THAI FILMS SEEN IN MARATHON ONLINE FESTIVAL 2021 PART 2
7. 2517 (สุริเยชินท์
สุริยะโชติกุล, A+30)
เข้าใจว่าผู้กำกับเป็นเด็กมัธยมจากขอนแก่น ชอบหนังอย่างสุด ๆ
หนังเปิดเรื่องมาแบบหนังไซไฟย้อนเวลา แต่พอดูจบแล้วรู้สึกว่ามันคือหนังแนว Alain Resnais + Raoul Ruiz
8. 31วันหรรษาสารขัณฑ์ (ธนกฤต กฤษณยรรยง, animation,
A+30)
จริง ๆ ดูแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ชอบ 555
9. 32 24 36 (กัลญาภรณ์ เทวรักษ์ธนา, A+15)
นึกว่าโรงเรียนในหนังเรื่องนี้ กับโรงเรียนใน BONNE EN ROUGE และ CONGRUITY
CHANT (2019, Kanchanit Liengudom) อยู่ในจักรวาลเดียวกัน
และเป็นโรงเรียนที่แข่งขันกันเอง 5555 บางทีในอนาคตอาจจะต้องมีการสร้างหนังที่ cross
จักรวาลระหว่างหนัง 3 เรื่องนี้เข้าด้วยกัน
10. 4*6 (Parnupong Chaiyo, documentary, A+30)
หนังที่สัมภาษณ์พ่อกับแม่ของผู้กำกับเอง หนังทำออกมาได้น่ารักมาก
ชอบการใช้ภาษาเหนือ และชอบที่มีการหากิจกรรรมให้วาดภาพระบายสี
11. ๘ นาฬิกาปกติใหม่ (ภัคชยศ จรัญชล, A+30)
เหมือนเห็นทั้งความสิ้นหวังและความหวังภายในเวลาเพียงแค่ 2 นาที
ความสิ้นหวังคือกฎบ้า ๆ บอ ๆ ที่ให้นักเรียนเคารพธงชาติออนไลน์
และความหวังคือการที่นักเรียนคนหนึ่งชูสามนิ้วขณะเคารพธงชาติ
12. 82 YEARS (ชัชนภ ธีระพงษ์, A+25)
หนังสัมภาษณ์คนแก่ ที่มีการพูดเรื่องการฆ่าตัวตายด้วย เหมือนหนังเรื่องนี้ให้ sense ของหนังทดลองมากกว่าหนังสารคดี
แต่เสียดายที่หนังสั้นเกินไป
13. A.K.A. นิรัช (อริศรา ทะฮาคาฮาชิ, ฤทธิเกียรติ นาคสาม, A+15)
พระหนุ่มอดีต rapper เจอกับพระเก่าประจำวัดที่น่าจะเป็นอดีต
rapper เหมือนกัน
14. ABSOLUTELY (NOT) BRIGHT FUTURE (ทิว เลิศชัยประเสริฐ, A+30
)
ชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีด
เหมือนหนังมันถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ในแบบที่ตรงใจเรามาก ๆ
15. APOGEE (ฌาณัชย์ สิทธิปรีดานันท์, พีรวิชญ์ ก้องกิจกุล,
A)
ชอบที่หนังจินตนาการถึงกรุงเทพในโลกอนาคต
ที่กรุงเทพเหมือนจมทะเลไปแล้วครึ่งเมือง (ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด)
และตัวละครหมกมุ่นกับโครงการอวกาศ แต่เหมือนหนังเล่าไม่รู้เรื่อง เราฟังตัวละครคุยกันแล้วไม่เข้าใจประวัติความเป็นมาของตัวละคร
16. ASHES (อภิวัฒน์ ภัทราลังการ, B )
17. B-SIDE PROJECT: MAE HAPPY AIR (ณิชมล
ขยันระงับพาล, documentary, A+15)
หนังสัมภาษณ์ดีเจสาวเลสเบียนที่หันมาเอาดีทางการเป็นครูสอนการเปิดแผ่นในช่วงโควิด
18. BANGKOK CHAIR HACKS: THE DOCUMENTARY (เมยานี
เตชอัมพร, documentary, A+30)
น่าจะเป็นหนึ่งในสารคดีไทยที่ชอบที่สุดในปีนี้ไปเลย ตอนแรกก็ทึ่งมาก ๆ
ที่ผู้กำกับหนังเรื่องนี้มีสายตาที่แหลมคม
สามารถสังเกตเห็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เราไม่เคยเห็นมันจริง ๆ
มาก่อน นั่นก็คือเก้าอี้นั่งตามท้องถนน และก็ทึ่งมาก ๆ ที่ผู้กำกับน่าจะ research หรือค้นหาข้อมูลหนักมาก
จนไปตามเก็บภาพเก้าอี้นั่งที่น่าสนใจหลาย ๆ แห่งมาได้
แต่ช่วงท้ายนี่ต้องกราบตีนของจริง เมื่อหนังสามารถโยงเรื่องเก้าอี้นั่งที่น่าสนใจเหล่านี้
เข้าไปสู่ปัญหาโครงสร้างสังคมที่หนักหนาสาหัสและร้ายแรงมาก ๆ ของประเทศไทยได้
เอาจริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้ก็พูดประเด็นใกล้เคียงกับ “โกงพลิกเกม” นะ
เรื่องการจ่ายส่วยเป็นทอด ๆ ที่ประชาชนตัวเล็ก ๆ คนธรรมดาในสังคม
ต้องคอยจ่ายเงินนอกกฎหมายไปให้ตัวเหี้ยที่อยู่ข้างบน แต่ชอบที่หนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า
ต่อให้เราไม่ได้ทำธุรกิจผิดกฎหมาย แต่เป็นคนธรรมดาเดินถนน
โครงสร้างสังคมที่เลวร้ายแบบนี้มันก็กระทบเรา ตำตาเราอยู่ตลอดเวลา
19.BECOMING HOME (ยศธร ไตรยศ, documentary, A+30)
หนังสัมภาษณ์กลุ่มคนไร้สัญชาติในไทย เนื้อหาของหนังดีมาก ๆ
และดูแล้วก็สะท้อนใจว่า เราเคยเห็นหนังแบบนี้มานานหลายปีแล้ว
แต่ปัญหาแบบนี้ก็ดูเหมือนยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเสียที
No comments:
Post a Comment