Friday, November 26, 2021

THAI FILMS SEEN IN MARATHON ONLINE FESTIVAL 2021 PART 2

 

THAI FILMS SEEN IN MARATHON ONLINE FESTIVAL 2021 PART 2

 

7. 2517 (สุริเยชินท์ สุริยะโชติกุล, A+30)

เข้าใจว่าผู้กำกับเป็นเด็กมัธยมจากขอนแก่น ชอบหนังอย่างสุด ๆ หนังเปิดเรื่องมาแบบหนังไซไฟย้อนเวลา แต่พอดูจบแล้วรู้สึกว่ามันคือหนังแนว Alain Resnais + Raoul Ruiz

 

8. 31วันหรรษาสารขัณฑ์ (ธนกฤต กฤษณยรรยง, animation, A+30)

จริง ๆ ดูแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ชอบ 555

 

9. 32 24 36 (กัลญาภรณ์ เทวรักษ์ธนา, A+15)

นึกว่าโรงเรียนในหนังเรื่องนี้ กับโรงเรียนใน BONNE EN ROUGE และ CONGRUITY CHANT (2019, Kanchanit Liengudom) อยู่ในจักรวาลเดียวกัน และเป็นโรงเรียนที่แข่งขันกันเอง 5555 บางทีในอนาคตอาจจะต้องมีการสร้างหนังที่ cross จักรวาลระหว่างหนัง 3 เรื่องนี้เข้าด้วยกัน

 

10. 4*6 (Parnupong Chaiyo, documentary, A+30)

หนังที่สัมภาษณ์พ่อกับแม่ของผู้กำกับเอง หนังทำออกมาได้น่ารักมาก ชอบการใช้ภาษาเหนือ และชอบที่มีการหากิจกรรรมให้วาดภาพระบายสี

 

11. ๘ นาฬิกาปกติใหม่ (ภัคชยศ จรัญชล, A+30)

เหมือนเห็นทั้งความสิ้นหวังและความหวังภายในเวลาเพียงแค่ 2 นาที ความสิ้นหวังคือกฎบ้า ๆ บอ ๆ ที่ให้นักเรียนเคารพธงชาติออนไลน์ และความหวังคือการที่นักเรียนคนหนึ่งชูสามนิ้วขณะเคารพธงชาติ

 

12. 82 YEARS (ชัชนภ ธีระพงษ์, A+25)

หนังสัมภาษณ์คนแก่ ที่มีการพูดเรื่องการฆ่าตัวตายด้วย เหมือนหนังเรื่องนี้ให้ sense ของหนังทดลองมากกว่าหนังสารคดี แต่เสียดายที่หนังสั้นเกินไป

 

13. A.K.A. นิรัช (อริศรา ทะฮาคาฮาชิ, ฤทธิเกียรติ นาคสาม, A+15)

พระหนุ่มอดีต rapper เจอกับพระเก่าประจำวัดที่น่าจะเป็นอดีต rapper เหมือนกัน

 

14. ABSOLUTELY (NOT) BRIGHT FUTURE (ทิว เลิศชัยประเสริฐ, A+30

)

ชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีด เหมือนหนังมันถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ในแบบที่ตรงใจเรามาก ๆ

 

15. APOGEE (ฌาณัชย์ สิทธิปรีดานันท์, พีรวิชญ์ ก้องกิจกุล, A)

ชอบที่หนังจินตนาการถึงกรุงเทพในโลกอนาคต ที่กรุงเทพเหมือนจมทะเลไปแล้วครึ่งเมือง (ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด) และตัวละครหมกมุ่นกับโครงการอวกาศ แต่เหมือนหนังเล่าไม่รู้เรื่อง เราฟังตัวละครคุยกันแล้วไม่เข้าใจประวัติความเป็นมาของตัวละคร

 

16. ASHES (อภิวัฒน์ ภัทราลังการ, B )

 

17. B-SIDE PROJECT: MAE HAPPY AIR (ณิชมล ขยันระงับพาล, documentary, A+15)

หนังสัมภาษณ์ดีเจสาวเลสเบียนที่หันมาเอาดีทางการเป็นครูสอนการเปิดแผ่นในช่วงโควิด

 

18. BANGKOK CHAIR HACKS: THE DOCUMENTARY (เมยานี เตชอัมพร, documentary, A+30)

น่าจะเป็นหนึ่งในสารคดีไทยที่ชอบที่สุดในปีนี้ไปเลย ตอนแรกก็ทึ่งมาก ๆ ที่ผู้กำกับหนังเรื่องนี้มีสายตาที่แหลมคม สามารถสังเกตเห็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เราไม่เคยเห็นมันจริง ๆ มาก่อน นั่นก็คือเก้าอี้นั่งตามท้องถนน และก็ทึ่งมาก ๆ ที่ผู้กำกับน่าจะ research หรือค้นหาข้อมูลหนักมาก จนไปตามเก็บภาพเก้าอี้นั่งที่น่าสนใจหลาย ๆ แห่งมาได้ แต่ช่วงท้ายนี่ต้องกราบตีนของจริง เมื่อหนังสามารถโยงเรื่องเก้าอี้นั่งที่น่าสนใจเหล่านี้ เข้าไปสู่ปัญหาโครงสร้างสังคมที่หนักหนาสาหัสและร้ายแรงมาก ๆ ของประเทศไทยได้

 

เอาจริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้ก็พูดประเด็นใกล้เคียงกับ “โกงพลิกเกม” นะ เรื่องการจ่ายส่วยเป็นทอด ๆ ที่ประชาชนตัวเล็ก ๆ คนธรรมดาในสังคม ต้องคอยจ่ายเงินนอกกฎหมายไปให้ตัวเหี้ยที่อยู่ข้างบน แต่ชอบที่หนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า ต่อให้เราไม่ได้ทำธุรกิจผิดกฎหมาย แต่เป็นคนธรรมดาเดินถนน โครงสร้างสังคมที่เลวร้ายแบบนี้มันก็กระทบเรา ตำตาเราอยู่ตลอดเวลา

 

19.BECOMING HOME (ยศธร ไตรยศ, documentary, A+30)

หนังสัมภาษณ์กลุ่มคนไร้สัญชาติในไทย เนื้อหาของหนังดีมาก ๆ และดูแล้วก็สะท้อนใจว่า เราเคยเห็นหนังแบบนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ปัญหาแบบนี้ก็ดูเหมือนยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเสียที

 

No comments: