WHEN MARNIE WAS THERE (2014, Hiromasa Yonebayashi, Japan,
animation, A+25)
SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
1.ชอบมากกว่า THE SECRET WORLD OF ARRIETTY
(2010, Hiromasa Yonebayashi, A-) มากๆ
เหมือนเรื่องนั้นเราดูแล้วเฉยมากๆ แต่เรื่องนี้ดูแล้วอินกว่าเยอะ
2.สาเหตุนึงที่ดูแล้วอิน
อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงต้นเรื่องมันออกไปในแนวจินตวีร์ วิวัธน์น่ะ 555
ซึ่งมันเป็นแนวที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก
เราก็เลยจูนตัวเองเข้ากับหนังได้ง่ายตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง
ที่เราว่าช่วงต้นเรื่องมันเหมือนนิยายของจินตวีร์ วิวัธน์ก็คือว่า นิยายของจินตวีร์
มันมักจะเปิดเรื่องด้วยหญิงสาวธรรมดาคนนึงในเมืองใหญ่ที่อาจจะใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยว
แล้วก็มีเหตุให้ต้องจับพลัดจับผลูไปทำงานในคฤหาสน์ใหญ่แบบโกธิคในชนบท
แล้วคฤหาสน์นั้นก็ต้องมีบรรยากาศเร้นลับ มีตำนาน มีเรื่องเล่าผีๆสางๆ
แล้วบริเวณใกล้ๆคฤหาสน์นั้นก็ต้องมีสถานที่ลึกลับอยู่ด้วยอีก 1-3 แห่ง
ช่วงต้นเรื่องของ WHEN MARNIE WAS THERE มันมีความใกล้เคียงกับอะไรแบบนี้มากๆ
เราก็เลยชอบมาก และจริงๆแล้วนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราชอบหนังเรื่อง THE
WOMAN IN BLACK 2: ANGEL OF DEATH (2014, Tom Harper, A+30) อย่างสุดๆด้วย
เพราะมันก็เป็นแนวจินตวีร์เหมือนกัน แต่ THE WOMAN IN BLACK 2 เป็นแนวจินตวีร์ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ในขณะที่ WHEN
MARNIE WAS THERE จะทำให้เรานึกถึงจินตวีร์แค่ช่วงต้นเรื่องเท่านั้น
เพราะ “สิ่งเหนือธรรมชาติ” ใน WHEN MARNIE WAS THERE มันเป็นมิตรกับนางเอก
ไม่ได้เป็นศัตรูกับนางเอกแบบในนิยายของจินตวีร์
3.จุดนึงที่ทำให้เราชอบ WHEN MARNIE WAS THERE กับ
THE WOMAN IN BLACK 2: ANGEL OF DEATH อย่างสุดๆ ก็คือเรารู้สึกว่า
หนังทั้งสองเรื่องนี้มันถ่ายทอด “บรรยากาศ” ได้ดีสุดๆน่ะ ทั้งบรรยากาศ “หลอนๆแบบเป็นมิตร”
ใน WHEN MARNIE WAS THERE และ “หลอนๆแบบไม่เป็นมิตร” ใน
THE WOMAN IN BLACK 2
4.ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจริงๆแล้วเหตุการณ์ต่างๆใน WHEN
MARNIE WAS THERE มันเป็นอะไรกันแน่ ระหว่างนางเอกหลอนไปเอง,
นางเอกถอดจิตย้อนเวลากลับไปในอดีต, นางเอกเจอผี
แต่ยังไงเราก็ชอบหนังเรื่องนี้มากๆน่ะ เราอยากจัดให้มันเข้าไปอยู่ในกลุ่ม “หนังเหนือธรรมชาติแบบเป็นมิตร”
ซึ่งเป็นหนังที่ตัวละครเอกมักจะเจอผีหรือเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ค่อนข้างเป็นมิตร
ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตพระเอกหรือนางเอกมากนัก
โดยหนังในกลุ่มนี้ที่เราชอบมากๆก็มีเช่นเรื่อง
4.1 CELINE AND JULIE GO BOATING (1974, Jacques Rivette)
4.2 FIELD OF DREAMS (1989, Phil Alden Robinson)
4.3 ONE DAY (2010, Hou Chi-jan)
5.อีกจุดที่ชอบมากก็คือการที่เราว่าจริงๆแล้วหนังเรื่องนี้แรง
แต่ทำตัวคิกขุอาโนเนะใสๆเพื่อกลบความแรงของตัวเอง คือเราว่ามันเหมือนจะเป็นทั้งหนังเลสเบียน
และหนัง incest ระหว่างยายกับหลานสาวน่ะ
แต่มันสามารถทำตัวใสๆเพื่อทำให้ตัวเองดูไม่แรงได้
ลักษณะแบบนี้ทำให้เรานึกถึงหนัง musical เหมือนกันนะ
นักวิจารณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่าหนัง musical หลายเรื่องชอบทำตัวสดใสร่าเริงเรท
PG แต่จริงๆแล้วเนื้อหามันแรงมากน่ะ อย่างเช่น SEVEN
BRIDES FOR SEVEN BROTHERS ที่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของการข่มขืน
และ GIGI ที่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของโสเภณีเด็ก
แต่หน้าหนังมันดูสดใส ไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย
สรุปว่าชอบบรรยากาศของ WHEN MARNIE WAS THERE มากๆ ชอบโลกเหนือธรรมชาติแบบเป็นมิตรในหนังเรื่องนี้
และชอบความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ในหนังเรื่องนี้ด้วย
No comments:
Post a Comment