OPPA (1951, Neramit, A+15)
พี่ชายทักษิณ แจ่มผล หล่อดี
(ชื่อหนังภาษาต่างประเทศ เราตั้งขึ้นมาเองนะ 55555)
--
HER INDEX FINGER (1953, S. Asanajinda, Sakkasem Hutakom, A+30)
ดรรชนีนาง
ดูด้วยอาการน้ำลายฟูมปาก เพราะอยากได้ "พ่อของนางเอก" มาก ๆ เขาหล่อถูกใจตรงสเปคดิฉันอย่างสุด ๆ ค่ะ แต่ไม่รู้ว่านักแสดงที่เล่นเป็นพ่อของนางเอกชื่ออะไร มีใครรู้บ้างคะ
--
TILL DEATH (2021, S.K. Dale, A+25)
เป็นหนังที่สนุกมากสำหรับเรา ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรมาก สนุกพอ ๆ กับการเล่นไล่จับและการเล่นซ่อนหากับเพื่อน ๆ ตอนป.1
อยากฉายควบกับ THAT DAY (2003, Raul Ruiz)
--
FATE/ GRAND ORDER FINAL SINGULARITY -- THE GRAND TEMPLE OF TIME: SOLOMON (2021, Toshifumi Akai, Japan, animation, A+30)
พอดูหนังเรื่องนี้แล้วเลยนึกถึงความเชื่อของแม่มดเลย ที่เกี่ยวกับคัมภีร์ของกษัตริย์ Solomon เรื่องของ "ศาสตร์แห่ง Goetia" ที่ใช้ในการปลุกปีศาจ 72 ตนขึ้นมารับใช้
ดีใจที่หนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องนี้ แต่หนังมันออกมาในแนววิดีโอเกมบู๊ล้างผลาญ ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วเราจะอยากให้มีคนนำประเด็นนี้มานำเสนอในแบบหนังลี้ลับสยองขวัญแนว THE CONJURING + DOCTOR SLEEP มากกว่า
--
พอดู SPENCER แล้วภาวนาขอให้มีคนเอาเรื่องการสังหารหมู่ราชวงศ์เนปาล 10 คนมาทำเป็นหนังด้วยเถอะ แล้วทำออกมาให้ได้ดีแบบ SPENCER คือแค่เรื่องของไดอาน่าเรายังรู้สึกว่าเธอพร้อมจะระเบิดเป็นจุณตลอดเวลา แล้วเรื่องการสังหารหมู่ราชวงศ์เนปาลนี่ ถ้าทำดี ๆ มันต้องหนักสุดขีดแน่นอน
--
THE LAST LAMPPOST (2021, Adisak Phupa, video installation) from the exhibition DE-CONSCIENTIZATION
รุนแรงมาก ๆ
--
นึกว่าพลังจิตของผู้สร้างหนังส่งถึงกันเอง 555 หนังเรื่อง ANITA ที่ลงโรงฉายอยู่ตอนนี้ใช้เพลงสำคัญเป็นเพลงของเหมยเยี่ยนฟางที่เป็นการนำเพลง YUYAKE NO UTA ของมัตจิ Masahiko Kondo มาทำใหม่ แล้วปรากฏว่างาน video installation THE LAST LAMPPOST (2021, Adisak Phupa) ที่จัดแสดงอยู่ตอนนี้ ก็ใช้เพลง YUYAKE NO UTA ของมัตจิ สามีเก่าของเรา เป็นเพลงธีมหลักเหมือนกัน แล้วถ้าเราจำไม่ผิด หนังเรื่อง PULANG (2020, Yam Kin Wai, Malaysia/Taiwan) ก็ใช้เพลงนี้เป็นเพลงหลักด้วย
ประหลาดดีที่เพลงที่มีอายุนานกว่า 30 ปีเพลงนี้ อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเพลงธีมหลักทั้งในหนังไทย, มาเลเซีย, ฮ่องกงในช่วงนี้ 555
--
MANDIBULES (2020, Quentin Dupieux, France, A+30)
1.สุดฤทธิ์ หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหล เหมือน sense of humour ของหนังเรื่องนี้มันตรงกับเรามาก ๆ และเหมือนพอผ่านไป 10 นาทีแรกเราก็รู้แล้วว่า หนังเรื่องนี้ต้องติดอันดับประจำปีของเราอย่างแน่นอน เพราะเหมือนมันกำหนดให้เรื่องราวของมันอยู่ในจักรวาลที่ "ANYTHING IS POSSIBLE" ซึ่งเป็นจักรวาลแบบที่ทำให้เรารู้สึกปลดปล่อย สบายใจ มีความสุขเปี่ยมล้นมากที่สุด เหมือนเราสามารถสลัดทุกอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง, ไม่ต้องแคร์กฎของ genre หนังใด ๆ และไม่ต้องแคร์ตรรกะและเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป เราก็เลยมีความสุขกับหนังมาก ๆ
2.ปกติเราจะเกลียดหนังที่ตัวละครโง่ๆ แต่หนังเรื่องนี้มันจงใจและรู้ตัวว่าตัวละครของมันโง่ที่สุด และใช้ประโยชน์จากความโง่ของตัวละครอย่างเต็มที่ เราก็เลยชอบมันมาก ๆ
--
INVISIBLES (2018, Louis-Julien Petit, France, A+30)
1.หนังเกี่ยวกับความพยายามในการช่วยเหลือสตรีไร้บ้านในฝรั่งเศสให้กลับมาหางานทำได้อีกครั้ง เพราะพอพวกเธอมีงานทำ พวกเธอก็จะมีเงินเช่าห้อง และไม่ต้องอยู่ในสถานะไร้บ้านอีก ชอบเนื้อเรื่องแบบนี้มาก ๆ
2.หนังมีตัวละครดี ๆ หลายตัว หนึ่งในตัวที่เราชอบสุด ๆ คือหญิงวัยกลางคนที่เคยติดคุกเพราะฆ่าสามีตาย เธอหางานทำไม่ได้ กลายเป็นคนไร้บ้าน และชอบเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ตามกองขยะมาถอดประกอบ เพื่อศึกษาการทำงานของเครื่อง และเรียนรู้ที่จะเป็นช่างซ่อมด้วยตัวเอง
--
SPIDER-MAN:NO WAY HOME (2021, Jon Watts, A+30)
Spoilers alert
--
--
--
--
--
1. มันเป็น "หนังต่อต้านโทษประหารชีวิต" เหรอคะ 55555
2.ตอนแรกรำคาญความเรื่องมากและความโลกสวยของ ตัวละครที่แสดงโดย Tom Holland มาก ๆ และเรารัก Doctor Strange มาก ๆ แต่ยังดีที่ Tom Holland เหมือนได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงจากความโลกสวยของตัวเอง เราก็เลยไม่ได้รู้สึกต่อต้านความโลกมุ้งมิ้งของหนังมากเกินไป
3.รักการรวมตัวละครในหนังเรื่องนี้อย่างสุด ๆ เพราะเราก็ชอบจินตนาการเอาตัวละครจากหนังหลาย ๆ เรื่องมาปะทะกันในหัวของเราเหมือนกัน
4.ชอบที่หนัง "คืนความเป็นมนุษย์" ให้ Dr. Octavius เพราะก่อนหน้านี้เรามองว่าเขาเป็นเพียงแค่ตัวร้ายโง่ ๆ
5.ชอบการนำเสนอบุคลิกของ Tobey Maguire กับ Andrew Garfield มาก ๆ เพราะ Tobey ดู "ผ่านชีวิตมาแล้ว" และ Andrew ดู "เต็มไปด้วยความเจ็บปวด" และเอาจริง ๆ แล้ว เรารักผู้ชายแบบนี้ แบบที่ "เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของชีวิต" ไม่ใช่แบบเด็กโลกสวยอย่าง Tom Holland เพราะฉะนั้นเราก็เลยร้องไห้กับ Andrew Garfield ในภาคนี้ การปรากฏตัวของเขาและบุคลิกของเขาในภาคนี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้ถึงขั้น A+30
6.สรุปว่า ชอบ SPIDER-MAN ภาคนี้มากที่สุดเท่าที่เคยดูมา (รวมถึงละครทีวี ไอ้แมงมุมที่เราเคยดูในทศวรรษ 1980) เพราะภาคนี้ได้ตัวละครหลายตัวมาช่วย โดยเฉพาะ Doctor Strange กับ Andrew Garfield แต่ก็ชอบหนังเรื่องนี้มากพอ ๆ กับ SPIDER-MAN: INTO THE SIDER-VERSE (2018, animation) นะ
ตัดสินไม่ได้ว่าชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน
7.จริง ๆ แล้วเราไม่ค่อยอินกับ spider-man ในทุก ๆ ภาค แต่อินกับ X-MEN ในทุก ๆ ภาค แม้แต่ภาคที่คนทั่วโลกเกลียดกัน เราก็ยังชอบมันอย่างสุด ๆ ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้เราเดาว่า คงเป็นเพราะ SPIDER-MAN หลาย ๆ ภาค มันเป็นเด็กใสซื่อโลกสวย "รักเพื่อนมนุษย์" มั้ง เราก็เลยไม่เคยอินกับมันเลย ในขณะที่ X-MEN มันเต็มไปด้วยตัวละครที่เกลียดมนุษย์ เราก็เลยอินกับมันมาก ๆ 55555
8.ถ้ามี multiverse เราก็หวังว่า "จิตร โพธิ์แก้ว" ในอีกจักรวาลนึง จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และมีสามีราว 36 คน
--
GHOST MANSION (2021, Jo Ba-reun, South Korea , A-)
รู้สึกว่าชอบหนังผีของ Hideo Nakata กับหนังผีของ Takashi Shimizu มากกว่าหนังเรื่องนี้อย่างมาก ๆ
--
MY HERO ACADEMIA: WORLD HEROES MISSION (2021, Kenji Nagasaki, Japan, animation, A+30)
อะไรคือการที่สาว ๆ ในโรงกรีดร้องส่งเสียงครางทุกฉากที่ Bakugo กับ Todoroki ปรากฏตัว 55555
--
PIG (2021, Michael Sarnoski, A+30)
Spoilers alert
--
-'
--
--
-'
1.ชอบที่หนังมันเหมือน "เรื่องราวของจอมยุทธ์" น่ะ เพียงแต่จอมยุทธ์ในที่นี้ไม่ได้เชี่ยวชาญในการใช้กระบี่ แต่เชี่ยวชาญในการทำอาหาร
คือเหมือนพระเอกของเรื่องเป็นจอมยุทธ์ที่ถอนตัวออกจากยุทธภพหลังเมียตาย (แบบในนิยายของโกวเล้ง?) เขาแอบไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษในหุบเขาเร้นลับ แต่พอหมูของเขาถูกขโมยไป เขาเลยกลับมาปรากฏตัวในยุทธภพอีกครั้ง ชื่อเสียงของเขาทำให้ผู้คนเกรงขาม เขาได้เห็นฝีมือกระบี่ของจอมยุทธ์ที่โด่งดังมากในปัจจุบัน แล้วเขาก็สามารถชี้ให้เห็นจุดอ่อนในหัวใจของเพลงกระบี่นั้นได้ เขาให้คนไปเอากระบี่คู่ใจที่ฝากไว้กับคนรู้จัก เขาร่ายรำเพลงกระบี่ขั้นสุดยอดในตำนานของเขาให้ศัตรูดู แล้วพอศัตรูได้เห็นเพลงกระบี่นั้น ศัตรูก็เลยกลับใจ 555
2.ชอบที่มันผิดคาด เหมือนตอนแรกเรานึกว่ามันจะเป็นหนังล้างแค้น แบบ JOHN WICK หรือ MANDY (2018, Panos Cosmatos) แต่มันกลายเป็น BABETTE'S FEAST (1987, Gabriel Axel, Denmark) หรือไม่ตอนแรกเราก็นึกว่ามันจะเป็น IP MAN แต่มันกลับกลายเป็น THE GRANDMASTER (2013, Wong Kar-wai)
3. แต่เราดูแล้วก็ไม่ซึ้งนะ ไม่แน่ใจว่ามันเป็น "หนังต่อต้านทุนนิยม/วัตถุนิยม" หรือเป็น"หนังล้อเลียนหนังต่อต้านวัตถุนิยม" 55555 แต่เราชอบที่หนังมันประหลาดดี
No comments:
Post a Comment