SUMURUN (1920, Ernst Lubitsch, Germany, A+30)
SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
1.อันนี้เป็นหนังเรื่องที่ 5 ของ Lubitsch ที่เราได้ดู และเราก็พบว่าเราถูกโฉลกกับหนังของเขาจริงๆ
ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าตัวละครหญิงในหนังของเขามันเข้าทางเรามากๆ
เราว่าตัวละครหญิงในหนังของเขาเหมือนจะเป็นญาติๆกับตัวละครหญิงในหนังของ
Paul Verhoeven เลยน่ะ ทั้งๆที่สองคนนี้ทำหนังคนละ genre กัน เพราะตัวละครหญิงในหนังของผู้กำกับทั้งสองคนนี้ต่างก็ “เข้มแข็งมาก”
และ “เงี่ยนมาก” กว่าตัวละครหญิงในหนังทั่วๆไป ซึ่งความเงี่ยนนี่เป็นปัจจัยสำคัญเลย
เพราะนางเอกในหนังทั่วไปมักจะ “ต้องการความรัก”
แต่ไม่ค่อยแสดงออกถึงความต้องการทางเพศ แต่ตัวละครหญิงในหนังของ Lubitsch และ Paul Verhoeven นี่จะกล้าแสดงความต้องการทางเพศออกมา
ใน SUMURUN นี่จะมีตัวละครหญิงที่เราชอบสุดๆถึง 3 ตัว
ซึ่งได้แก่ Sumurun (Jenny Hasselqvist), Yannaia (Pola Negri) และ Haidee (Aud Egede-Nissen) โดย Sumurun นี่เป็นตัวละครที่เข้มแข็งสุดๆ มีฉากนึงที่เธอถูกชี้คทรราช (Paul
Wegener) สั่งให้กราบเท้าขอขมา แล้วเขาจะไว้ชีวิตให้ แต่ Sumurun
เธอไม่ยอมขอขมาทรราช เธอยอมถูกประหารชีวิตดีกว่าที่จะยอมก้มหัวให้ทรราชชั่วๆแบบนี้
ส่วน Yannaia เป็นตัวละครหญิงที่เงี่ยนมาก
และมีลักษณะที่ทำให้นึกถึงตัวละครหญิงในหนังของ Verhoeven หรือตัวละครหญิงแบบ
“อีพริ้ง คนเริงเมือง” และนางเอกใน “ทองประกายแสด” Yannaia เป็นตัวละครหญิงที่พยายามเสยหีใส่หนุ่มหล่ออย่างรุนแรง
ซึ่งตัวละครหญิงที่ “เงี่ยนมาก” แบบนี้ เวลาอยู่ในหนังไทยหรือละครไทย
มันมักจะได้รับบทเป็นเพียงแค่ “นางอิจฉา” น่ะ แต่ในหนังเรื่อง SUMURUN นี้ ตัวละคร Yannaia ถือเป็นนางเอกหรือหนึ่งในนางเอกของเรื่องเลยทีเดียว
และหนังก็ดูเหมือนจะรักเธอและปฏิบัติต่อเธอในฐานะมนุษย์คนนึง
แทนที่จะปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นเพียงนางแพศยาที่สมควรถูกลงโทษ
ส่วน Haidee นั้น ถ้าเป็นในหนังไทยหรือละครไทย
เธอจะเป็นเพียงตัวละครประเภท “เพื่อนนางเอก” ที่มีหน้าที่เพียงแค่ให้กำลังใจนางเอก
คอยช่วยเหลือนางเอก
หรือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นางเอกได้ระบายความในใจออกมาให้ผู้ชมได้รับรู้
(คือนางเอกจะคุยกับเพื่อนนางเอก เพื่อที่ผู้ชมจะได้รู้ว่านางเอกคิดอะไร)
แต่ตัวละครประเภท “เพื่อนนางเอก” นี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับอนุญาตให้สวยกว่านางเอก
หรือมีคุณสมบัติโดดเด่นเกินหน้าเกินตานางเอกน่ะ
แต่หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราชอบ SUMURUN อย่างสุดๆ ก็คือการที่ตัวละคร
“เพื่อนนางเอก” ในหนังเรื่องนี้ มันหลุดออกจากกรอบของมันน่ะ เพราะตัวละคร
Haidee นี้ มีบุคลิกภาพที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตามากๆ
คือเธอมีบทบาทคอยช่วยเหลือ Sumurun (ซึ่งเป็นหนึ่งในนางเอก) ก็จริง
แต่หนังขับเน้น “ความฉลาด” ของตัวละครตัวนี้อย่างรุนแรง จนเธอดูเหมือนอิ๊คคิวซัง +
MacGyver + อึ้งย้ง ไปเลย เธอเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
และสามารถใช้หัวสมองของเธอในการช่วยให้นางเอกรอดจากสถานการณ์คับขันได้หลายครั้ง
และในฉากของ “การประกาศความเป็นไท” นั้น
เธอก็เป็นตัวละครที่โผล่ออกมาอย่างสง่างามเป็นคนแรก แทนที่จะเป็นตัว Sumurun
คือการที่หนังสร้างความสง่างามให้กับตัวละคร “เพื่อนนางเอก” แบบนี้
มันเป็นสิ่งที่เราชอบมากๆน่ะ
2.นอกจากการสร้างตัวละคร “เพื่อนนางเอก” ที่หลุดออกจากกรอบของความเป็นเพื่อนนางเอกแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราชอบ SUMURUN อย่างสุดๆ
ก็คือการสร้างตัวละคร “ตัวตลก” ที่หลุดออกจากกรอบของความเป็นตัวตลกด้วย คือใน SUMURUN
นี่ มันจะมีตัวละครลุงป้าคู่หนึ่ง ที่ทำให้นึกถึง “ล้อต๊อก” กับ “ชูศรี”
ในหนังไทยยุคเก่าน่ะ
คือมันเป็นตัวละครลุงป้าที่เหมือนมีบทบาทแค่มาช่วยเรียกเสียงหัวเราะให้กับหนังเป็นระยะๆเท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้ว เราก็ดูหนังไทยยุคเก่าไม่เยอะนะ
แต่เท่าที่เราจำได้ ตัวละครประเภท ล้อต๊อก+ชูศรี หรือตัวตลกประเภท “ดอกดิน
กัญญามาลย์ + อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา” ในหนังของดอกดิน หรือตัวละครที่แสดงโดยค่อม
ชวนชื่นในหนังไทยยุคปัจจุบัน มันจะอยู่ในกรอบของความเป็นตัวตลกน่ะ
มันมักจะไม่ค่อยทำอะไรเกินหน้าเกินตาพระเอกนางเอก หรืออยู่ดีๆก็กลายเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้พล็อตเรื่องพลิกผันไปอย่างรุนแรง
คือตัวตลกในหนังไทยประเภทนี้ มันมักจะเป็นตัวละครที่สามารถตัดออกไปจากหนังได้เลย
โดยที่เนื้อเรื่องแทบไม่เปลี่ยนไปจากเดิม อาจจะมียกเว้นก็อย่างเช่นบทของชูศรีใน “เมืองขอทาน
ขี้กลากคอนกรีต” (1978, เพิ่มพล เชยอรุณ) ที่ไม่ได้ถูกจำกัดกรอบให้มีบทบาทเป็นเพียงแค่ตัวตลก
แต่เธอมีบทบาทเป็น “เจ้าแม่” ในเรื่อง
ซึ่งจริงๆแล้วเราจะไม่ชอบการจำกัดกรอบให้กับ “เพื่อนนางเอก”, “นางอิจฉา”,
“ตัวตลก” ในหนังไทยแบบนี้เท่าไหร่ มันไม่เข้ากับรสนิยมของเรา หรือมันไม่เข้ากับวิธีการที่เราใช้มองมนุษย์
เพราะฉะนั้นเราก็เลยชอบตัวละครลุงป้าใน SUMURUN อย่างมากๆ
เพราะตอนแรกเรานึกว่าลุงป้าคู่นี้มันจะมีบทบาทเรียกเสียงฮาเหมือนอย่างล้อต๊อก+ชูศรีเท่านั้น
แต่ไปๆมาๆ ปรากฏว่า หนัง treat ความรักและความเงี่ยนของตัวละครลุงป้าคู่นี้อย่างจริงจังสุดๆ
และพอถึงตอนจบของหนัง ก็ปรากฏว่า ตัวละครลุงหลังค่อมที่ถ้าหากอยู่ในหนังไทย
ก็จะกลายเป็นตัวละครที่ถูกจัดให้อยู่ในชั้นล่างสุดหรือเกือบล่างสุด (ลำดับชั้นอาจจะเป็น พระเอก-นางเอก-ผู้ร้าย-นางอิจฉาหรือดาวยั่ว-พระรอง-นางรอง-ตัวตลก-คนใช้พระเอกและนางเอก)
นี่แหละ ที่กลายเป็นคนที่ลุกขึ้นมาฆ่าทรราชได้
คือในหนังไทย ตัวละครที่ลุกขึ้นมาฆ่าทรราช หรือผู้ร้ายหัวโจกของเรื่อง
มักจะเป็นพระเอกหรือนางเอกน่ะ ในขณะที่ตัวตลกของเรื่อง
มักจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรแบบนี้ แต่ใน SUMURUN นี่ บทบาทการฆ่าทรราช
กลับเป็นของตัวละครที่มีลักษณะคล้ายตัวตลกแบบล้อต๊อก เราก็เลยชอบจุดนี้อย่างสุดๆ
มันเหมือนกับว่าในแง่นึง หนังเรื่องนี้มัน treat ตัวละครของมันอย่างค่อนข้างเสมอภาค
หรือมันมองมนุษย์แบบที่เรามองน่ะ มันไม่ได้มองว่า “เพื่อนนางเอก” และ “ตัวตลก”
ห้ามทำอะไรเกินหน้าเกินตาพระเอกนางเอกเป็นอันขาด
แต่มันยอมรับว่าตัวละครแต่ละตัวต่างก็เป็นมนุษย์ที่มี potential ที่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น คนที่อยู่ชั้นล่างสุด
ก็สามารถลุกขึ้นมาฆ่าและโค่นล้มคนที่อยู่ชั้นสูงสุดอย่างชี้คในเรื่องได้ นอกจากนี้
“หญิงสาวที่เงี่ยนหนุ่มหล่ออย่างรุนแรง” ในหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ถูก treat
เป็นเพียงแค่นางอิจฉาหรือดาวยั่วด้วย แต่ถูก treat เป็นหนึ่งในนางเอกของเรื่อง ซึ่งก็ถือเป็นการทะลายกรอบตัวละครนางเอก-นางอิจฉาด้วยเช่นกัน
กราบตีน Ernst Lubitsch จริงๆค่ะ
หนังเรื่องนี้มีให้ดูใน Youtube นะคะ
No comments:
Post a Comment