Saturday, August 22, 2015

Wasan Reawklang’s retrospective program:

Films seen on Thursday, August 20, 2015
Wasan Reawklang’s retrospective program:
1.SITTING MAN (2007, Wasan Reawklang, A+30)
2.วันหยุดสุดสัปดาห์ (2003, อานนท์ จันทร์โท, A+25)
3.LOTUS (Wasan Reawklang, animation, A+15)
4.KARADIG (2002, อานนท์ จันทร์โท, A+5)
5.FULL STOP (2003, Wasan Reawklang, A+5)
6.HAPPINESS (2005, Wasan Reawklang, A+)
7.THE TREE (2002, Wasan Reawklang, A+)
8.อรุณสวัสดิ์ (2003, Wasan Reawklang, A+)
9.ทิวา (2002, Wasan Reawklang, หลับ)
10.ราตรีกาล (2003, Wasan Reawklang, หลับ)

OUT OF PLACE 2 PROGRAM:
1.THE LAND OF SMILES (2015, Heikki Häkkinen, Finland, documentary, A+30)
2.BLOODY GOOD HEADLINE (2014, Tom Burke + Paul Quinn, Ireland, documentary, A+25)
3.CITIZEN DAY (2014, Basile Doganis, France, A+25)
4.UNDER YOUR FINGERS (2014, Marie-Christine Courtès, France, animation, A+20)

--จำได้ว่าเคยดู THE TREE เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้วไม่ชอบ มาดูอีกทีก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจดี แต่ก็ไม่ใช่แนวที่ตัวเองชอบเป็นการส่วนตัวอยู่ดี ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 

--แต่หนังที่เราดูแล้วรู้สึกถูกโฉลกในทันทีคือหนังประเภท วันหยุดสุดสัปดาห์เพราะมันดูเหมือนเป็นการเล่นสนุกของเพื่อนสองคนไปเรื่อยๆโดยไม่มีเนื้อหาสาระหนักอึ้งอะไร

--ตัวเอกในหนังสารคดี THE LAND OF SMILES เหมือนเป็นคนที่ กู่ไม่กลับจริงๆ นึกไม่ถึงว่าคนเราจะทำร้ายตัวเองได้ถึงขั้นนี้ จากชายหนุ่มที่หล่อเหลา กลายเป็นซากชีวิตเพราะการกินเหล้า พอเราได้เห็นคนจริงๆที่ทำร้ายตัวเองได้ถึงขั้นนี้ทำให้เรานึกถึงตัวละครหญิงโสเภณีในหนังเรื่อง GOD’S OFFICES (2008, Claire Simon, A+30) ที่ทำแท้งครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งเราเชื่อว่าตัวละครหญิงโสเภณีในหนังเรื่องนั้นก็มีที่มาจากบุคคลที่มีตัวตนจริง เราว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนที่น่าสนใจดีในแง่ที่ว่า พวกเขาใช้ชีวิตในแบบที่ตรงกันข้ามกับหลักเหตุผลอย่างสิ้นเชิง และบางทีเราก็ไม่ควรให้ความช่วยเหลือเขามากจนเกินไป เพราะพวกเขาไม่เคยเรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดในชีวิตของตนเองเลย

--BLOODY GOOD HEADLINE ทำให้เราได้รู้ว่า คนขายหนังสือพิมพ์ตามสี่แยกในไอร์แลนด์นี่ หลายๆคนเป็นหนุ่มฉกรรจ์ที่มีรูปร่างหน้าตาน่ากินมากๆ 555เราชอบมากๆที่หนังเรื่องนี้สำรวจผลกระทบทางจิตใจที่พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์มีผลต่อคนขายหนังสือพิมพ์ด้วย และโดยรวมๆแล้วหนังสารคดีเรื่องนี้ดูแล้วเศร้ามาก ดูแล้วจะนึกถึงหนังสารคดีเรื่อง THE HOUSEWIFE’S FLOWERS (1999, Dominik Wessely, Germany, A+30) ที่สัมภาษณ์เซลส์แมนหนุ่มๆในเยอรมนี เพราะหนังทั้งสองเรื่องล้วนแสดงให้เห็นว่า ชายหนุ่มเหล่านี้ต้องทนทำงานหนักไปเรื่อยๆเพียงเพื่อที่จะได้มีเงินพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองไปวันๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ชีวิตของหนุ่มๆเหล่านี้จะได้มีวันที่สดใสกับเขาสักที


--CITIZEN DAY ดูแล้วนึกถึง LA HAINE (1995, Mathieu Kassovitz) มากๆ คือหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีประเด็นอะไรใหม่ไปจากหนังฝรั่งเศสหลายๆเรื่องที่นำเสนอปัญหาสังคม/ชนกลุ่มน้อยเหมือนกัน อย่างเช่นพวกหนังที่กำกับโดย Rabah Ameur-Zaïmeche แต่เราเป็นคนที่ถูกโฉลกกับหนังที่ออกมาในโทนนี้น่ะ นั่นก็คือโทนที่ค่อนข้างกราดเกรี้ยว และตัวละครเหมือนกับบ่มเพาะความคั่งแค้นที่ตนเองได้รับจากสังคมเอาไว้มานานแล้ว

No comments: