18 YEARS – MEMORIES, DREAMS AND
VIOLENCE (2022, Prempapat Plittapolkranpim, documentary, 97min, A+25)
1.เหมือนในแง่การกำกับภาพยนตร์แล้วเราเฉย
ๆ นะ 5555 แต่สิ่งที่ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ ก็คือการที่หนังพาเราไปรับฟังคำให้สัมภาษณ์ของ
subjects ต่าง ๆ ในหนังนี่แหละ เพราะเรารู้สึกว่า subjects
บางคนในหนังเรื่องนี้น่าสนใจมาก ๆ ทั้งเด็กหนุ่มที่ถูก bully
อย่างรุนแรงในโรงเรียน, ชายหนุ่มที่เป็นคนดีของสังคมในพื้นที่นั้น ๆ
และหญิงสาว LGBTQ เราว่าเรื่องราวของทั้ง 3 คนนี้น่าสนใจสุด
ๆ สำหรับเรา และแค่หนังปล่อยให้พวกเขาพูดไปเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้รับข้อมูลที่ต้องการแล้ว
แต่เราว่าหนังอาจจะยังขาดฟุตเตจที่น่าสนใจอื่น ๆ นอกเหนือจากฉากการสัมภาษณ์ subjects ต่าง ๆ ในหนังน่ะ
2.ประเด็นเรื่องความรุนแรงที่รัฐไทยกระทำต่อคนในพื้นที่นั้น
เป็นประเด็นที่คาดเดาได้อยู่แล้วว่าจะต้องมีในหนังเรื่องนี้ และหนังก็นำเสนอประเด็นนี้ออกมาได้อย่างน่าสะเทือนใจสำหรับเรา
โดยเฉพาะเรื่องของผู้ชายในครอบครัวนึงที่ทยอยถูกจับไปซ้อมทรมานทีละคน ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวออกมา
เพราะพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์
3.แต่เราชอบที่หนังพูดถึงทั้งประเด็นนี้และประเด็นอื่น
ๆ ด้วย ไม่ได้เน้นแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียว คือเหมือนพอหนังไปสัมภาษณ์คนหนุ่มสาวในพื้นที่นั้น
แล้วพวกเขามีปัญหาชีวิตต่าง ๆ กันไป หนังก็ปล่อยให้ subject แต่ละคนพูดถึงปัญหาชีวิตของตัวเองได้มากพอสมควรด้วย
4.เรื่องของชายหนุ่มที่เป็นคนดีของสังคมในพื้นที่นั้น
ก็น่าสนใจดี เหมือนผู้ชายคนนี้เป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมในการทำให้ผู้ชมได้รับรู้ว่า
คนในพื้นที่นั้น ๆ มีความเชื่อ, ความคิดอ่าน, ความใฝ่ฝัน
หรือมีสไตล์การใช้ชีวิตอย่างไร และแน่นอนว่าเราก็รู้สึกเศร้าใจมาก ๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวอาจจะมีปัญหาเรื่องการไม่ยอมรับ
LGBTQ อยู่
5. เรื่องของเด็กหนุ่มที่โดน bully อย่างรุนแรงก็น่าสนใจมาก
คือเหมือนปัญหาแบบนี้จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นปัญหาที่เจอได้ในพื้นที่อื่น ๆ ในไทยด้วย
เราก็เลยชอบที่หนังนำเสนอเรื่องของเด็กหนุ่มคนนี้อย่างจริงจัง เพราะมันช่วยแสดงให้เห็นแง่มุมอื่น
ๆ ของสังคมในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย และแสดงให้เห็นว่าพื้นที่นั้นไม่ได้มีแค่ปัญหาเรื่องความรุนแรงจากรัฐไทยและเรื่องศาสนาเพียงอย่างเดียว
แต่ก็มีปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะคล้ายคลึงกับพื้นที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
6.แต่สิ่งที่สะเทือนใจเรามากที่สุดในหนังก็คือเรื่องราวของหญิงสาวที่เป็น
LGBTQ นี่แหละ กราบตีนมาก ๆ
เรื่องของเธอมันหนักหนาสาหัสสำหรับเรามาก ๆ คือเราดูหนังเรื่องนี้มานานหลายวันแล้ว
แต่เราก็ยังคงรู้สึกรุนแรงทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องราวของเธอ มันเป็นเรื่องของหญิงสาวที่ต้องการให้แม่มาจุ๊บเธอที่หน้าผากบ้าง
แต่สิ่งที่เธอได้รับจากแม่คือมีดอีโต้
สิ่งที่สะเทือนใจเราเกี่ยวกับเรื่องของ
subject คนนี้รวมถึง
6.1 เรื่องที่เธอเห็นว่าแม่ชอบจุ๊บหน้าผากน้องชายตอนที่น้องชายหลับ
เธอก็เลยแสร้งทำเป็นว่าตัวเองหลับแล้ว เพราะเธออยากให้แม่มาจุ๊บหน้าผากเธอบ้าง
แต่แม่ก็ไม่ทำ
6.2 เรื่องที่เธอเป็น LGBTQ แล้วมีปัญหากับญาติ ๆ หรือบางคนในพื้นที่นั้น
6.3 เรื่องที่เธอไปอยู่บ้านย่า
แล้วกลับบ้านดึก แล้วแม่เลยคว้ามีดอีโต้จะมาทำร้ายเธอ (ถ้าหากเราจำไม่ผิด)
6.4 เรื่องที่เธอหนีออกจากบ้านตอนอายุ
15 (ถ้าจำไม่ผิด) คือกราบตีนเธอมาก ๆ และมันทำให้เรา identify ตัวเองกับตัวเธอได้อย่างรุนแรงด้วย
เพราะช่วงที่เราอายุประมาณนั้นเราก็คิดอยากฆ่าตัวตายบ่อย ๆ เช่นกัน
6.5 เรื่องที่เธอได้รับการยอมรับอย่างดีจากบ้านของแฟนสาว
และแฟนสาวอายุแก่กว่าเธอราว 7 ปี คือเหมือนเธอเป็นทั้ง LGBTQ, รักกับคนต่างศาสนา และเธอกับแฟนมีอายุห่างกันมากพอสมควรในสายตาของคนอื่น
ๆ ด้วย (แต่ไม่ใช่ในสายตาของเรานะ) ชอบมาก
ๆ ที่เธอบอกว่าพ่อกับแม่ของเธออายุห่างกันมากกว่านี้อีก
6.6 เรื่องที่เธอพยายามจะขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์
แต่ทำไม่สำเร็จ (ถ้าจำไม่ผิด)
6.7 ชอบที่เธอพูดออกมาตรง ๆ เลยว่า
เธอไม่ต้องการอาศัยอยู่ใน “บ้านเกิด” อีกต่อไป แต่อยากไปอยู่เชียงใหม่หรืออะไรแบบนั้นมากกว่า
6.8 สรุปว่ารู้สึกถูกโฉลกกับเธออย่างมาก
ๆ คือถ้าหากมันเป็นหนัง fiction เราก็มักจะรู้สึกคลิกกับตัวละครแบบนี้นี่แหละ ตัวละครที่ไม่ได้ “รักบ้านเกิด”
ไม่ได้รู้สึก “ผูกพันกับภูมิลำเนา” ไม่ได้ “รักครอบครัวอย่างรุนแรง” แต่ต้องการจะแสวงหาสถานที่ใดสักแห่งในโลกที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
No comments:
Post a Comment