#แอฟริกาครั้งแรกมาแล้วจ้า
#AfricaFirstTime (2023, Jutha Saovabha, 86min, A+25)
1.ชอบหลาย ๆ
ส่วนของหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะช่วงท้าย แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เราไม่ได้ชอบหนังมากถึงขั้น
A+30 (ชอบสุดขีด) เป็นเพราะว่าจุดประสงค์ส่วนหนึ่งของหนังไม่ตรงกับสิ่งที่เราสนใจน่ะ
55555 คือเราเดาว่าจุดประสงค์ส่วนหนึ่งของหนังคือการ
1.1 เสียดสี Influencers/Youtubers ที่เป็นนักท่องเที่ยว ทำ content เดินทาง
ซึ่งจริง ๆ แล้วจุดนี้อาจจะเป็นจุดที่ดีในสายตาของผู้ชมคนอื่น ๆ แต่เนื่องจากตัวเราเองเป็นคนที่ไม่เคยติดตามดู
content การเดินทางท่องเที่ยวอะไรพวกนี้เลย
เพราะฉะนั้นเราก็จะ blank มาก ๆ ว่า เขาเสียดสีอะไร ปกติแล้ว
influencers/Youtubers พวกนี้มีพฤติกรรมหรือทัศนคติเหี้ย ๆ
ห่า ๆ อะไรบ้างเหรอ อะไรทำนองนี้ 5555 คือเหมือนเราพอเดาได้ว่าหนังเสียดสีคนกลุ่มหนึ่ง
แต่เนื่องจากเราเองไม่มีพื้นฐานความรู้มาก่อนว่าคนกลุ่มที่เขาเสียดสีมีพฤติกรรมอะไรบ้าง
เราก็เลยจะงง ๆ และไม่สนใจเนื้อหาตรงส่วนนี้ของหนัง
1.2 เสียดสีสลิ่ม ที่ชื่นชมประเทศไทยมากเหลือเกิน
หลงชาติตัวเองมาก ๆ
ซึ่งเราเองพอไม่ได้ใช้ชีวิตคลุกคลีกับสลิ่มมากเท่าไหร่ในระยะหลัง
เราก็เลยเหมือนไม่ได้รู้สึกอยากตอบโต้สลิ่มอย่างรุนแรงมากเหมือนแต่ก่อนน่ะ เราก็เลยอาจจะไม่ได้อินหรือสะใจหรือขำขันตรงจุดนี้ของหนังมากนัก
แต่ก็เข้าใจได้ดีว่าย่อมต้องมีผู้ชมคนอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องทำงานร่วมกับสลิ่มทุกวัน
หรือเผชิญกับทัศนคติแย่ ๆ จากคนที่ทำงาน,คนที่บ้าน, etc. ผู้ชมคนอื่น ๆ ก็เลยอาจจะชอบหนังตรงจุดนี้ก็ได้
2.แต่เราชอบการใส่ฉากคนดำทำงานพิธีการบางอย่างเข้ามาในหนังเรื่องนี้นะ
คือเราชอบส่วนที่มีความเป็น “สารคดี” ในหนังเรื่องนี้เป็นส่วนใหญ่น่ะ คือจริงๆ แล้วเราอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังสารคดีไปเลย
ไม่ต้องเป็น fiction ไม่ต้องให้อินกับคินมาเล่นบทบาทเป็น
youtuber ที่มีทัศนคติบ้ง ๆ หรือเป็นสลิ่มก็ได้
คืออย่างฉากที่มี voiceover พูดเชิดชูประเทศไทยอะไรเนี่ย เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยชอบ
หรือไม่ค่อยอิน คือเข้าใจว่าหนังคงตั้งใจเสียดสีสลิ่มในฉากนั้นนั่นแหละ แต่เราว่าโดยส่วนตัวแล้ว
เราอยากเห็นทัศนคติตัวตนความฉลาดของอินกับคินจริง ๆ ไปเลยมากกว่า ไม่อยากเห็นสองคนนี้มาเล่นเป็นตัวละครสมมุติที่มีจุดประสงค์เพื่อเสียดสีคนบางกลุ่ม
3.แต่ก็มี fiction บางส่วนของหนังที่เราชอบนะ
เพราะมันพูดถึงประเด็นที่เราสนใจ นั่นก็คือเราชอบฉาก
3.1 ฉากที่ตัวละครถกกันอย่างรุนแรงเรื่องความ
over pc ของคนยุคปัจจุบัน คือเราชอบฉากนี้อย่างสุด ๆ
เพราะเราสนใจประเด็นนี้ และเราชอบให้ตัวละครถกกันในประเด็นที่เราสนใจ
และเราว่าทัศนคติของบางตัวละครก็ตรงกับเรา คือ Haters gonna hate เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องแคร์คนอื่น ๆ มากเกินไปหรอก
3.2 ฉากที่มีคนมา comment วิดีโอของอินกับคินด้วยทัศนคติที่ต่าง ๆ หลากหลาย
และรุนแรง
เพราะเราก็สนใจประเด็นเรื่องความเห็นที่
“ไปกันใหญ่” ของผู้คน, ปรากฏการณ์ “ทัวร์ลง”, การ “จ้องจับผิด” ของผู้คนในสังคม
ที่พร้อมจะตีความการกระทำหรือการแสดงออกของคนอื่น ๆ ไปในทางลบ, etc. เราก็เลยชอบที่หนังนำเสนอเรื่องพวกนี้ออกมา
4.อีกฉาก fiction ที่ชอบมาก คือฉากที่อินกับคินเต้นระบำไปกับเพลง
TOP OF THE WORLD ของ The Carpenters
(ถ้าเราจำไม่ผิด) ซึ่งเป็นฉากที่เราชอบมากโดยไม่มีเหตุผล รู้สึกว่ามันติงต๊อง บ้า
ๆ บอ ๆ ไร้สาระในแบบที่เราชอบ แต่จริง ๆ แล้วมันอาจจะเป็นฉากที่ทำให้หนังเรื่องนี้ติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลง
55555
5.ส่วน part ที่เป็นสารคดี หรือกึ่ง ๆ สารคดีที่เราชอบมาก ๆ ก็รวมถึง
part
5.1 การพูดถึงความเจริญที่จีนนำมาสร้างในแอฟริกา
5.2 อาหารเคนยา
5.3 การคุยกับคนต่าง ๆ ที่ทำงานในสถานทูตไทย
5.4 การบรรยายถึงภาพยนตร์เรื่อง TOUKI BOUKI (1973, Djibril Diop Mambéty, Senegal)
6. โดยรวมแล้ว
ก็สรุปได้ว่า เราชอบหนังเรื่องนี้มากพอสมควร แต่หนังก็ยังไม่ได้เข้าทางเราจริง ๆ
เพราะจริง ๆ แล้วเราคงชอบหนังเรื่องนี้มากกว่านี้อีก ถ้าหากมันทำเป็นสารคดีจริง ๆ
ไปเลย ไม่ต้องเป็น fiction แบบนี้ ไม่ต้องให้นักแสดงมารับบทเป็น
Youtubers สลิ่มอะไรแบบนี้
คือทำเป็นสารคดีที่อัดแน่นด้วยความรู้เรื่องทวีปแอฟริกา, ความรู้เรื่องเคนยา,
ความรู้เรื่องการเมืองเคนยา, เน้นสัมภาษณ์คนเคนยา, เน้นถ่ายทอดวิถีชีวิตคนเคนยา, เน้นสัมภาษณ์คนที่ทำงานในสถานทูต
หรือถ่ายวิวทิวทัศน์เคนยาเป็นหนังทดลองไปเลยก็ได้ แต่ถ้าหากหนังทำออกมาแบบนี้
หนังก็อาจจะเข้าทางเรา แต่ผู้ชมคนอื่น ๆ ก็อาจจะไม่ชอบหรือมองว่าหนังน่าเบื่อก็ได้นะ
55555
-----------
FAVORITE ADVERTISEMENT OF 2023: SF
PLUS FOUR HUSBANDS
ใกล้สิ้นปีแล้ว แต่คิดว่าอันดับหนึ่งโฆษณาที่เราชอบที่สุดของปี
2023 ไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากนี้ 555555 เพราะปกติเราไม่ได้ดูทีวี ก็เลยได้ดูโฆษณาน้อยมาก
มีที่เห็นผ่าน ๆ ตาก็คืออันนี้นี่แหละที่ดูแล้วกรี๊ดที่สุดในปีนี้ ชอบความ homoerotic ของโฆษณา และชอบการเลือก presenters อย่างสุด ๆ เพราะทั้ง 4 คนนี้ตรงสเปคเรามาก ๆ ดีงามมาก ๆ
เรียงลำดับความผัว
1.เจมีไนน์ นรวิชธ์ ฐิติเจริญรักษ์
2.เต ตะวัน วิหครัตน์
3.นนน กรภัทร เกิดพันธุ์
4.โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล
https://www.youtube.com/watch?v=tV9kthYGHKY
จดบันทึกไว้ว่า โปร SF 249 บาท ที่เราสมัครไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
เราได้ใช้ดูหนังไป 7 เรื่อง ซึ่งได้แก่
1.CRAYON SHINCAN THE MOVIE: THE TORNADO LEGEND OF NINJA MONONOKE
(2022, Masakazu Hashimoto, Japan, animation, A+30)
2.TALK TO ME (2022, Danny Philippou,
Michael Philippou, Australia, A+30)
3.THE THREE MUSKETEERS: D’ARTAGNAN
(2023, Martin Bourboulon, France, A+30)
4.RETRIBUTION (2023, Nimród Antal,
B+ )
5.HONEY SWEET (2023, Lee Han, South
Korea, A+30)
6.SAW X (2023, Kevin Greutert, A+25)
7.QUICKSAND (2023, Andres Beltran,
Colombia, A+25)
สรุปว่า เสียตังค์ดูหนังเรื่องละ 249/7
= 35.57 บาทต่อเรื่อง ก็ถือว่าคุ้มมาก ๆ เสียดายที่
SF ไม่ได้มีโปรโมชั่นแบบนี้ต่ออีก
---
ลูกหมีบอกว่า ดูฉากนี้ในหนังเรื่อง HYPNOMISTIC (2023, วิชญภาส ธรรมถุติ, 25min, A+30)
แล้วร้องไห้หนักมาก คิดถึงตัวลูกหมีเอง
เพราะลูกหมีก็ต้องคอยปลอบใจแม่หมีแบบในหนังเรื่องนี้เหมือนกัน
-----
L’ESSENTIAL (เปรมวงศ์ รัตนดิลก
ณ ภูเก็ต) is one of my most favorite films I saw in
2023 หนังเรื่องนี้จะฉายในเทศกาลมาราธอนออนไลน์วันพฤหัสบดีที่ 9
พ.ย.นะ แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบหนังทดลองแนว Teeranit Siangsanoh
No comments:
Post a Comment