พอดู ฮาวทูทิ้ง แล้วก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า ฉากที่ชอบมากที่สุดฉากนึงในปีนี้ คือฉากที่พระเอกใน SOLARIS (1972, Andrei Tarkovsky) จัดการกับ วิญญานเมียเก่า/ความทรงจำถึงเมียเก่า ด้วยการหลอกเมียเก่าให้เข้าไปในยานอวกาศลำเล็กๆ แล้วถีบส่งยานลำนั้นออกไปสู่อวกาศ
แต่แน่นอนว่า การจัดการกับอดีต/ความทรงจำ ด้วยวิธีการแบบนี้ ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด 555
KNIVES OUT (2019, Rian Johnson, A+30)
Spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
ดูแล้วนึกถึง."บ้านทรายทอง" GOLDEN SAND HOUSE (2005, Chulayarnnon Siriphol) ที่ให้ "ชาวไทใหญ่" รับบท้ป็นพจมาน สว่างวงศ์
F11 AND BE THERE (2018, Jethro Waters, documentary, A+30)
--ช่วง Klu Klux Klan น่ากลัวมากๆ
-- ดูแล้วรู้สึกว่า Burk Uzzle เป็นตากล้องที้น่านับถือมากๆ
FORD V FERRARI (2019, James Mangold, A+30)
ดูแล้วเกลียด Ford และชอบ Ferrari
CAPERNAUM (2018, Nadine Labaki, Lebanon, A+30)
+ THE BEST OF ALL WORLDS (2017, Adrian Goiginger, Austria, A+30)
ตอนดู CAPERNAUM เราจะมีปัญหากับหนังนิดนึงในแง่ที่ว่า ทำไมคุณแม่ผิวดำถึงไม่กลัวลูกตัวน้อยๆของเธอจะตายบ้างเลยเหรอไง คือเธอถูกทางการจับตัวไป แต่แทนที่เธอจะบอกทางการว่าเธอมีลูกน้อยรออยู่ที่บ้าน เธอกลับไม่ยอมบอก เพราะเธอกลัวทางการจะมาพรากลูกเธอไป เธอคงคาดหวังว่าพระเอกซึ่งเป็นเด็กวัยแค่ราว 10-12 ขวบจะดูแลลูกให้เธอ แต่เรามองว่า แม่ที่คิดแบบนี้ไม่โง่ก็บ้าแน่ๆ เพราะถ้าหากเธอบอกทางการ ลูกเธอก็ "น่าจะมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ไม่ได้อยู่กับเธอ" แต่การที่เธอไม่บอกทางการ เท่ากับว่าเธอเสี่ยงให้ลูกเธอตาย มันเหมือนกับว่าเธอมองว่า "การได้อยู่กับลูก สำคัญกว่าการช่วยให้ลูกมีชีวิตรอด" ซึ่งเราสงสัยว่าเธอจัดลำดับความสำคัญผิดหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นตอนที่ดู CAPERNAUM เราจะสงสัยว่า หนังสร้างตัวละครแม่แบบนี้ขึ้นมา เพื่อจงใจหวังผลทาง drama หรือเปล่า ชีวิตพระเอกจะได้ลำบากสุดๆ คือชีวิตพระเอกลำบากอยู่แล้ว แต่ถ้าหากพระเอกต้องเลี้ยงดูเด็กทารกไปด้วย ชีวิตพระเอกจะได้บัดซบยิ่งขึ้นไปอีก
แต่พอเราได้ดู THE BEST OF ALL WORLDS เราก็ให้อภัย CAPERNAUM ได้ เพราะ THE BEST OF ALL WORLDS สร้างจากชีวิตจริงของผู้กำกับ ที่มีแม่ติดเฮโรอีนอย่างรุนแรง แต่แทนที่แม่จะยอมรับกับทางการออสเตรียตามความเป็นจริงว่า "กูติดเฮโรอีน กูเลี้ยงดูลูกไม่ได้" เธอกลับไม่บอก เธอยังดึงดันจะเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง และสร้างความชิบหายอย่างมากให้กับชีวิตลูกชายของตัวเอง
คือพอเราได้ดู THE BEST OF ALL WORLDS เราก็เลยเข้าใจว่า แม่แบบใน CAPERNAUM มีจริงๆ แม่แบบนี้คิดว่าตัวเองรักลูกจริงๆ แต่แม่แบบนี้ "อยากให้ลูกมีความสุข" จริงๆหรือเปล่า เราคงจะตอบคำถามนี้ไม่ได้
STRANGER IN PARADISE (2016, Guido Hendrikx, Netherlands, documentary, A+30)
1.มีสิทธิติด top ten ประจำปี นึกว่ากำกับโดย Prap Boonpan เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนัง political essay ที่ให้ subjects พูดคุยกันตลอดทั้งเรื่อง แต่สิ่งที่พูดคุยกันนั้นมันมาจากข้อมูลด้านสังคม/การเมือง/กฎหมายที่แน่นปึ้กสุดๆ มันก็เลยทำให้นึกถึงภาพยนตร์ของ Prap Boonpan มากๆ
2.ชอบโครงสร้างของหนังมากๆ หนังเหมือนแบ่งเป็น 5 ส่วน ซึ่งได้แก่
2.1 ประวัติการกำเนิดโลกและรัฐชาติ
2.2 การให้ผู้อพยพ ปะทะกับแนวคิดของชาวยุโรปขวาจัด หัวรุนแรง ช่วงนี้เดือดสุดๆๆ หนักมากๆๆ
2.3 การให้ผู้อพยพ ได้รับฟังความเห็นของฝ่ายเสรีนิยมในยุโรป ซึ่งช่วยหักล้างความเห็นใน 2.2
2.4 การจัดรายการเกมโชว์จำลองที่โหดร้ายมากๆ เพื่อให้ผู้อพยพราว 30 คน ฝ่าด่านการตอบคำถามต่างๆในรายการเกมโชว์นี้ ซึ่งจะเหมือนกับคำถามของ immigration officers จริงๆ และในที่สุดก็มีผู้อพยพเพียง 3 คนเท่านั้น ที่จะได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในช่วงท้าย
2.5 บันทึกภาพการพบปะและการสนทนาโดยบังเอิญ ระหว่างทีมงานหนังกับผู้อพยพ
3. Guido Hendrikx เคยกำกับหนังเรื่อง AMONG US (2014) ที่เป็นการสัมภาษณ์ pedophiles และเคยมาฉายที่ Reading Room
Wednesday, January 01, 2020
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment