Sunday, July 19, 2015

MY DIARY: 3811316 (Pailin Chainakul, A+30)

THE WEDDING OF PROUD (2015, Janenarong Sirimaha, A+30) เป็นภาคสามต่อจาก “เรื่องน้ำเน่าของแพรว” (2008) และ “เรื่องน้ำเน่าของพลอย” (2011) โดยในภาคนี้ทั้งแพรวและพลอยจะมาเจอกัน หนังมีส่วนที่พิศวงมากๆในช่วงท้ายเรื่อง เพราะเราจะงงมากๆว่าช่วงครึ่งหลังของหนังมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พอหนังจบเราเลยต้องออกมาคุยกับเพื่อนๆหลายคนเพื่อช่วยกันวิเคราะห์ว่าตกลงมันเกิดเหตุการณ์อะไรในหนัง

เราชอบช่วงกลางเรื่องมากที่สุด เรารู้สึกเจ็บปวดมากๆกับเนื้อหาตรงช่วงกลางเรื่องที่นางเอกต้อง “สร้างเพื่อนชายในจินตนาการ” ขึ้นมาอีกครั้ง เราเข้าใจความรู้สึกของนางเอกตรงจุดนั้นดี ความรู้สึกของคนที่ผิดหวังกับชีวิตจริง พยายามหาผัวที่ดีในชีวิตจริง แต่ไม่สำเร็จ และในที่สุดก็ต้องยอมรับว่า อาจจะมีเพียงแค่โลกจินตนาการเท่านั้นที่จะช่วยปลอบประโลมจิตใจเราได้

รู้สึกเป็นเกียรติมากๆที่เรา, ฟิล์มซิค กับเมอฤดีได้ร่วมปรากฏตัวหรือเสียงโดยไม่รู้ตัวในหนังเรื่องนี้ด้วย 55555

ชอบ “จริต” (2015, พงพัฒน์ กิตติรงค์, A+25) มากๆตรงที่มันจิกกัดพวกที่สวมชุดไทยเพื่อเอาหน้า, พวกที่ชอบสร้างภาพ, พวกที่ชอบด่าคนในเน็ตโดยไม่รู้เรื่องจริง และพล็อตตรงจุดนึงของเรื่องที่ทำให้นึกถึง L’ARGENT (1983, Robert Bresson) จัดว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่สะท้อนผู้หญิงในโลกอินเทอร์เน็ตได้ดีมากเหมือนกับหนังเรื่อง MS. NARCISSUS (ชนะชัย แสงจันทร์), NICE SHOP (สิวาพรรณ สวนงาม) และ WISH (ขวัญแก้ว จันทร์พวง)

THE YOUNG MAN WHO CAME FROM THE CHEE RIVER (2015, Wichanon Somumjarn, A+30) ซึ้งมากๆ ชอบหนังมากๆในหลายๆจุด ทั้งการที่ตัวละครทำอาชีพทวงหนี้, การแสดงให้เห็น dilemma ในใจอย่างรุนแรงของพระเอกที่ประกอบอาชีพนี้ และฉากที่ถ่ายแสงจ้าอย่างรุนแรงจนแทบไม่เห็นตัวคน ซึ่งเรามองว่ามันสะท้อนความร้อนจนไหม้เกรียมของ “สภาพชีวิต” ก่อนที่ตัวละครจะต้องไปหาสถานที่ที่ให้ “ความร่มเย็นทั้งกายและใจ” ในตอนจบ

MY DIARY: 3811316 (ไพลิน ชัยนะกุล, A+30) ซึ้งมากๆ และน่าสนใจดีที่ปีนี้มีหนังลาดกระบังที่เราชอบสุดๆเยอะมาก ทั้งเรื่องนี้, DOGMATIST (ปฏิพล ทีฆายุวัฒน์), OUR LAST DAY (Rujipas Boonprakong), EM-TRAP (Pruksathip Sawantrat) และ BLACK-WHITE (Jaturont Jatewiriyanont)

ส่วน I PROMISE TO SEE YOU AGAIN (Anan Chukvarmdee, A-) เป็นหนังที่น่ารักมากๆ แต่โชคร้ายที่หนังเรื่องนี้ฉายในเทศกาลนี้ในวันนี้ เพราะปีนี้มีหนังในเทศกาลนี้ที่เกี่ยวกับ “เด็กสาวสองคน” และเกี่ยวกับ “เพื่อนในจินตนาการ/เพื่อนที่ตายไปแล้ว” เยอะมากๆๆ คือถ้าหากเราได้ดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาลนี้ในวันแรกๆ เราอาจจะชอบหนังเรื่องนี้มากขึ้นก็ได้ แต่พอมันมาฉายในวันหลังๆ แล้วมันไม่มีอะไรที่โดดเด่นหรือแตกต่างจากหนังกลุ่มเดียวกันมากนัก อารมณ์ของเราก็เลยไม่ค่อยพีคกับหนังเรื่องนี้เท่าไหร่จ้ะ แต่ชอบช่วงแรกๆของหนังมากนะ แต่พอมันจบแบบนั้น มันก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้มันคล้ายกับหนังเรื่องอื่นๆค่อนข้างมากจ้ะ


CHEMO MOM (Chinavorn Nongyao, A+30) รุนแรงมากๆ น่าเสียดายที่ส่วนที่เป็นบทสัมภาษณ์คุณป้า เสียงของคุณป้าฟังแทบไม่ได้ยินเลย แต่ช่วงหลังของหนังเจ็บปวดมากๆ

No comments: