THE GREEN KNIGHT (2021, David Lowery, Ireland, A+30)
1.ชอบสุด ๆ ขลังมาก ๆ อยากให้มีคนเอาการ์ตูนเรื่อง CRYSTAL DRAGON ของ Ashibe
Yuho มาดัดแปลงเป็นหนังที่ออกมาในสไตล์นี้ หรือไม่ก็มีคนเอานิทานพื้นบ้านต่าง
ๆ มาดัดแปลงเป็นหนังที่ออกมาในสไตล์นี้ คือไม่ต้องเน้นเนื้อเรื่อง
แต่เน้นบรรยากาศที่ลี้ลับอธิบายอะไรไม่ได้อีกต่อไป
2.รู้สึกว่าหนังมันมีบางอย่างที่ใกล้เคียงกับโลกในจินตนาการของเรา
เวลาที่เราฟังเพลงของ Clannad, Enya และ Loreena McKennitt
3.ถ้าเทียบกับหนังเกี่ยวกับอัศวินของฝรั่ง เราก็ชอบเรื่องนี้พอ ๆ กับ LANCELOT OF THE LAKE (1974, Robert
Bresson) นะ
4.สาเหตุที่เราชอบ THE GREEN KNIGHT มากกว่าหนังอัศวินเรื่องอื่น ๆ
คงเป็นเพราะว่าหนังเรื่องนี้มันให้ความสำคัญกับบรรยากาศของเวทมนตร์ลี้ลับ
มากกว่าการรบพุ่งบู๊กันของ “ผู้ชาย” น่ะ คือปกติแล้วเราจะมีปัญหากับหนังจักร ๆ
วงศ์ ๆ ของฝรั่ง เพราะหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ
ของฝรั่งมันจะเน้นการบู๊กันแบบค่อนข้างสมจริง
เพราะฉะนั้นมันเลยมีแต่ผู้ชายบู๊กันเป็นส่วนใหญ่ เราเลยไม่อิน
ซึ่งจะแตกต่างจากหนังจีนกำลังภายใน เพราะในหนังจีนกำลังภายในนั้น
มันไม่เน้นความสมจริง และผู้หญิงก็มีวิทยายุทธมากพอ ๆ กับผู้ชายได้
เพราะฉะนั้นเราก็เลยอินกับหนัง/ละครจีนกำลังภายในอย่างสุด ๆ
เพราะผู้หญิงในโลกของหนัง/ละครจีนกำลังภายใน มันบู๊เก่งกันสุดฤทธิ์
แต่เราจะไม่ค่อยเห็นผู้หญิงทำแบบนี้ในโลกของหนังอัศวิน, โลกของหนัง sword-and-sandal, โลกของ CONAN THE BARBARIAN หรือโลกของหนังซามูไร หรือถ้ามีผู้หญิงบู๊แบบ
XENA มันก็ไม่มันส์เท่า “เจ้าหญิงอนัตตา”
(กระบี่ไร้เทียมทาน), “เจ้าแม่วังผีเสื้อ” (อิทธิฤทธิ์เจ้ายุทธภพ), “เจ้าแม่วังน้ำทิพย์”
(ชอลิ้วเฮียง),”เจ้าแม่วังบุปผา” (เซียวฮื่อยี้), “ตงฟางปุ๊ป้าย”
(เดชคัมภีร์เทวดา), etc. ในหนังจีนกำลังภายในอยู่ดี
เพราะฉะนั้นพอ THE GREEN KNIGHT มันลดการบู๊กันแบบผู้ชายลง
และนำเสนอโลกของเวทมนตร์เป็นหลัก มันก็เลยเข้าทางเราอย่างสุด ๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังอัศวินเรื่องอื่นๆ
ของฝรั่ง
No comments:
Post a Comment