Wednesday, August 19, 2015

SONG FROM YESTERDAY

SONG FROM YESTERDAY (2015, A+) 
ความรู้สึกที่มีต่อส่วนต่างๆในหนังเรื่องนี้

1.LET’S GO (นลินี หนุนภักดี) 
สั้นไปจนไม่ทันจะรู้สึกอะไร

2.CLOUDLESS (นภสร ลิ้มไชยาวัฒน์, A+15) 
หนังของนภสรมักจะมีโทนน่ารักสดใสเกินไปสำหรับคนที่ชอบหนัง feel bad แบบเรา (ยกเว้นหนังเรื่อง มะอ่องเส็ง”) และหนังเรื่องนี้ก็เหมือนกัน แต่คุณพ่อลูกอ่อนในหนังเรื่องนี้น่ารักมากๆเลย เราก็เลยอิจฉาคุณแม่ในหนังเรื่องนี้มากๆ

3.HAND IN HAND (ศิรชัย อรุณรักษ์ติชัย + Kevin Vivis Visithsiri)
สั้นไปจนไม่ทันจะรู้สึกอะไร

4.MOIST (Pass Patthanakumjon, A+25)
ชอบไอเดียไซไฟในหนังเรื่องนี้มากๆ แต่เรายอมรับว่าเรา visualize สิ่งต่างๆที่หนังเรื่องนี้พูดถึงในหัวของเราไม่ทันน่ะ หรือเราคิดภาพในหัวของเราตามหนังเรื่องนี้ไม่ทันน่ะ เราก็เลยยังไม่ได้ชอบหนังเรื่องนี้แบบสุดๆ แต่หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีศักยภาพสูงมากสำหรับการพัฒนาเป็นหนังยาว

5.SONG FROM YESTERDAY (Thitipat Rotchanakorn + Tanadol Sutawong, A+30)
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ทหารเกณฑ์ในหนังเรื่องนี้น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนังเลือก subject ได้ดีงามมากค่ะ ติดอยู่นิดเดียวตรงที่เขามีลูกมีเมียแล้ว 555 จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้เหมาะฉายควบกับ HOW TO WIN AT CHECKERS (EVERY TIME) มากๆ เพื่อแสดงให้เห็นชีวิตทหารเกณฑ์หนุ่มหล่อแบบไม่ romanticize

6.WEALTHY DAY (Patchara Eiamtrakul, A+10)
ชอบภาพเพนกวินที่เดินตัวเดียว มันทำให้รู้สึกอ้างว้างมากๆ

7.VISIT (Seree Lachonnabot, A+15)
ถ่ายสวยมาก ไอเดียก็น่าสนใจดี แต่เราไม่ค่อยชอบการนำเสนอภาพความขัดแย้งระหว่างเมืองกับชนบทในแบบนี้มากนักน่ะ คือความขัดแย้งแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เราเหมือนเห็นในหนังหลายๆเรื่องมาแล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องอื่นๆมันไม่ได้ใช้วิธีการนำเสนอด้วยการ installation กระจกแบบนี้เท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายของหนังที่มีเสียงเจ้าของกองฟางแทรกเข้ามา เป็นสิ่งที่ดีงามมาก มันเหมือนเป็น ความจริงที่เรียบง่ายที่แทรกเข้ามาใน ความพยายามจะทำให้ชนบทดูสวยงามจนเกินจริงน่ะ

8. BANGKOK 2012 (Chulayarnnon Siriphol, A+10)
สวยงามมาก แต่ดูรอบเดียวแล้วไม่แน่ใจว่ามันมีอะไรแทรกอยู่ท่ามกลางความสวยงามในหนังเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ชอบการเล่นกับ ฟิล์มเก่าๆแบบในหนังเรื่องนี้

9.EMPTY (Chantana Tiprachart, A+15)
อยากให้ขยายออกมาเป็นหนังยาว แบบกลุ่มหนุ่มสาวพร่ำรำพันถึงชีวิตและความรักอันเจ็บปวดของตัวเอง ในทำนองเดียวกับหนังกลุ่ม post new wave ของฝรั่งเศส อย่างเช่นเรื่อง THE MOTHER AND THE WHORE (1973, Jean Eustache, 210min, A+30)

10.RAKHINE TO BANGKOK (Tossapol Boonsinsukh, A+10)
สั้นไป แต่ก็รู้สึกว่าทศพลยังคงมีไอเดียเก๋ไก๋และน่าจดจำเหมือนเดิม

11.INDIAN (Abhichon Ratanabhayon, A+30)
ตรึงตาตรึงใจมากๆกับการถ่ายถนนราชดำเนินจากมุมสูงแบบนี

12.HAPPINESS (Wachara Kanha, A+30)

13.PEACEFUL (Kittipat Knoknark, A+5)

14.PLAYGROUND (Chakorn Chaiprecha, A-)
ภาพสวยมาก ไอเดียก็ดี เรื่องการใช้ภาพนิ่ง แล้วค่อยกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ชอบมองผู้หญิงสวยๆเท่านั้นเอง 555 อันนี้เป็นเรื่องของรสนิยมทางเพศของผู้ชมแต่ละคนจริงๆจ้ะ


No comments: