STATIONS OF THE CROSS (2014, Dietrich Brüggermann, Germany, A+30)
1.มีสิทธิติด top ten ประจำปี
2020 ไปเลย หนักหนามาก ชอบมากๆที่หนังทั้งเรื่องมีแค่ราว 15 ซีน
โดยที่แต่ละซีนจะยาวราว 5-10 นาที โดยไม่มีการตัดภาพเลยในแต่ละซีน ซึ่งวิธีการทำหนังแบบนี้เป็นวิธีการแบบที่เคยพบในหนังอย่าง
MATTHIAS KNEISSL (1971, Reinhard Hauff, West Germany) และ BEAUTY
AND THE DOGS (2017, Kaouther Ben Hania, Tunisia) ด้วยเช่นกัน
และมันเป็นวิธีที่ทำให้อารมณ์ในแต่ละซีนมัน intense มากๆ
2. ฉากที่น่าสนใจมากๆคือฉากที่นางเอกที่เป็นคนเคร่งศาสนามากๆมาสารภาพบาป
คือก่อนหน้านี้นางเอกไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด แล้วมีเด็กหนุ่มมาจีบเธอ
ทั้งสองพูดคุยกันจนสร้างความรำคาญให้ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดเดียวกัน
หลังจากนั้นนางเอกก็มาสารภาพบาปกับบาทหลวงในโบสถ์
เธอพูดถึงบาปต่างๆที่เธอทำ และรวมถึง “ความเงี่ยนในใจ” ที่เธอมีต่อเด็กหนุ่มคนนั้น
เหมือนเธอมองว่าความเงี่ยนผู้ชายเป็นบาปหนักมาก อะไรทำนองนี้
พอดูฉากนี้แล้วเราก็เลยรู้สึกอยากด่าอีนางเอกอย่างรุนแรง
คือเรามองตรงข้ามกับเธอ เพราะเรารู้สึกว่า ความเงี่ยนผู้ชายไม่ใช่บาปแต่อย่างใด
แต่สิ่งที่เรารับเธอไม่ได้เลยก็คือว่า “มึงไม่รู้สึกผิดเลยเหรอ
ที่ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นๆในห้องสมุดน่ะ อีห่า”
ทำไมมึงไม่สารภาพบาปเรื่องนี้ด้วยล่ะ
คือถ้านางเอกสารภาพบาป หรือรู้สึกผิดที่ “เธอส่งเสียงดังในห้องสมุด”
เราก็คงจะมอง “คนเคร่งศาสนา” ในแง่ดีมากยิ่งขึ้น
แต่เหมือนหนังเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่า คนเคร่งศาสนาแบบนางเอกนี่มันเหี้ยจริงๆ
คือมึงไปรู้สึกผิด รู้สึกบาป ในสิ่งที่มึงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ
(ความเงี่ยนผู้ชาย) แต่มึงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยใน “การสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ” (การส่งเสียงดังในห้องสมุด)
3.ดูแล้วนึกถึงหนังอีก 3 เรื่องที่น่าฉายควบกันมากๆ ซึ่งได้แก่
3.1 THÉRÈSE (1986, Alain Cavalier, France)
3.2 CAMINO (2008, Javier Fesser, Spain)
3.3 LOVE LIKE POISON (2010, Katell Quilévéré, France)
No comments:
Post a Comment