Sunday, January 30, 2022

RICH HILL (2014, Andrew Droz Palermo, Tracy Droz Tragos, documentary, A+30)

 

RICH HILL (2014, Andrew Droz Palermo, Tracy Droz Tragos, documentary, A+30)

 

1.หนักมาก ๆ หนังสารคดีที่ติดตามชีวิตเด็กวัยรุ่นชายมีปัญหา 3 คนในสหรัฐ นึกว่าต้องฉายควบกับ SCHOOL TOWN KING

 

2. เด็กคนนึงในหนังเป็นเด็กเล่นสเก็ต ที่มีปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงกับเพื่อน จนในที่สุดเขาก็ถูกส่งเข้าสถานดัดสันดาน

 

3.เด็กคนที่สองเป็นเด็กหนุ่มหล่อน่ารักหน่วยก้านดีที่ดิฉันหลงรัก แต่ครอบครัวของเขายากจนสุด ๆ แม่ของเขาป่วยจนทำงานไม่ได้ ส่วนพ่อของเขาก็ประหลาด คือเหมือนทนทำงานไหนไม่ได้นาน ๆ และชอบย้ายเมืองไปหางานใหม่ไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยเหมือนมีปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงสุด ๆ ต้องรับจ้างทำงานต่าง ๆ เท่าที่จะพอหาได้ แล้วเขาก็ขาดกลุ่มเพื่อนสนิทด้วย เพราะเขาต้องย้ายโรงเรียนไป ๆ มา ๆ เป็นประจำ ดูแล้วก็รู้สึกสงสารเขามาก ๆ

 

4. แต่เด็กหนุ่มคนที่ 3 นี่หนักที่สุดในชีวิตการแสดง น่ากลัวขนหัวลุกมาก ๆ เพราะเป็นเด็กหนุ่มที่มีความรุนแรงอัดแน่นอยู่ในตัวมาก ๆ เขาอาศัยอยู่กับย่า และเขาหลงใหลในมีดด้ามโต ๆ มีครั้งนึงที่ย่าพูดอะไรนิดนึงกับเขาที่ระเบียงแล้วทำให้เขาไม่พอใจ เขาก็เลยชักมีดเล่มโตขึ้นมา แล้วเสียบเข้าที่ราวระเบียงต่อหน้าย่า คือเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าทีมงานถ่าย doc ด้วย คือดูแล้วก็ไม่รู้ว่า ถ้าไม่มีทีมงานถ่ายหนังอยู่ด้วย เด็กคนนี้จะน่ากลัวขนาดไหน

 

ฉากที่เด็กหนุ่มคนนี้ถูกเด็กสาวผิวดำตบหน้าอย่างรุนแรงกลางโรงเรียนก็ดีมาก ๆ

 

แต่หนังก็ทำให้เราเปลี่ยนความเห็นที่มีต่อเด็กคนนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะตอนแรกเรากลัวเด็กหนุ่มคนนี้อย่างมาก ๆ แต่หลังจากนั้นเราก็เข้าใจเขามากขึ้น เพราะเขาเล่าในวัน Halloween ว่าพ่อกับแม่ของเขาหย่ากัน เขาอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง และเขาถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แม่ของเขาก็เลยฆ่าพ่อเลี้ยงตาย (ถ้าเราจำไม่ผิด) และแม่ของเขาก็เลยติดคุกนานหลายปีทั้ง ๆ ที่เธอทำเพื่อช่วยเหลือเขาที่ถูกข่มขืน หลังจากนั้นเขาก็เลยมาอาศัยอยู่กับย่า โดยหนังเรื่องนี้ได้ตามไปสัมภาษณ์แม่ของเขาที่อยู่ในคุกด้วย

 

คือพอรู้อย่างนี้แล้วเราก็เลยเข้าใจว่าทำไมเขาถึงเป็นชายหนุ่มที่อัดแน่นด้วยความรุนแรงอยู่ในตัวน่ะ เพราะเขาผ่านอะไรที่หนักหนาสาหัสมาเยอะมากจริง ๆ เขาคงอยากอยู่กับแม่ด้วยแหละ แต่แม่ติดคุกเพราะช่วยเหลือเขา และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาคงทำให้เขาไม่สามารถมองโลกอย่างสดใสได้แบบเด็กคนอื่น ๆ

 

กราบทีมงานสร้างหนังเรื่องนี้มาก ๆ ที่ถ่ายทอดชีวิตเด็กหนุ่มเหล่านี้ให้พวกเราได้ชมกัน มันหนักหนาสาหัสมากจริง ๆ

 

 

PLOY (2020, Prapat Jiwarangsan, documentary, 51min, A+30)

 

1.รู้สึกว่าทั้งเนื้อหาและวิธีการของหนังน่าสนใจดี โดยเนื้อหาหลัก ๆ ของหนังเล่าถึงหญิงสาวชาวไทยที่ไปทำงานเป็นโสเภณีในป่าที่สิงคโปร์ และถูกทหารกูรข่าจากเนปาลคนหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ

 

ส่วนวิธีการของหนังนั้นเหมือนเน้นถ่าย location ต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้นึกถึงหนังอย่าง A.K.A. SERIAL KILLER (1969, Masao Adachi) ที่เน้นถ่ายสถานที่ที่ subject เคยใช้ชีวิตอยู่เหมือนกัน

 

เราว่าตัวเนื้อหาของหนังนั้นน่าสนใจอยู่แล้ว และวิธีการที่หนังใช้ก็มีข้อน่าสนใจบางอย่าง เพราะเราคิดว่า ถ้าหนังเรื่องนี้เลือกนำเสนอเรื่องราวด้วยการ reenactment เหตุการณ์ โดยให้นักแสดงมาเล่นเป็นโสเภณี เราจะรู้สึกว่าเรากำลังดูเรื่องราวของคนคนเดียว และมันจะง่ายต่อการเป็นหนังเร้าอารมณ์ melodrama แต่พอหนังเลือกถ่ายแต่ locations ต่าง ๆ เป็นหลักแบบนี้ หนังเลยเหมือนสะท้อน “ภาพรวม” ของปัญหาได้มากยิ่งขึ้น และลดทอนอารมณ์ melodrama ต่างๆ ลงไป

 

2.การขีดเขียนลงบนภาพถ่ายของหญิงสาวต่าง ๆ ก็น่าสนใจดี คือเราไม่รู้หรอกว่ามันสื่อถึงอะไร แต่มันติดตามาก ๆ

 

3.เหมาะฉายควบกับ REMOTE SENSING (2001, Ursula Biemann, Switzerland, documentary, 56min, A+30) มาก ๆ เพราะ REMOTE SENSING ก็นำเสนอเรื่องโสเภณีข้ามชาติเหมือนกัน โดยหนังเรื่องนี้เน้นถ่ายแผนที่การเดินทางของโสเภณีข้ามชาติทั่วโลก

 

4.เหมือนก่อนหน้านี้เราเคยดูหนังเกี่ยวกับ “โสเภณีในป่าที่สิงคโปร์” แค่เรื่องเดียวเองมั้ง ซึ่งก็คือเรื่อง A YELLOW BIRD (2016, K. Rajagopal) โดยในหนังเรื่องนั้นเล่าเรื่องของโสเภณีชาวจีน ถ้าจำไม่ผิด

 

5.ดูแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า นอกจากที่สิงคโปร์แล้ว ก็มีที่ฝรั่งเศสที่มีโสเภณีเลือกใช้ป่าในสวนสาธารณะเป็นสถานที่ทำงาน เพราะในปีที่แล้วเราได้ดูหนังสารคดีสองเรื่องที่นำเสนอเรื่องนี้ ซึ่งได้แก่ THE WOODS DREAMS ARE MADE OF (2015, Claire Simon) และ LOCKED OUT (2020, Julien Goudichaud, France) แต่ดูเหมือนว่าตำรวจฝรั่งเศสไม่ได้ตามจับโสเภณีเหล่านี้นะ เหมือนตำรวจปล่อยให้โสเภณีเหล่านี้ทำงานในสวนสาธารณะ/ป่าได้ตามสบาย แต่ต้องไม่เกินเวลาเคอร์ฟิวในช่วง lockdown ซึ่งเราคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสุด ๆ ที่ตำรวจฝรั่งเศสปล่อยให้โสเภณีเหล่านี้ทำงานได้ตามสบาย (อย่างน้อยก็เท่าที่เห็นในหนังสารคดีสองเรื่องนี้)

No comments: