SONG FROM YESTERDAY (2015, A+)
ความรู้สึกที่มีต่อส่วนต่าง ๆในหนังเรื่องนี้
1.LET’S GO (นลินี หนุนภักดี)
สั้นไปจนไม่ทันจะรู้สึกอะไร
2.CLOUDLESS (นภสร ลิ้มไชยาวัฒน์, A+15)
หนังของนภสรมักจะมีโทนน่ารั กสดใสเกินไปสำหรับคนที่ชอบห นัง
feel bad แบบเรา (ยกเว้นหนังเรื่อง “มะอ่องเส็ง”)
และหนังเรื่องนี้ก็เหมือนกั น แต่คุณพ่อลูกอ่อนในหนังเรื่ องนี้น่ารักมากๆเลย
เราก็เลยอิจฉาคุณแม่ในหนังเ รื่องนี้มากๆ
3.HAND IN HAND (ศิรชัย อรุณรักษ์ติชัย + Kevin Vivis Visithsiri)
สั้นไปจนไม่ทันจะรู้สึกอะไร
4.MOIST (Pass Patthanakumjon, A+25)
ชอบไอเดียไซไฟในหนังเรื่องน ี้มากๆ
แต่เรายอมรับว่าเรา visualize สิ่งต่างๆที่หนังเรื่องนี้พ ูดถึงในหัวของเราไม่ทันน่ะ
หรือเราคิดภาพในหัวของเราตา มหนังเรื่องนี้ไม่ทันน่ะ
เราก็เลยยังไม่ได้ชอบหนังเร ื่องนี้แบบสุดๆ แต่หนังเรื่องนี้เป็นหนังที ่มีศักยภาพสูงมากสำหรับการพ ัฒนาเป็นหนังยาว
5.SONG FROM YESTERDAY (Thitipat Rotchanakorn + Tanadol Sutawong, A+30)
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดด
ทหารเกณฑ์ในหนังเรื่องนี้น่ ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนังเลือก subject
ได้ดีงามมากค่ะ ติดอยู่นิดเดียวตรงที่เขามี ลูกมีเมียแล้ว 555
จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้เหมา ะฉายควบกับ HOW TO WIN AT
CHECKERS (EVERY TIME) มากๆ เพื่อแสดงให้เห็นชีวิตทหารเ กณฑ์หนุ่มหล่อแบบไม่
romanticize
6.WEALTHY DAY (Patchara Eiamtrakul, A+10)
ชอบภาพเพนกวินที่เดินตัวเดี ยว
มันทำให้รู้สึกอ้างว้างมากๆ
7.VISIT (Seree Lachonnabot, A+15)
ถ่ายสวยมาก ไอเดียก็น่าสนใจดี แต่เราไม่ค่อยชอบการนำเสนอภ าพความขัดแย้งระหว่างเมืองก ับชนบทในแบบนี้มากนักน่ะ
คือความขัดแย้งแบบนี้มันเป็ นสิ่งที่เราเหมือนเห็นในหนั งหลายๆเรื่องมาแล้ว
เพียงแต่ว่าเรื่องอื่นๆมันไ ม่ได้ใช้วิธีการนำเสนอด้วยก าร installation
กระจกแบบนี้เท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายของหนังที่มีเสียงเ จ้าของกองฟางแทรกเข้ามา
เป็นสิ่งที่ดีงามมาก มันเหมือนเป็น “ความจริงที่เรียบง่าย”
ที่แทรกเข้ามาใน “ความพยายามจะทำให้ชนบทดูสว ยงามจนเกินจริง”
น่ะ
8. BANGKOK 2012 (Chulayarnnon Siriphol, A+10)
สวยงามมาก แต่ดูรอบเดียวแล้วไม่แน่ใจว ่ามันมีอะไรแทรกอยู่ท่ามกลา งความสวยงามในหนังเรื่องนี้ ด้วยหรือเปล่า
ชอบการเล่นกับ “ฟิล์มเก่าๆ” แบบในหนังเรื่องนี้
9.EMPTY (Chantana Tiprachart, A+15)
อยากให้ขยายออกมาเป็นหนังยา ว
แบบกลุ่มหนุ่มสาวพร่ำรำพันถ ึงชีวิตและความรักอันเจ็บปว ดของตัวเอง
ในทำนองเดียวกับหนังกลุ่ม post new wave ของฝรั่งเศส
อย่างเช่นเรื่อง THE MOTHER AND THE WHORE (1973, Jean Eustache, 210min,
A+30)
10.RAKHINE TO BANGKOK (Tossapol Boonsinsukh, A+10)
สั้นไป แต่ก็รู้สึกว่าทศพลยังคงมีไ อเดียเก๋ไก๋และน่าจดจำเหมือ นเดิม
11.INDIAN (Abhichon Ratanabhayon, A+30)
ตรึงตาตรึงใจมากๆกับการถ่าย ถนนราชดำเนินจากมุมสูงแบบนี ้
12.HAPPINESS (Wachara Kanha, A+30)
13.PEACEFUL (Kittipat Knoknark, A+5)
14.PLAYGROUND (Chakorn Chaiprecha, A-)
ภาพสวยมาก ไอเดียก็ดี เรื่องการใช้ภาพนิ่ง แล้วค่อยกลายเป็นภาพเคลื่อน ไหว
เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ชอบมอง ผู้หญิงสวยๆเท่านั้นเอง 555 อันนี้เป็นเรื่องของรสนิยมท างเพศของผู้ชมแต่ละคนจริงๆจ ้ะ
ความรู้สึกที่มีต่อส่วนต่าง
1.LET’S GO (นลินี หนุนภักดี)
สั้นไปจนไม่ทันจะรู้สึกอะไร
2.CLOUDLESS (นภสร ลิ้มไชยาวัฒน์, A+15)
หนังของนภสรมักจะมีโทนน่ารั
3.HAND IN HAND (ศิรชัย อรุณรักษ์ติชัย + Kevin Vivis Visithsiri)
สั้นไปจนไม่ทันจะรู้สึกอะไร
4.MOIST (Pass Patthanakumjon, A+25)
ชอบไอเดียไซไฟในหนังเรื่องน
5.SONG FROM YESTERDAY (Thitipat Rotchanakorn + Tanadol Sutawong, A+30)
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
6.WEALTHY DAY (Patchara Eiamtrakul, A+10)
ชอบภาพเพนกวินที่เดินตัวเดี
7.VISIT (Seree Lachonnabot, A+15)
ถ่ายสวยมาก ไอเดียก็น่าสนใจดี แต่เราไม่ค่อยชอบการนำเสนอภ
8. BANGKOK 2012 (Chulayarnnon Siriphol, A+10)
สวยงามมาก แต่ดูรอบเดียวแล้วไม่แน่ใจว
9.EMPTY (Chantana Tiprachart, A+15)
อยากให้ขยายออกมาเป็นหนังยา
10.RAKHINE TO BANGKOK (Tossapol Boonsinsukh, A+10)
สั้นไป แต่ก็รู้สึกว่าทศพลยังคงมีไ
11.INDIAN (Abhichon Ratanabhayon, A+30)
ตรึงตาตรึงใจมากๆกับการถ่าย
12.HAPPINESS (Wachara Kanha, A+30)
13.PEACEFUL (Kittipat Knoknark, A+5)
14.PLAYGROUND (Chakorn Chaiprecha, A-)
ภาพสวยมาก ไอเดียก็ดี เรื่องการใช้ภาพนิ่ง แล้วค่อยกลายเป็นภาพเคลื่อน
No comments:
Post a Comment