Thursday, December 31, 2015

MON LOVE SIB MUEN (2015, Pariphan Vacharanon, A+25)

MON LOVE SIB MUEN มนต์เลิฟสิบหมื่น (2015, Pariphan Vacharanon, A+25)

--มันไม่ใช่หนัง genre ที่เราชอบเลยนะ และนั่นก็เลยทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้มากถึงระดับ A+25 เพราะเรารู้สึกว่ามันมีหนัง genre นี้ไม่กี่เรื่องที่เราชอบมันจริงๆ อีกเรื่องที่เราชอบมากๆคือ “ไอ้ทุย” (1971, ดอกดิน กัญญามาลย์)

--คือปกติแล้วเราคงมองหนังตลกชนบทไทยแบบนี้ในแง่ไม่ดีด้วยมั้ง คือเราอาจจะมองมันแบบดูถูกหน่อยๆอะไรแบบนี้ ว่าเป็นหนังที่ทำขึ้นเพื่อ “หวังเงิน” อย่างเดียว กะขายความฮาชั้นต่ำ ขี้ๆเยี่ยวๆไปเรื่อยๆ แต่พอได้ดูเรื่องนี้ เราก็พบว่ามันไม่ได้ทำขึ้นแบบสุกเอาเผากิน แต่มันเป็นหนังที่ตั้งอกตั้งใจทำมากๆ ดูแล้วรู้สึกเลยว่าผู้กำกับ-คนเขียนบทตั้งใจทำงานมากๆ ทำให้นึกถึงความรู้สึกของตัวเองตอนดู DUMB AND DUMBER TO (2014, Bobby Farrelly + Peter Farrelly) คือก่อนหน้านั้นเรามองว่า หนังตลก Jim Carrey นี่คงเป็นอะไรที่ต่ำมากๆ แต่พอได้ดู DUMB AND DUMBER TO เราก็พบว่ามันเป็นหนังที่เขียนบทดีมากๆ มันไม่ใช่หนังที่สร้างมุขตลกต่อๆกันไปเรื่อยๆ แต่เป็นหนังที่วางพล็อตไว้รัดกุมสุดๆ

ทั้ง DUMB AND DUMBER TO กับมนต์เลิฟสิบหมื่น ก็เลยเป็นหนังที่สร้างความประหลาดใจให้เราในแง่บวกมากๆในปีนี้ เพราะก่อนดูหนังสองเรื่องนี้ เรามองมันแบบดูถูก แต่พอได้ดูจริงๆ ก็ต้องยกนิ้วให้ผู้กำกับกับคนเขียนบทเลย

--คือจริงๆ “มนต์เลิฟสิบหมื่น” มันก็อาจจะไม่ใช่หนังที่ดีมากนะ แต่มันออกมาดีเกินความคาดหมายของเราอย่างมากๆน่ะ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความคาดหมายของเราที่มีต่อตัว genre ของมัน

อีกอย่างที่ได้ใจเรา ก็คือมันเป็นหนังไทยแบบที่หายากแล้วในปัจจุบัน เราก็เลยรู้สึกว่าผู้สร้างหนังเรื่องนี้น่าสนใจดี ที่หยิบยกเอา genre ที่เหมือนตายไปแล้วกลับมาทำใหม่ ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง ร.ด.เขาชนผี ที่เขาชนไก่ (Tanwarin Sukkhapisit) ที่หยิบยกเอา genre หนังไทยเกรดบีในอดีตมาปัดฝุ่นใหม่เหมือนกัน

แต่เราชอบมนต์เลิฟสิบหมื่นมากกว่าร.ด.เขาชนผีมากพอสมควรนะ เพราะเราว่าอารมณ์ในมนต์เลิฟสิบหมื่นมัน flow กว่ามาก และเราว่าผู้กำกับหนังเรื่องนี้เขาคงชอบ genre หนังแบบนี้จริงๆ มันเหมือนผู้กำกับพบ “เสื้อที่ใส่พอดีตัว” หรืออะไรแบบนี้น่ะ ในขณะที่ร.ด.เขาชนผีมันเหมือนกับว่าผู้กำกับเจอเสื้อที่คับเกินไปหรืออะไรแบบนี้ มันเหมือนกับว่า genre หนังของร.ด.เขาชนผี มันไปบีบคั้นหรือปิดกั้นความสามารถหรือความถนัดของผู้กำกับไม่ให้ออกมาได้อย่างเต็มที่ อารมณ์ที่ได้จากร.ด.เขาชนผีก็เลยไม่ราบรื่นแบบมนต์เลิฟสิบหมื่น

--อีกสิ่งหนึ่งที่เราว่าน่าสนใจดีในหนังเรื่องนี้ ก็คือเรารู้สึกว่ามันเป็นหนังตลกไทยที่อาศัยความสามารถของคนเขียนบทกับผู้กำกับมากพอสมควร ซึ่งแตกต่างจากหนังตลกไทยหลายๆเรื่องในระยะหลัง ที่มันอาศัยความสามารถของ “ดาวตลก” ที่มาแสดง มากกว่าตัวผู้กำกับน่ะ ทั้งหนังที่กำกับโดยเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (เรารู้สึกว่าพลังของหนังมันมาจากการแสดงของเพ็ชรทายกับพรรคพวก มากกว่าจากการกำกับของเขา), พจน์ อานนท์ และฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เรารู้สึกว่าสิ่งที่ดีที่สุดในหนังอย่าง แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า (2006, ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์) กับหนังชุดหอแต๋วแตกของพจน์ อานนท์ คือการแสดงของโก๊ะตี๋น่ะ แต่มันอาจจะไม่ได้มาจากความสามารถของตัวผู้กำกับจริงๆ คือหนังพวกนี้มันดีตรงที่มันปล่อยให้ดาวตลกบางคนได้ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ในขณะที่หนังอย่าง “มนต์เลิฟสิบหมื่น” มันต่างออกไป เพราะมันไม่ได้พึ่งพาความสามารถของดาวตลก แต่มันพึ่งพาความสามารถของผู้กำกับกับคนเขียนบทด้วย




No comments: