วน
ส่วน LOVE AT FIRST RIGHT นำเสนอนางเอกที่เป็น “สาวสวยเลือกได้
มีหนุ่ม ๆ มารุมจีบมากมาย” กูก็เลยไม่ค่อยอินกับ LOVE AT FIRST RIGHT ค่ะ 5555
4.3 หมู่ฮัก (2022, ปราการ จอมหงส์, 32min, A-)
เหมือนสิ่งเดียวที่ชอบมาก ๆในหนังเรื่องนี้
คือ location ชนบทของอุบลราชธานี
(ถ้าเข้าใจไม่ผิด)
No comments:
Post a Comment