PAST (2016, NITEDTUNCLUB, stage play, A-)
1.รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ตรงข้ามกับ DEAR ANGEL
(2015, Ninart Boonpothong, A+/A) ในแง่ที่ว่า DEAR ANGEL นั้นมีจุดเด่นที่บทละครอันซับซ้อนและไม่ธรรมดาตามสไตล์ของนินาท แต่ DEAR
ANGEL มีจุดด้อยที่การแสดงของเด็กมัธยม
แต่ใน PAST นั้น จุดด้อยคือบทที่เราเดาว่าคงเป็นเด็กมัธยมแต่งกันเอง
บทก็เลยไม่ซับซ้อน และอาจจะน่าเบื่อสำหรับผู้ชมวัย 42 ปีอย่างเราที่ไม่อินกับเรื่องราวอะไรทำนองนี้แล้ว
แต่แน่นอนว่าเราย่อมไม่ใช่ผู้ชมกลุ่มเป้าหมายหลักของละครเวทีเรื่องนี้อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นผู้ชมกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งได้แก่เด็กๆมัธยมด้วยกันเอง น่าจะเป็นผู้ตอบคำถามได้ดีกว่าว่า
ละครเวทีเรื่องนี้สนุกและดูแล้วอินหรือไม่
อย่างไรก็ดี จุดเด่นของ PAST คือการแสดงของเด็กมัธยม
เราว่าพวกเขาแสดงได้ “มีเสน่ห์” น่ะ คือไม่ใช่แสดง “ดี” หรือแสดง “เก่ง”
แบบนักแสดงมืออาชีพนะ
แต่เรารู้สึกว่าปัจจัยหลักที่ทำให้เราดูละครเรื่องนี้แล้วรู้สึกเพลิดเพลิน
คือเสน่ห์ของนักแสดง ซึ่งไม่ได้เกิดจากความสวยหล่อหน้าตาดี
แต่เราเดาว่ามันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่เกร็งหรือเครียดกับการแสดงมากเกินไปแบบนักแสดงในเรื่อง
DEAR ANGEL ก็ได้ อันนี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
คือเราเดาว่า เนื่องจากบทของ DEAR ANGEL มันซับซ้อนมาก
และมันเป็นบทของเทวดาที่มีการหักหลังพลิกแพลงตลบแตลงไปมา
นักแสดงซึ่งเป็นเด็กมัธยมอาจจะเครียด
และอาจจะพยายามแสดงให้สมบทบาทกับตัวละครที่ห่างไกลจากตัวพวกเขาเองในชีวิตจริง
การแสดงของพวกเขาก็เลยขาดเสน่ห์อะไรบางอย่างไป
แต่ใน PAST นั้น เนื่องจากบทไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย และแต่ละตัวละครที่พวกเขาแสดงก็ไม่ได้ห่างไกลจากชีวิตจริงของพวกเขามากเท่าไหร่
มันก็เลยอาจจะส่งผลให้พวกเขาไม่ต้องเครียดกับการแสดงมากนัก
และมันก่อให้เกิดเสน่ห์แบบแปลกๆขึ้นมา
คือเราเดาว่าการที่พวกเขาเหมือนไม่ได้เป็นตัวละคร 100% เต็ม
แต่เป็นตัวละครเพียงแค่ 75% และเป็นตัวเอง 25% เราว่ามันก่อให้เกิดเสน่ห์แบบแปลกๆที่น่าสนใจน่ะ
กรณีแบบนี้ทำให้นึกถึงหนังฝรั่งเศสนะ
คือหนังฝรั่งเศสมันจะมีบางเรื่องที่เป็นการแสดงแบบ traditional ไปเลย
นักแสดงสวมบทบาทเป็นตัวละคร 100% เต็มไปเลยแบบที่เราพบได้ในหนังฮอลลีวู้ดโดยทั่วไป
แต่มันมีหนังฝรั่งเศสหลายเรื่องที่มันออกมาดีมากๆ โดยไม่ได้ต้องการความ “สมจริง”
จากนักแสดงมากนัก อย่างเช่นหนังของ Jacques Rivette ที่มักให้นักแสดงร่วมแต่งบทภาพยนตร์ด้วย
และมันส่งผลให้หนังของเขาออกมามางดงามและมีเสน่ห์เป็นตัวของตัวเองมาก
เพราะตัวละครบางตัวมันซ้อนทับกับจินตนาการของตัวนักแสดงคนนั้นเองจริงๆ, หนังของ Marguerite
Duras ที่มักทำให้นักแสดง “เสียสมาธิ” ในระหว่างการแสดง
เพื่อให้เกิด “ช่องว่าง” บางอย่างระหว่างนักแสดงกับตัวละคร
แต่ผลที่ออกมากลับทำให้หนังของเธอหลอนสุดๆ หรือหนังของ Robert Bresson ที่พยายามทำให้นักแสดงแสดงให้ “แข็งกระโด๊ก” ที่สุด
เพื่อผลทางปรัชญาบางอย่าง
สรุปว่า เราก็เลยเพลิดเพลินกับ PAST ในระดับนึง
เพราะถึงเราจะเบื่อๆกับเนื้อเรื่อง แต่เราว่านักแสดงเล่นได้มีเสน่ห์ดี
2.ถึงแม้เราจะเบื่อๆกับช่วงต้นเรื่องเล็กน้อย
แต่เราว่าช่วงท้ายที่เป็นเรื่องหญิง,ชาย, กะเทย กับเลสเบียนออกมาดีมากๆเลยนะ
คือเราว่าเนื้อเรื่องช่วงนี้ โอเค น่ารักมาก และเราว่านักแสดงเล่นได้มีเสน่ห์มากๆในช่วงนี้ด้วย
มันเหมือนกับว่า ช่วงต้นๆเรื่อง เครื่องยังไม่ติดน่ะ
เหมือนกับว่าพลังทางการแสดงยังไม่เปล่งออกมาเต็มที่
หรือนักแสดงยังเข้าขากันไม่ได้เต็มที่ ยังรับส่งอารมณ์กันไม่ลงตัว
แต่เครื่องพึ่งมาติด ตอนท้ายๆเรื่องแล้ว
เราเดาว่า มันอาจจะเป็นเพราะการแสดงรอบแรกด้วยแหละ
มันเลยเกิดอาการเครื่องติดช้า ถ้าหากพวกเขาได้แสดงหลายๆรอบ เครื่องมันอาจจะติดเร็ว
หรือนักแสดงอาจจะเข้าขากันได้เร็วตั้งแต่ช่วงต้นเรื่องก็ได้
No comments:
Post a Comment